เมื่อถึงเวลานั้นแม่สามีนางก็คงจะต้องเห็นแก่เขาให้ของแน่นอน แต่เมื่อสิ่งนี้ให้ออกไปแล้ว ต่อไปนี้นางจะโงหัวขึ้นที่บ้านสามีได้อย่างไร
บ้านแม่ตัวเองต้องการความช่วยเหลือก็เถอะ อย่างน้อยก็พอจะสมเหตุสมผล แต่ทําไมแม้แต่ลุงก็มายืมเงินด้วย?
จังเวยเห็นนางยืนอยู่ที่เดิม นึกว่านางไม่ได้ยินคําพูดของตัวเอง ก็รอจนไม่ไหวแล้ว จึงเดินเข้ามาหาซูจิ่วเย่ว์ด้วยตัวเอง
"จิ่วยา? ไม่ได้เจอกันนาน จําลุงไม่ได้แล้วหรือ? แต่จะว่าไปแล้ว ลุงก็เกือบจะจําเจ้าไม่ได้เหมือนกัน เมื่อก่อนหน้าตาของจิ่วยาเรานั้นดีมาก ตอนนี้โตขึ้นสวยขึ้นเยอะเลยจริงๆ! ถ้าให้ลุงพูดนะ เด็กโง่ตระกูลอู๋นั้นถือว่าได้ของดีไปเลยล่ะ!"
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเดินเข้ามา หลายปีมานี้เขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ยังคงเป็นสภาพที่พูดจาไร้สาระเหมือนเดิม
แค่ปากเดียวของเขา ไม่รู้ว่ากล่อมเอาสิ่งดีๆไปจากบ้านตัวเองมามากน้อยแค่ไหนแล้ว
ครั้งนี้เขาสวมเสื้อคลุมสีเข้ม และสวมมงกุฎสีเงินอยู่บนหัว ดูทรงแล้วเขาคงเจอโอกาสดีๆอะไรเข้าแล้วแหละ
เพียงแต่การแต่งตัวนี้พออยู่กับใบหน้าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาของเขาแล้ว ไม่เหมาะอย่างมาก
สายตาของซูจิ่วเย่ว์มองไปที่เท้าของเขาอีกครั้ง หลังจากเห็นรองเท้าบูทของเขาอย่างชัดเจน คิ้วของซูจิ่วเย่ว์ก็ขมวดขึ้นมา
รองเท้าที่เขาสวมอยู่ไม่ใช่รองเท้าบูทธรรมดา แต่เป็นรองเท้าบูททางการคู่หนึ่ง
ครั้งก่อนที่นางไปในเมืองก็เห็นอาต้าเคยใส่ แม้แต่เหล่าข้าราชการที่ทำงานในอำเภอก็ไม่มีสิทธิ์ใส่ แต่เขามีสิ่งนี้ได้อย่างไร?
ในใจของซูจิ่วเย่ว์เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ในเวลานี้ไม่มีใครสามารถแก้ปริศนานี้ให้นางได้เลย
นางเงยหน้าขึ้น ทิ้งเรื่องเหล่านี้ไว้ทีหลัง หันไปถามลุงของตัวเองว่า "ท่านมาหาถึงที่นี่ได้อย่างไร? แม่ข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"
จังเวยชะงัก เขาคิดไม่ถึงเลยว่านางจะถามถึงแม่ของนาง
แต่เขาไหวพริบดีมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม "แม่เจ้าสบายดีมาก! กินอิ่ม นอนอิ่ม เจ้าสบายใจได้เลย ลุงไม่ปล่อยให้นางต้องลำบากหรอก"
สําหรับคําพูดของเขาแล้ว ซูจิ่วเย่ว์สงสัยสุดๆ
ก่อนหน้านี้นางเคยได้ยินคนในหมู่บ้านพูดถึงว่า หลังจากแม่นางกลับถึงบ้าน ลุงและป้าของนางก็แสดงสีหน้าไม่พอใจใส่นาง
นางที่เป็นลูกก็ใช่ว่าจะไม่ปวดใจ แต่เสียดายความสัมพันธ์ญาติอันน้อยนิดนั้น เริ่มหมดลงทีละเล็กทีละน้อยในช่วงสิบสามปีที่ผ่านมา
ต้องให้นางได้ทนทุกข์ทรมานบ้าง นางถึงจะตระหนักได้ว่าว่าใครกันที่หวังดีด้วยจริงๆ
แต่น่าเสียดายที่หลายเดือนผ่านไป แม่ของนางยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม
แล้วจะมีอะไรให้พูดอีกล่ะ?
"ก็ดีแล้ว ข้ารู้ว่าลุงเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ดูแลแม่ข้าได้อย่างดีแน่นอน"
จังเวยหัวเราะ ก็เห็นหลานสาวยกไหที่วางอยู่ข้างๆนาขึ้นมาเทน้ําหนึ่งชามออกมาดื่มจนหมด และถือชามเปล่ามองมาที่เขา "ลุงคะ ดื่มสักชามไหม?"
จังเวยมาครั้งนี้มีธุระจริงจัง คิดจะดื่มน้ำที่ไหนกันล่ะ
จึงโบกมือ "ไม่ต้องหรอก เจ้าดื่มเองเลย"
ซูจิ่วเย่ว์วางชามนั้นไว้บนไห ลุกขึ้นมาถามเขาว่า "ลุงมาหาข้าตั้งไกล น่าจะไม่ใช่แค่มาพูดเรื่องไร้สาระเหล่านี้ใช่ไหม? ถ้าลุงยังไม่พูดอีก ข้าจะไปทํางานต่อแล้ว"
จังเวยรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าหลานสาวของเขาไม่ค่อยอยากสนิทกับเขามากนัก เมื่อเห็นนางทําท่าจะไป จึงรีบเรียกนาง "เห้ย! เดี๋ยวก่อน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...