ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 193

เมื่อเผชิญกับคำพูดที่จริงจังของคุณยาย กัวลิ่งอี๋ก็ยังคงไม่ไหวติง

“ข้าไม่สน ถ้าข้าไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ ข้าก็จะตาย!”

คิ้วของยายกัว* ขมวดมากเสียจนสามารถฆ่ายุงได้ และเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอยู่ครู่หนึ่ง

อาจารย์กัวตัวสั่นด้วยความโกรธและชี้ไปที่กัวลิ่งอี๋ หวังจะแทงเธอให้ตายด้วยนิ้วเดียว

“นางลูกอกตัญญู! นางลูกอกตัญญู! ปล่อยให้เธอตาย! ใครหน้าไหนก็อย่าหยุด! วันนี้ข้าจะทำราวกับว่าข้าไม่เคยให้กำเนิดลูกสาวคนนี้!”

กัวลิ่งอี๋คุกเข่าลงกับพื้นโดยก้มศีรษะลงโดยไม่พูดอะไร ราวกับว่าเธอมั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรเธอได้

อาจารย์กัวเป็นนักวิชาการ แต่อาชีพการงานของเขาไม่ค่อยดีนัก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลาออกและเป็นครูสอนหนังสือ

เนื่องจากเขาต้องการเดินตามเส้นทางของคนที่มีชื่อเสียงเขาจึงต้องไม่มีรอยเปื้อนใดๆติดอยู่ หากลูกสาวคนนี้ทำลายชีวิตที่เหลือของเขาเขาอาจจะตัดสินใจตัดขาดเธอได้จริงๆ

แสงที่ดุเดือดส่องเข้ามาในดวงตาของเขา กัวลิ่งอี๋ที่ก้มศีรษะลงไม่เห็นอะไรเลย แต่ยายกัว* จับจ้องไปที่สายตาของเขาชั่วขณะ

ทำไมลูกชายเธอถึงมีสายตาแบบนั้น?

หญิงชรา* ตัวสั่น และกลับมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้ง เมื่อมองดูลูกชายดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไป

เธอไม่กล้าร้องขอความเมตตาอีกต่อไปเพราะกลัวว่าลูกชายของเธอจะเทยาหนึ่งชาม และทำให้หลานสาวอันมีค่าของเธอเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บ

เธอดึงแขนเสื้อของกัวลิ่งอี๋อย่างรวดเร็วแล้วพูดกับเธอว่า “สาวน้อย เรากลับกันก่อนเถอะ อย่ารบกวนพ่อของเจ้าเลย”

ขณะที่เธอพูด เธอก็ขยิบตาให้กัวลิ่งอี๋

น่าเสียดายที่กัวลิ่งอี๋รู้สึกสะเทือนใจมากเสียจนมองไม่เห็นเบาะแสใดๆ

เธอสะบัดมือย่าของเธอที่ถือแขนเสื้อเธอออก และเชิดคางขึ้นอย่างดื้อรั้น “ข้าไม่ไป! วันนี้พวกท่านต้องช่วยข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาหัวชนและตายที่นี่!”

กัวซวี่โจวตะคอก และถกแขนเสื้อจากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก เหลือเพียงประโยคเบาๆ “ปล่อยให้เธอชน ใครกล้าหยุดก็ตายไปกับเธอซะ”

เหลือเพียงแม่สามีและหลานชายเท่านั้นที่มองหน้ากัน ยายกัว* เห็นลูกชายของเธอเดินจากไปจึงรีบเดินเข้าไปช่วยกัวลิ่งอี๋ให้ลุกขึ้น

“ลิ่งอี๋ เจ้าอย่าพูดคำที่แสวงหาความตายเหล่านั้นอีกล่ะ ดูสิว่าพ่อเจ้าโกรธมากแค่ไหน!”

แม้ว่าเธอจะสงสัยว่าลูกชายของเธอมีความคิดที่ไม่ดี แต่เธอก็ไม่มีหลักฐานที่แท้จริง ไม่สามารถบอกหลานสาวอย่างสบายๆได้หรอก เกรงว่าพ่อของเจ้าอยากให้เจ้าตายจริงๆ

เดิมทีกัวลิ่งอี๋ชอบข่มขู่พ่อของเธอ แต่เมื่อเห็นเขาหันหลังกลับและจากไปโดยไม่สนใจเลย เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ

ร่างที่คุกเข่าทรุดลงแล้วพูดกับย่าว่า “ท่านย่า ข้าชอบเขามากและอยากแต่งงานกับเขา ท่านช่วยข้าคิดหาทางหน่อยได้ไหม? เขาเรียนรู้และทำสิ่งต่างๆเก่งมาก หากสอบผ่านก็สามารถร่วมสนุกกับเราภายหลังได้”

เรื่องราวต่างๆจะเรียบง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? ตระกูลกัวไม่ใช่ตระกูลที่ร่ำรวยและไม่มีอำนาจที่สามารถใช้อำนาจของตนเพื่อปราบปรามผู้อื่นได้

“เจ้าคิดว่าพ่อเจ้าเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของราชวงศ์รึ?! เจ้ายังคิดหาทางอยู่รึ? วิธีการของเจ้าคืออะไร? เขาไม่ต้องการแต่งงานกับเจ้าเลย แล้วใครจะมาบังคับเขาได้ จะทำให้เขาเคารพสวรรค์และโลกกับเจ้าได้อย่างไร?”

ยายกัว* ไม่เคยคาดคิดว่ามารยาทและกฎเกณฑ์ที่เธอเคยสอนมาก่อนจะไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้ เด็กคนนี้ยังคงโง่เขลาและเพิกเฉยถึงขีดสุด เช่นเดียวกับพวกปากร้ายพวกนั้น

โชคดีที่พวกเขาต้องการให้เธอเรียนรู้มารยาทที่ดีเพื่อที่เธอจะได้แต่งงานกับครอบครัวที่ดีในภายหลัง และมันก็ไม่ไร้ประโยชน์เลยที่ครอบครัวของเธอได้ฝึกฝนเธออย่างระมัดระวัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี