เมื่อเผชิญกับคำพูดที่จริงจังของคุณยาย กัวลิ่งอี๋ก็ยังคงไม่ไหวติง
“ข้าไม่สน ถ้าข้าไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ ข้าก็จะตาย!”
คิ้วของยายกัว* ขมวดมากเสียจนสามารถฆ่ายุงได้ และเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอยู่ครู่หนึ่ง
อาจารย์กัวตัวสั่นด้วยความโกรธและชี้ไปที่กัวลิ่งอี๋ หวังจะแทงเธอให้ตายด้วยนิ้วเดียว
“นางลูกอกตัญญู! นางลูกอกตัญญู! ปล่อยให้เธอตาย! ใครหน้าไหนก็อย่าหยุด! วันนี้ข้าจะทำราวกับว่าข้าไม่เคยให้กำเนิดลูกสาวคนนี้!”
กัวลิ่งอี๋คุกเข่าลงกับพื้นโดยก้มศีรษะลงโดยไม่พูดอะไร ราวกับว่าเธอมั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรเธอได้
อาจารย์กัวเป็นนักวิชาการ แต่อาชีพการงานของเขาไม่ค่อยดีนัก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลาออกและเป็นครูสอนหนังสือ
เนื่องจากเขาต้องการเดินตามเส้นทางของคนที่มีชื่อเสียงเขาจึงต้องไม่มีรอยเปื้อนใดๆติดอยู่ หากลูกสาวคนนี้ทำลายชีวิตที่เหลือของเขาเขาอาจจะตัดสินใจตัดขาดเธอได้จริงๆ
แสงที่ดุเดือดส่องเข้ามาในดวงตาของเขา กัวลิ่งอี๋ที่ก้มศีรษะลงไม่เห็นอะไรเลย แต่ยายกัว* จับจ้องไปที่สายตาของเขาชั่วขณะ
ทำไมลูกชายเธอถึงมีสายตาแบบนั้น?
หญิงชรา* ตัวสั่น และกลับมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อมองดูลูกชายดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป
เธอไม่กล้าร้องขอความเมตตาอีกต่อไปเพราะกลัวว่าลูกชายของเธอจะเทยาหนึ่งชาม และทำให้หลานสาวอันมีค่าของเธอเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
เธอดึงแขนเสื้อของกัวลิ่งอี๋อย่างรวดเร็วแล้วพูดกับเธอว่า “สาวน้อย เรากลับกันก่อนเถอะ อย่ารบกวนพ่อของเจ้าเลย”
ขณะที่เธอพูด เธอก็ขยิบตาให้กัวลิ่งอี๋
น่าเสียดายที่กัวลิ่งอี๋รู้สึกสะเทือนใจมากเสียจนมองไม่เห็นเบาะแสใดๆ
เธอสะบัดมือย่าของเธอที่ถือแขนเสื้อเธอออก และเชิดคางขึ้นอย่างดื้อรั้น “ข้าไม่ไป! วันนี้พวกท่านต้องช่วยข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาหัวชนและตายที่นี่!”
กัวซวี่โจวตะคอก และถกแขนเสื้อจากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก เหลือเพียงประโยคเบาๆ “ปล่อยให้เธอชน ใครกล้าหยุดก็ตายไปกับเธอซะ”
เหลือเพียงแม่สามีและหลานชายเท่านั้นที่มองหน้ากัน ยายกัว* เห็นลูกชายของเธอเดินจากไปจึงรีบเดินเข้าไปช่วยกัวลิ่งอี๋ให้ลุกขึ้น
“ลิ่งอี๋ เจ้าอย่าพูดคำที่แสวงหาความตายเหล่านั้นอีกล่ะ ดูสิว่าพ่อเจ้าโกรธมากแค่ไหน!”
แม้ว่าเธอจะสงสัยว่าลูกชายของเธอมีความคิดที่ไม่ดี แต่เธอก็ไม่มีหลักฐานที่แท้จริง ไม่สามารถบอกหลานสาวอย่างสบายๆได้หรอก เกรงว่าพ่อของเจ้าอยากให้เจ้าตายจริงๆ
เดิมทีกัวลิ่งอี๋ชอบข่มขู่พ่อของเธอ แต่เมื่อเห็นเขาหันหลังกลับและจากไปโดยไม่สนใจเลย เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ
ร่างที่คุกเข่าทรุดลงแล้วพูดกับย่าว่า “ท่านย่า ข้าชอบเขามากและอยากแต่งงานกับเขา ท่านช่วยข้าคิดหาทางหน่อยได้ไหม? เขาเรียนรู้และทำสิ่งต่างๆเก่งมาก หากสอบผ่านก็สามารถร่วมสนุกกับเราภายหลังได้”
เรื่องราวต่างๆจะเรียบง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? ตระกูลกัวไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยและไม่มีอำนาจที่สามารถใช้อำนาจของตนเพื่อปราบปรามผู้อื่นได้
“เจ้าคิดว่าพ่อเจ้าเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของราชวงศ์รึ?! เจ้ายังคิดหาทางอยู่รึ? วิธีการของเจ้าคืออะไร? เขาไม่ต้องการแต่งงานกับเจ้าเลย แล้วใครจะมาบังคับเขาได้ จะทำให้เขาเคารพสวรรค์และโลกกับเจ้าได้อย่างไร?”
ยายกัว* ไม่เคยคาดคิดว่ามารยาทและกฎเกณฑ์ที่เธอเคยสอนมาก่อนจะไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้ เด็กคนนี้ยังคงโง่เขลาและเพิกเฉยถึงขีดสุด เช่นเดียวกับพวกปากร้ายพวกนั้น
โชคดีที่พวกเขาต้องการให้เธอเรียนรู้มารยาทที่ดีเพื่อที่เธอจะได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดีในภายหลัง และมันก็ไม่ไร้ประโยชน์เลยที่ครอบครัวของเธอได้ฝึกฝนเธออย่างระมัดระวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...