เดิมทีหัวสมองของซูจิ่วเย่ว์ก็ยังสับสนอยู่ ครึ่งหนึ่งหวาดกลัวและครึ่งหนึ่งตื่นตระหนก แต่หลังจากที่เธอถูกบีบอย่างแรง ก็มีสติขึ้นมาทันที
เปลี่ยนเป็นเธอที่จับมือแม่แทน ดวงตาคู่นั้นของเธอทั้งดำทั้งสดใส และยังมีความผิดหวังที่ไม่อาจบรรยายได้
มือของเธอบีบแรงมากจนนางจังรู้สึกเจ็บเล็กน้อย “ท่านแม่ ท่านเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าถูกจับได้ จะต้องถูกประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร เมื่อถึงเวลานั้นท่านตาย ข้าตาย เหมาเหมาตาย ครอบครัวท่านลุงก็ต้องตายกันหมด!”
นางจังตกตะลึงมาก ซูจิ่วเย่ว์ก็พูดต่อ: "ข้าไม่รู้ว่าท่านเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ ถึงขนาดกล้าคิดทำร้ายท่านอ๋องมู่ ท่านเอื่อมมือไปแตะที่คอของท่านดู ว่าท่านมีศรีษะกี่หัว พอให้เขาตัดไหม ? บางทีท่านอาจจะไม่เคยเห็นคนโดนตัดหัวมาก่อนเลยใช่ไหม? แต่ข้านั้นโชคดีได้เห็นมันครั้งหนึ่ง เพชฌฆาตฆ่าพวกเขาด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว และเลือดที่ไหลจากคอก็พุ่งสูงถึงสามฟุตเลยทีเดียว…”
นางจังตกใจมาก เธอสะดุ้ง และเอื้อมมือไปแตะที่ศีรษะและคอของเธอ
ซูจิ่วเย่ว์หัวเราะกับตัวเองและพูดต่อ : "บางทีในใจของท่านแม่ไม่เคยมีพวกเราอยู่ในใจเลย คงมีแต่ครอบครัวของท่านลุงเท่านั้นที่เป็นญาติของท่านแม่"
“ข้า…” นางจังกำลังจะเปิดปากพูดแก้ต่างให้ตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา
ซูจิ่วเย่ว์สะบัดมือของเธอ แล้วหันหลังเดินออกจากตรอก
นางจังเริ่มรู้สึกตัวและเรียกเธออีกครั้งว่า "หยุดนะ!"
ซูจิ่วเย่ว์ไม่อยากสนใจเธอ ตอนนี้แม่ของเธอบ้าไปแล้ว เธอจะไม่ทำตามสิ่งที่เธอบอกและไปทำร้ายท่านอ๋องมู่อย่างแน่นอน หากเธอยืนกรานที่จะทำเช่นนั้น เธออาจจะต้องทำร้ายญาติของตัวเองเพื่อผดุงความความยุติธรรม และเพื่อทุกคนในครอบครัว ...
นางจังยังอยากจะก่อกวน แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลก ๆ ขึ้นมา: "น้องสาว?!
เสียงนี้ฟังดูคุ้นหูมากสำหรับซูจิ่วเย่ว์ ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว และเห็นเป็นหวังฉี่อิงในชุดแขนยาวสีน้ำเงิน มาแต่ไกล ๆ และก้าวมาอยู่ตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว
โอ้ ที่แท้ก็เป็นพี่ชายของเธอเอง
“พี่ฉี่อิง?”
ซูจิ่วเย่ว์เรียกเขาหนึ่งครั้ง และเตือนเขาถึงสถานะของพวกเขา
หวังฉี่อิงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ มองดูใบหน้าที่ดำคล้ำของเธออย่างจงใจ ทำหน้าหย่น “น้องสาว ทำไมวันนี้เจ้าแต่งตัวแบบนี้?”
ซูจิ่วเย่ว์แค่รู้สึกว่าการสวมหมวกคลุมนั้นไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นเธอจึงทาหน้าตัวเองให้เข้มขึ้นเล็กน้อย มันไม่ได้สะดุดตาขนาดนั้น ไม่คาดคิดว่าเขาจะรังเกียจขนาดนี้
เธอยื่นมือออกไปแตะหน้าของตัวเองแล้วยิ้ม “แบบนี้สะดวกกว่า ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่? หรือว่าบังเอิญผ่านมา”
หวังฉี่อิงส่ายหัว “ไม่ใช่อย่างนั้น? ข้ามาที่นี่เพื่อมาหาเจ้าโดยเฉพาะ”
ซูจิ่วเย่ว์ประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด “หาข้าเหรอ? หาข้าทำไม?”
เมื่อหวังฉี่อิงเห็นท่าทางที่สับสนของเธอ จึงยื่นนิ้วออกไปแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ เขาไม่กล้าใช้แรงมากเกินไป แต่น้ำเสียงและคำพูดเหมือนตำหนิเล็กน้อย "ก็ข้าสัญญาว่าจะพาเจ้าไปเดินเที่ยวรอบ ๆ เมือง ทำไมหลังจากที่เจ้ากลับมาก็ไม่เห็นเจ้าไปที่จวนหาข้าเลย? ถ้าข้าไม่ให้คนมาดู ข้าเกรงว่าเจ้าจะลืมว่าเจ้ายังมีพี่ชายอย่างข้าอยู่”
ซูจิ่วเย่ว์จับที่จมูกของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกอายเล็กน้อย
ที่เขาพูดนั้นไม่มีผิดเลย ถ้าเขาไม่มาถึงที่นี่ เธอเองไม่มีทางที่จะไปหาเขาหรอก
“ช่วงนี้ข้ายุ่งอยู่กับการทำความสะอาดบ้านใหม่ กะไว้ว่าอีกสักสองสามวันค่อยไปหาเจ้า” เธอหาเหตุผลให้ตัวเอง แต่มันก็ดูสมเหตุสมผล
หวังฉี่อิงท่าทางเขาดูเหมือนจะอยากรู้ให้ถึงที่สุด “บ้านใหม่? บ้านใหม่ของเจ้าอยู่ที่ไหน พาข้าไปดูหน่อยได้ไหม? ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่มีคนช่วย ข้าจะได้ส่งคนมาสักสองสามคน เพื่อช่วยเจ้าทำความสะอาด ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...
ซีหยวนน่ารักอ่า...