“ซ่อนเสร็จแล้วใช่ไหม?” อู๋ซีหยวนถาม
ซูจิ่วเย่ว์เงยหน้าขึ้นก็สบตากับสายตาที่หยอกล้อของเขา เธอก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย และตอบกลับอืมเบาๆ
อู๋ซีหยวนยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกหิวนิดหน่อย เธอจึงยืนขึ้นตาม ชี้ไปที่เสื้อผ้าสกปรกที่เธอใส่ไว้ในกะละมังแล้วพูดว่า “เดิมทีข้าคิดว่าจะช่วยซักให้เจ้า แต่ข้าไม่รู้ว่าต้องไปเอาน้ำที่ใด พวกเราไปกินข้าวกันก่อน หลังจากกินข้าวกลับมา เจ้าค่อยพาข้าไป”
อู๋ซีหยวนโอบเอวที่บางของเธอยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าซักเอง จิ่วเย่วเจ้าเดินทางมาหาข้าอย่างเหน็ดเหนื่อย จะให้เจ้าช่วยข้าซักเสื้อได้อย่างไร?”
ซูจิ่วเย่ว์เม้มริมฝีปากของเธอและตอบโต้อย่างดื้อรั้น “เจ้าต้องเรียนหนังสือ อย่าเสียเวลากับเรื่องนี้ ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้ว ก็ให้ข้าช่วยเจ้าทำเถอะ”
อู๋ซีหยวนรู้ว่าเธอหวังดีต่อเขา เขาก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก
ชาติก่อนเธอต้องทนทุกข์และลำบากพร้อมกับเขา ชาตินี้เขาก็ยังไม่มีความสามารถที่จะให้เธอมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เขาบีบมือของเธอ มันเกินกว่าจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับซูจิ่วเย่ว์ที่จะมาที่นี่ อู๋ซีหยวนจึงพาเธอสั่งอาหารเพิ่มเป็นพิเศษอีกสองจาน
แน่นอนว่าเมืองยงโจวย่อมแตกต่างจากสถานที่เล็กๆของพวกเขา ที่นี่มีของกินมากมายหลายอย่าง
เมื่อซูจิ่วเย่ว์เห็นว่าเขาสั่งอาหารไปตั้งสี่อย่าง จึงขมวดคิ้วและต่อว่าเขา “ทำไมสั่งเยอะขนาดนี้ กินไม่หมดก็จะสิ้นเปลือง”
อู๋ซีหยวนคืนเมนูอาหารให้กับเสี่ยวเอ้อร์ แล้วหันกลับมายิ้มให้ภรรยาของเขาอย่างเอ็นดู “ไม่เยอะหรอก จิ่วเย่ว์ของข้ากำลังอยู่ในวัยที่กำลังเติบโต จะปล่อยให้หิวไม่ได้”
ช่วงนี้ปริมาณอาหารที่ซูจิ่วเย่ว์กินนั้นเพิ่มมากขึ้น เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังเติบโตขึ้น
เมื่อก่อนเธอยืนข้างอู๋ซีหยวน เธอสูงเท่าหน้าอกของเขา แต่วันนี้จู่ๆเธอก็สังเกตเห็นว่า ตัวเองเกือบจะสูงท่าไหล่ของเขาแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่สามีของเธอใจดีกับเธอ มองดูเธอเติบโต และใช้ถ้วยใบใหญ่ตักข้าวให้เธออยู่เสมอ เกรงว่าเธอคงจะกินไม่อิ่มจริงๆ
หลังจากที่ทั้งคู่กินข้าวเสร็จก็ออกไปข้างนอก อู๋ซีหยวนต้องการไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อหาห้องพักให้ซูจิ่วเย่ว์พักหนึ่งคืน แล้วค่อยเดินทางกลับพรุ่งนี้
หากกลับตอนนี้ กว่าเธอจะกลับถึงบ้าน เกรงว่ามันจะมืดค่ำแล้ว เขาจะเป็นกังวล ดังนั้นจึงให้เธอเดินทางกลับพรุ่งนี้ดีกว่า
หลังจากที่ทั้งสองจากไปไม่นาน ก็พบกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า
คนเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ราวกับว่ากำลังมุงดูอะไร
ซูจิ่วเย่ว์เกิดความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงดึงอู๋ซีหยวนไปดูพร้อมกัน
หลังจากที่ยืดคอเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน ก็เห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งผ้ากระสอบไว้ทุกข์ มีหญ้าทัดอยู่บนศีรษะคุกเข่าขายตัวเป็นทาสเพื่อฝังศพของพ่อนาง
บนป้ายเขียนว่า แค่ยี่สิบเหรียญเท่านั้น
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่คนรอบข้างไม่มีใครคิดจะช่วยเหลือนางเลยแม้แต่น้อย
ซูจิ่วเย่ว์เอื้อมมือไปจับกระเป๋าเงินของตัวเอง แต่กลับถูกอู๋ซีหยวนดึงออกมาจากฝูงชนทันที
“ภรรยา นี่เจ้าจะทำอะไร?”
ซูจิ่วเย่ว์หันกลับไปมองฝูงชนอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างโศกเศร้า
“นางช่างน่าสงสาร ข้าอยากช่วยนาง แม้ไม่สามารถให้เงินยี่สิบเหรียญได้ แต่ก็ให้เงินบางส่วนกับนาง เพื่อให้นางได้ฝังศพของพ่อนางก่อน”
อู๋ซีหยวนยิ้ม ซูจิ่วเย่ว์จ้องมองเขา “ทำไมเจ้ายังสามารถหัวเราะได้อีก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...