ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 190

จวนสกุลเย่ว์ไม่ได้ใหญ่เท่ากับจวนแม่ทัพซูที่เธอเคยไป หรืออาจจะเป็นเพราะเจ้าของบ้านเป็นผู้หญิง การตกแต่งภายในของจวนสกุลเย่ว์จึงมีบรรยากาศอบอุ่นเล็กน้อย

มีต้นไม้สีเขียวอยู่ทั่วทุกแห่ง และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ฯลฯ เมื่อมองแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าบ้านหลังนี้จัดการดูแลโดยนายผู้หญิง

ซูจิ่วเย่ว์เดินตามอยู่ด้านหลังของเย่ว์ฮูหยิน พยายามควบคุมสายตาของตัวเองที่สอดส่ายไปรอบ ๆ ไม่อยากให้เจ้าของบ้านเข้าใจผิดว่าไม่เคารพเขา

หลังจากเข้ามาในบ้าน ไป๋อวี้ก็รีบยกน้ำชามาให้ทั้งสองคนทันที

เย่ว์ฮูหยินรีบถามขึ้นอย่างเป็นกังวล: "ท่านทั้งสองมาหาข้าที่จวนสกุลเย่ว์ พวกท่านตัดสินใจแล้วใช่หรือไม่?"

หลิวซุ่ยฮวาเห็นว่านายหญิงเย่ว์พูดคุยเป็นกันเองโดยไม่แบ่งชนชั้นกับพวกเขา ในใจก็รู้สึกดีกับเธอมากขึ้น

“เย่ว์ฮูหยิน ขอพูดตามตรง เมื่อได้ยินสิ่งที่จิ่วยาพูดแล้ว พวกเราตื่นเต้นกันมาก แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่เด็กคนนี้พูดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก พวกเราจึงได้มาหานายหญิงเพื่อยืนยันอีกครั้ง”

เย่ว์ฮูหยินจึงได้พูดเรื่องเงื่อนไขอีกครั้งว่า "อันที่จริงก็ไม่มีอะไร แค่ให้จิ่วยาสอนทักษะเย็บปักของเธอ เงินลงทุนและคนงานข้าจะเป็นเป็นจัดหาเอง ไม่ว่าในอนาคตกำไรจะมากน้อยเพียงใด เราก็จะแบ่งกันครึ่งครึ่ง"

หลิวซุ่ยฮวายังมองออกด้วยว่าเย่ว์ฮูหยินคนนี้เป็นคนใจซื่อตรง บอกแบ่งคนล่ะครึ่งครึ่งกันง่าย ๆ เช่นนี้เลย เพียงแต่....

เธอเพียงแค่ยิ้มแล้วคิดว่าให้เธอเป็นคนที่ออกหน้าเป็นคนไม่ดีดีกว่า!

“ฮูหยินมีคำพูดที่หญิงชราคนนี้สามารถพูดได้หรือไม่” หลิวซุ่ยฮวากล่าว

เย่ว์ฮูหยินไม่พูดอ้อมค้อมว่า: "ไม่เป็นไร ท่านพูดออกมาเถอะ"

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่ถ้าทำธุรกิจร่วมกันพูดปากป่าวไร้ซึ้งหลักฐานยืนยัน สู้เราทำเอกสารไว้เป็นหลักฐานดีไหม”

ซูจิ่วเย่ว์เหลือบมองแม่สามีด้วยความประหลาดใจ เย่ว์ฮูหยินกลับชื่นชมหญิงชราคนนี้มาก

พี่น้องกันเองยังต้องแบ่งแยกบัญชีให้ชัดเจนเลย! นับประสาอะไรกับพวกเขา

และอีกอย่าง ทั้งสองฝ่ายฐานะและอำนาจไม่เท่าเทียบกัน ถ้าหากไม่ทำข้อตกลกันอย่างเป็นทางการ อีกฝ่ายจะรู้สึกไม่สบายใจนั้นถือเป็นเรื่องปกติ

เดิมทีเธอเองก็ไม่มีเจตนาจะผิดสัญญา ดังนั้นเธอจึงเหลือบมองไปที่ไป๋อวี้ทันทีแล้วพูดว่า "ไปเอามาเถอะ"

หลิวซุ่ยฮวาและซูจิ่วเย่ว์เห็นแล้วก็รู้สึกงงเล็กน้อย เย่ว์ฮูหยินเลยรีบอธิบายทันที "เกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ข้าได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว"

ไป๋อวี้หยิบเอกสารมา เย่ว์ฮูหยินนำเอกสารมาวางไว้บนโต๊ะ ยื่นไปทางพวกเขา " ท่านดูเถอะ นี่คือเอกสารที่ข้าได้ทำไว้ล่วงหน้าแล้ว คราวหน้าพวกเราทั้งสองฝ่ายค่อยไปที่ศาลาว่าการรับรองเอกสารอีกครั้ง คราวนี้พวกท่านสบายใจได้แล้วใช่ไหม?”

หลิวซุ่ยฮวาในใจรู้สึกว่าเธออาจจะเป็นคนที่ใช้ความคิดคับแคบของตัวเองไปคาดเดาความคิดของคนที่มีจิตใจเที่ยงตรงและเที่ยงธรรม เย่ว์ฮูหยินผู้นี้คู่ควรแล้วที่เกิดมาในตระกูลแม่ทัพ และการกระทำของเธอก็ถือเป็นคนใจคอกว้างขวางและตรงไปตรงมา

“เย่ว์ฮูหยินช่างเป็นคนใจคอกว้างขวางจริง ๆ จิ่วยาของข้าได้ร่วมงานกับท่านถือเป็นความโชคดีของเธอจริง ๆ ”

ในที่สุดเรื่องนี้ก็ได้ตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย เย่ว์ฮูหยินก็ยิ้มทันที

อันที่จริงทันทีที่อีกฝ่ายมาถึงหน้าประตูบ้าน เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายได้ตอบตกลงแล้ว จนเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากตอบตกลง ในใจของเธอถึงได้ข้อสรุปอย่างแท้จริง

ช่างฝีมือพวกนี้ไม่สามารถบังคับได้ หากอีกฝ่ายซ่อนทักษะความรู้ไว้ในขณะที่สอน แล้วใครจะสามารถรู้ได้ล่ะ??

สิ่งนี้เรียกว่าถ้าไม่เต็มใจที่จะมอบลูกให้แล้วจะสามารถดักจับหมาป่าได้อย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะยอมแบ่งผลกำไรครึ่งครึ่งกไป แต่ของหายากและมีราคาแพง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเขาที่จะตัดสินใจว่าจะขายสิ่งนี้ได้เงินเท่าไร ?

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้สรุปข้อตกลงกันแล้ว เย่ว์ฮูหยินก็ถามพวกเขาเมื่อไหร่มีเวลาว่าง? ต้องการนัดพวกเขาเพื่อไปการรับรองเอกสารอีกครั้ง

“ถ้าท่านทั้งสองยังไม่มีที่พักในเมืองยงโจว ถ้าไม่อย่างนั้นก็พักอยู่ที่จวนของข้าเลยดีไหม?”

พวกเขารออยู่ประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งกลับมาจากข้างนอก

หลิวซุ่ยฮวามองดูเธอเดินเข้าไปที่สถานศึกษา ก็ขมวดคิ้วและไม่ค่อยเข้าใจ เธอจึงถามซูจิ่วเย่ว์: "จิ่วยา ทำไมสถานศึกษาแห่งนี้ถึงรับบัณฑิตหญิง?"

ทุกวันนี้ทุกคนต่างเชื่อว่าผู้หญิงที่ไม่ต้องมีความรู้ความสามารถแต่มีคุณธรรมก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าในความเห็นของเธอแล้วสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ไร้สาระ

แต่ก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน หรือสถานศึกษาแห่งนี้เป็นที่แรกที่ให้ให้ผู้หญิงมาเรียนได้

ซูจิ่วเย่ว์เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมอง ก็จำผู้หญิงคนนี้ได้ นี่ก็คือผู้หญิงที่ไร้ยางอายคนนั้นไม่ใช่เหรอ? โชคดีที่ซีหยวนของเธอไม่หวั่นไหว

เธอว่าผู้หญิงคนนี้อยู่ในใจไม่รู้กี่หมื่นครั้งแล้ว แต่ต่อหน้าหลิวซุ่ยฮวาเธอแค่พูดว่า: "ท่านแม่ เธอไม่ใช่บัณฑิตของที่นี่ เธอเป็นลูกสาวของท่านอาจารย์"

หลังจากฟังคำอธิบายของซูจิ่วเย่ว คิ้วของหลิวซุ่ยฮวาแทบไม่คลายลง แต่กลับขมวดแน่นกว่าเดิม

“ลูกสาวของท่านอาจารย์ก็สามารถเข้าออกสถานศึกษาได้ตามใจอย่างงั้นหรือ? มีผู้ชายมากมายอยู่ด้านใน ชื่อเสียงและเกียรติยศยังจะเอาอยู่หรือไม่?”

อย่างไรเสียถ้าให้เธอพูด ผู้หญิงแบบนี้เธอไม่กล้าให้แต่งงานกับลูกชายของเธออย่างแน่นอน

หลังจากที่แม่สามีเตือนสติ ความรู้สึกแปลกแยกในใจของซูจิ่วเย่ว์ก็กระจ่างในที่สุด

ทำไมสถานศึกษาที่ใหญ่ขนาดนี้และมีท่านอาจารย์ตั้งมากมาย เหตุใดถึงมีแต่กัวลิ่งอี๋ที่เข้าออกอยู่เพียงคนเดียว? อาจารย์ท่านอื่น ๆ ไม่มีลูกสาวเลยเหรอ?

แน่นอนว่าคำตอบคือไม่ใช่ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ทางเดียวเท่านั้นคือกัวลิ่งอี๋ต้องการดูรายชื่อเพื่อจับสามี

และเธอก็กังวลว่าเธอจะไม่สามารถแย่งชิงกับพวกผู้หญิงที่มาจากตระกูลขุนนางได้ จึงอยากมาดูลาดเลาล่วงหน้า และหาคนที่มีศักยภาพแล้วทำการหมั่นหมายเสีย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี