ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 189

หลิวซุ่ยฮวาได้เห็นใบหน้าอันงดงามของหล่อนเขินอาย ก็รู้สึกดีใจ

แม่สามีบางคนคิดไม่ได้ การที่ลูกชายกับลูกสะใภ้เข้ากันได้ดี ครอบครัวรักใคร่ปรองดองทุกสิ่งก็เจริญรุ่งเรือง เหตุใดอายุตั้งมากแล้วยังจะไปแข่งกันแย่งความโปรดปรานกับเด็กสาวอีก?

นางเห็นว่าอย่างจิ่วยาของพวกนางถือว่าดีมาก มีความสามารถและยังมีบุญ

“เอาล่ะๆ อย่าได้แต่คิดถึงเลย รออีกสักพักก็ได้เจอกันที่เมืองยงโจวแล้ว ” หลิวซุ่ยฮวาเอ่ยแซว

ซูจิ่วเย่ว์ยิ่งเขินอายมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินนางเอ่ยเช่นนี้

“ข้าคิดถึงที่ไหนกัน...”

หลิวซุ่ยฮวาหัวเราะอย่างร่าเริง “ใช่แล้วๆ เจ้าไม่ได้คิดถึง ข้าเป็นคนคิดถึงเอง พอใจหรือยัง?”

ซูจิ่วเย่ว์ย่นจมูก รู้สึกเขินอายเกินกว่าจะพูดต่อ

หงหงมีรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง ไม่ถึงขั้นไม่สามารถลากรถคันเก่าคันเล็กคันนี้ได้ ตลอดทางมันเดินเร็วราวกับบินได้ จนทำให้หนุ่มแข็งแรงอย่างต้าเฉิงต้องวิ่งไล่ตามจนหอบหายใจแทบไม่ทัน

ซูจิ่วเย่ว์เห็นเช่นนั้นก็อดใจไม่ได้ จึงบอกให้หงหงเดินช้าลงหน่อย

หลิวซุ่ยฮวาที่อยู่ข้างๆมองนางด้วยความสนใจ “ราวกับหงหงสามารถเข้าใจภาษาของคนออกจริงๆ”

หงหงส่งเสียงออกทางจมูก ราวกับกำลังตอบสนองคำพูดของนาง หลิวซุ่ยฮวาเห็นก็ยิ่งดีใจมากขึ้น “ม้าที่ฉลาดขนาดนี้ก็ถูกพวกเจ้าเก็บกลับมาได้ ไม่รู้จะบอกว่าใครโชคดีดี”

“แน่นอนว่าพวกข้าโชคดี” ซูจิ่วเย่ว์กล่าวโดยไม่ต้องคิด

หงหงช่วยพวกเขาไว้มาก หากต้องรอให้พวกเขามีเงินซื้อม้าด้วยตัวเอง ก็ไม่รู้จริงๆว่าจะต้องรอถึงตอนไหน

หงหงได้ยินคำพูดของนาง ก็ยิ่งดีใจ เริ่มวิ่งขึ้นมาทันที

ต้าเฉิงเพิ่งจะสูดหายใจได้สองครั้ง เพียงพริบตาเดียวม้าและเกวียนก็ทิ้งห่างออกไประยะไกล เขายื่นมืออยากจะเรียกพวกนาง อ้าปากจะพูดแต่กลับเห็นว่าพวกนางไปไกลกว่าเดิม เขาจึงถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และไล่ตามไปอย่างยอมรับชะตากรรม

และก็ไล่ตามกันอยู่เช่นนี้ เดิมทีการเดินทางที่ต้องใช้เวลาห้าชั่วยาม ก็ถูกพวกเขาลดมันลงจนเหลือเพียงครึ่งเดียว

เมื่อเมืองที่สูงตระหง่านปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา ต้าเฉิงก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อบนหน้าผากออก

ในที่สุดก็ถึงเสียที นี่เหนื่อยกว่าต้องไถที่นาสองหมู่เสียอีก

เมื่อมาถึงประตูเมือง ซูจิ่วเย่ว์หยิบคำสั่งผ่านทางที่เจ้าบ้านตระกูลซูมอบให้นาง ทั้งสามคนถึงได้เข้าไปในเมืองได้อย่างราบรื่น

หลิวซุ่ยฮวาขมวดคิ้วถามนาง “จิ่วยา เหตุใดจึงมีผู้ลี้ภัยอยู่ข้างนอกมากมายเช่นนี้?”

ซูจิ่วเย่ว์กลับไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ “นี่ยังถือว่าดี ข้ามองดูแล้วเหมือนว่าครั้งนี้คนน้อยกว่าครั้งที่แล้ว คงจะมีคนปักหลักให้พวกเขาแล้วกระมัง?”

ในตอนแรกทุกคนต่างก็อยากเข้าเมืองยงโจว ต่อมาพบว่าไม่สามารถเข้ามาในเมืองยงโจวได้ เหล่าคนที่พอมีเงินอยู่ในมือ จึงได้ซื้อที่ดินและตั้งรกรากในหมู่บ้านใกล้เคียง

เช่นเดียวกับตระกูลอู๋เมื่อตอนนั้น

หลิวซุ่ยฮวามองไปทางผู้ลี้ภัย แม้ตัวของแต่ละคนจะเต็มไปด้วยฝุ่น แต่เมื่อเทียบกับผู้ลี้ภัยที่พวกเขาเห็นนอกเมืองหนิวโถ่ว พวกเขาถือว่ามีความก้าวร้าวน้อยกว่ามาก

ประกอบกับที่มีราชสำนักคอยเฝ้าดูอย่างเข้มงวด ในใจนางจึงไม่ได้กังวลมากขนาดนั้น

เมื่อเข้ามาในเมือง อู่ต้าเฉิงก็ตบหลังหงหงแล้วหยิบหญ้าแห้งจำนวนหนึ่งจากรถม้ามาให้อาหารมันอย่างชำนาญ

แล้วจึงเอ่ยว่า: “ท่านแม่ ข้าพาหงหงไปตลาด อีกเดี๋ยวเราพบกันที่ประตูโรงเรียนซีหยวน”

ตลกหรืออย่างไร ซูจิ่วเย่ว์เป็นสมบัติที่จะทำให้นางร่ำรวยมีลาภในอนาคตเชียวนะ นางไม่มีทางให้นายหญิงเหล่านี้รู้เรื่องหรอก! ไม่เช่นนั้นเกิดวันใดมีคนขโมยนางไป ไม่เท่ากับว่าเป็นการให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวหรอกหรือ?

“ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็แค่ญาติห่างๆของเรา มาหาข้าเพื่อคุยเรื่องส่วนตัวน่ะ”

พูดถึงขั้นนี้แล้ว แน่นอนว่าคงไม่มีผู้ใดไม่ดูสถานการณ์แล้วคิดจะถามคำถามต่อ

นางรีบจากไปอย่างเร่งรีบ ไปรับซูจิ่วเย่ว์ด้วยตัวเองที่หน้าประตู

เห็นว่าข้างกายนางมีสตรีอยู่ผู้หนึ่ง คงจะเป็นแม่สามีของนางสินะ?

หลายปีมานี้นายหญิงเย่ว์ขึ้นเหนือล่องใต้ สายตาที่มองคนก็ไม่แย่ แม่สามีของนางผู้นี้เป็นคนดี คงไม่มีทางทำเรื่องผิดศีลธรรมเหล่านั้นหรอก

นางเดินเข้าไปอย่างสนิทสนมอบอุ่น “จิ่วเย่ว์ ในที่สุดเจ้าก็มา เช้านี้นกสาลิกาปากดำเอาแต่ส่งเสียงร้อง ข้าคิดว่าวันนี้คงจะมีเรื่องดีเกิดขึ้น และก็เป็นดังเช่นนั้น เจ้ามาแล้ว”

ซูจิ่วเย่ว์ก้าวเข้าไปคำนับนาง “จิ่วเย่ว์คารวะนายหญิงเย่ว์ ข้ากลับไปหารือกับที่บ้านมาแล้ว ข้าเองก็ไม่แน่ใจว่ามันทำอย่างไร จึงได้เรียกให้แม่สามีมาพบท่านด้วยกัน”

นายหญิงเย่ว์จะไม่รู้ได้อย่างไร ว่านี่คือคนที่เป็นผู้ใหญ่กังวลว่าเด็กจะถูกหลอก ถึงได้ตามมาด้วยกัน

หลิวซุ่ยฮวาเองก็ก้าวขึ้นมาคำนับนาง “นายหญิงเย่ว์ คนแก่อย่างข้าก็ไม่ได้เห็นโลกมากว้างมากนัก เพียงแค่มาเป็นเพื่อนจิ่วยาของเราก็เท่านั้น”

คนทำการค้าขายอย่างนายหญิงเย่ว์เคยเจอคนสิ้นไร้ไม้ตอกมาหมดแล้ว? แม้ว่าแม่สามีกับลูกสะใภ้คู่นี้จะไม่ใช่คนสูงศักดิ์ แต่เสื้อผ้าบนตัวได้ถูกจัดการอย่างสะอาดสะอ้าน แม้แต่ผมเองก็ไม่มีส่วนไหนที่ยุ่ง แววตาขณะพูดก็ใสกระจ่าง เห็นได้ว่าเป็นคนพิถีพิถัน

ผู้มาเยือนต่างก็เป็นแขก แม้ว่าฐานะของอีกฝ่ายจะด้อยกว่าพวกนางอยู่มาก แต่นายหญิงเย่ว์ก็ไม่มีเหตุผลที่จะให้พวกนางยืนพูดคุยกันอยู่ที่หน้าประตู

“จิ่วเย่ว์อายุน้อย แต่ฝีมือกลับไม่เลว มีเจ้าคอยดูอยู่ข้างๆ ข้าก็วางใจ! มาๆๆ พวกเราเข้าไปคุยกันด้านในเถอะ มาถึงจวนกันแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องให้พวกเจ้าได้ดื่มชาร้อนสักแก้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี