กัวซวี่โจวเดินไปที่เตียง ยื่นมือออกไปแล้วบีบคางของเธอ
นี่เป็นครั้งแรกที่กัวลิ่งอี๋เห็นเขาเป็นแบบนี้ ดูเหมือนจะแตกต่างจากพ่อที่เธอจำได้ตอนยังเด็ก
กัวซวี่โจวจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอโดยตรง และเตือนเธอทีละคำว่า “นี่คือความอดทนครั้งสุดท้ายที่ข้ามีต่อเจ้า เจ้าจงจำไว้ เมื่อไปถึงแล้ว ทางที่ดีเจ้าควรสงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้ หากเจ้าสร้างปัญหาอีก ก็อย่าหากว่าข้าไม่เตือน”
กัวลิ่งอี๋หยุดดิ้นรน ดูเหมือนว่าเธอจะหวาดกลัวจริงๆ
ทันทีที่เธอหลับตาลง น้ำตาก็ไหลออกมาจากหางตาของเธอ
กัวซวี่โจวปล่อยมือออก จากนั้นเขาก็โบกมือให้ลวี่หลิ่วและคนอื่นๆ “อุ้มออกไปเถอะ!”
แม้ว่าลวี่หลิ่วและหงหยิงจะรู้สึกว่านายท่านนั้นโหดเหี้ยมไปหน่อย แต่พวกนางกลับไม่กล้าขัดขืนใดๆ แม้กระทั่งลูกสาวแท้ๆนายท่านยังไม่ออมมือ นับประสาอะไรกับสาวใช้เที่ซื้อมาอย่างพวกนาง
ทั้งสองใช้ความพยายามอย่างมาก จึงสามารถอุ้มกัวลิ่งอี๋ออกจากประตูได้ และวางเธอลงบนรถม้าที่จ้างมา
หงหยิงยังต้องกลับไปรับใช้นายหญิง จึงมีเพียงลวี่หลิ่วคนเดียวที่ตามขึ้นไปบนรถม้า
เธอโบกมือให้หงหยิง และถอนหายใจอย่างเงียบๆ ตัวเองนั้นช่างน่าเวทนาจริงๆ พ่อแม่ของเธอไม่เพียงแต่ขายเธอมาเป็นสาวใช้ แต่ตอนนี้เธอยังต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อีก
เธอไปบำเพ็ญธรรมที่สำนักแม่ชีพร้อมกับคุณหนู คนที่ทนทุกข์ทรมานคือเธอ แต่คุณหนูก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่นอน
เดิมทีเธอคิดว่าชีวิตของเธอนั้นน่าสังเวชแล้ว แต่เธอไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะยังไม่จบไม่สิ้นอีก
พวกเธอเดินทางออกมาจากในเมืองเพียงห้าไมล์ ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งขวางไว้
คนกลุ่มนี้ดูดุร้ายและเหี้ยมโหด และพวกเขาต่างก็ถือมีดอยู่ในมือ
เมื่อคนขับรถม้าเห็นเช่นนี้ ก็ละทิ้งรถม้าแล้ววิ่งหนีไป
ลวี่หลิ่วและกัวลิ่งอี๋ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างนอก และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
กัวลิ่งอี๋ยังคงถูกมัดมือและเท้าไว้ จึงไม่สามารถขยับได้ ลวี่หลิ่วก้าวไปเปิดม่านรถม้าออก แล้วมองออกไปข้างนอก
เมื่อเห็นเช่นนี้ เธอก็ตื่นตระหนกอย่างมาก จึงรีบช่วยคุณหนูแก้เชือกที่มัดมือและเท้าออก
แต่เวลาไม่เคยคอยใคร เพียงเสี้ยววินาที่ที่หายใจ ม่านรถม้าก็ถูกเปิดออก
ทั้งคู่สีหน้าตื่นตระหนก แต่ชายข้างนอกนั้นกลับหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆๆ.........วันนี้พวกเราพี่น้องโชคดีจริงๆ!มีสาวงามอยู่บนรถม้าสองคน และเป็นหญิงสาวที่ผิวบอบบางและนุ่มนวลด้วย!”
เมื่อลวี่หลิ่วเห็นสิ่งนี้เธอก็ยื่นแขนออกไปขวางด้านหน้ากัวลิ่งอี๋โดยไม่รู้ตัว ชายคนนั้นขึ้นมาบนรถม้าแล้วดึงเธอลงมาจากรถม้า
เขามองกัวลิ่งอี๋อย่างละเอียด และหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง “หญิงสาวคนนี้เจ้าทำผิดอะไร? ทำไมถึงถูกมัดไว้? หรือมีคนรู้ว่าข้ากำลังรออยู่ที่นี่ จึงได้ส่งเจ้ามาให้ข้าเป็นพิเศษจริงๆเหรอ? ฮ่าๆๆๆ นี่ช่างเป็นโชคชะตาที่สวรรค์มอบให้อย่างแท้จริง!”
ขณะที่เขายิ้มอย่างดุร้าย เขาก็เอื้อมมือไปบีบใบหน้าของกัวลิ่งอี๋
กัวลิ่งอี๋ตกใจมากจนหดตัวลงไปที่มุมหนึ่งของรถม้า แต่เธอก็ไม่สามารถหลบได้
เมื่อรู้สึกถึงมือหยาบขนาดใหญ่สัมผัสใบหน้าของเธอ เธอก็ขนลุกทั่วร่างกาย และตะโกนโหวกเหวก ซึ่งทำให้เว่ยโจวรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
“ฮ่าๆๆๆ ช่างเป็นหญิงสาวที่มีผิวบอบบางและนุ่มนวลจริงๆ ผู้หญิงในหมู่บ้านเราไม่สามารถเทียบได้เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...