ภรรยานำโชคของเสนาบดี นิยาย บท 22

เดิมทีหวังกุ้ยฟังก็เป็นคนไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว ตอนนี้ลูกสะใภ้หนีไปแล้ว นางก็ยิ่งไม่อยากที่จะเสียหน้า

"ทำไม ? เพียงเพราะพวกเขาเป็นคนตระกูลอู๋เหรอ ! ในตอนแรกพวกเราตระกูลเซี่ยและตระกูลหยางร่วมมือกันขุดบ่อน้ำนี้ขึ้นมา คนตระกูลอู๋เพิ่งย้ายมาหมู่บ้านเรา ตอนขุดบ่อน้ำนี้พวกเขาไม่ได้ออกแรงช่วยขุดบ่อน้ำเลยสักนิด!”

สิ่งที่นางพูดฟังดูก็มีเหตุผล และผู้ชุมนุมต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับนาง

เมื่อผู้ใหญ่บ้านได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา "ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคนตระกูลอู๋ก็ดีกับทุกคน ข้าจำได้ก่อนหน้านั้นเมื่อพวกเขาไปบนภูเขาได้อาหารป่ามา พวกเขาก็นำมาแบ่งปันทุกคน แล้วนิอะไรกัน? เนื้อที่กินเข้าไปมันไปอยู่ในท้องสุนัขหมดแล้วใช่ไหม?

อย่าพูดถึงเนื้อสองชิ้นเลย ตอนนี้ลูกสะใภ้ที่ตระกูลเซี่ยเสียค่าสินสอดไปจำนวนมากกลับหนี่ไป ถึงจะให้หมูสองตัวแก่นางก็แทนกันไม่ได้!

“ยังไงวันนี้ก็ไม่ได้ ทำให้ลูกสะใภ้ของข้าหนีไป ตราบใดที่ข้าหวังกุ้ยฟังยังมีชีวิตอยู่ น้ำนี้ไม่มีทางให้ครอบครัวของพวกเขาดื่มเด็ดขาด !”

ผู้ใหญ่บ้านก็โมโหจนหลุดปากต่อว่า "ผู้หญิงปากร้าย! ทำไมหยางหลิวเด็กสาวนั้นถึงได้หนีไป? เจ้าไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเพราะอะไร? เจ้าทุบตีนางเสียงดังจนได้ยินมาถึงบ้านข้า! เจ้าทุบตีจนนางทนไม่ได้หนีไป ยังจะมาโทษโยนความผิดให้คนอื่น พวกเจ้าหลีกไปให้หมด ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่ความเกรงใจ!”

หวังกุ้ยฟังหัวเราะเยาะขึ้นมาทันที "ไม่เกรงใจงั้นรึ? เฮ้ มาถึงจุดนี้แล้ว ข้ายังกลัวว่าท่านจะไม่เกรงใจข้าอีกหรือ?"

นางหยิบห่อกระดาษออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อ ใช้มือทั้งสองจับชูขึ้นแล้วหมุ่นไปรอบๆ เพื่อให้ทุกคนมองเห็นได้ชัดเจน

"เงินทั้งหมดของเราแม่ลูกถูกใช้ไปเพื่อแต่งลูกสะใภ้คนนี้ และตอนนี้ลูกสะใภ้ก็หนีไปแล้ว ! คนหมดตัวไม่มีอะไรจะต้องเสีย หากวันนี้ทุกคนยืนยันที่จะปล่อยให้คนตระกูลอู๋ดื่มน้ำจากบ่อนี้ ข้าจะโยนห่อยาเบื่อหนูนี้ลงไปในบ่อน้ำ และจะไม่มีใครได้ดื่ม แย่ที่สุดข้าแค่พาลูกชายกลับไปอยู่ที่ตระกูลหวังบ้านแม่ของข้า ข้าจะคอยดูว่าพวกเจ้าและคนในครอบครัวจะทำอย่างไร!"

ผู้ชุมนุมต่างเงียบไปครู่หนึ่ง ซูจิ่วเยว่มองห่อกระดาษในมือนางจากระยะไกล ขมวดคิ้วและกลืนน้ำลายหนึ่งครั้ง

ผู้หญิงคนนี้บ้าเกินไป นางทำแบบนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับนาง? นางต้องการโยนความผิดของตัวเองให้คนอื่น นางถึงจะรู้สึกดีขึ้นเหรอ?

ขณะที่นางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีคนหนึ่งเข้ามายืนข้างนางและจับมือนางอย่างเงียบๆ

ซูจิ่วเย่ว์ตกใจและดึงมือออกโดยไม่รู้ตัว

ทันทีที่นางหันไปเห็นเป็นอู๋ซีหยวนที่ยืนหน้าบึ้งตึงด้วยความน้อยใจ นางไม่สนใจสายตาคนแปลกหน้าที่อยู่รอบ ๆ นางรีบคว้ามือของเขา "ซีหยวน ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?"

อู๋ซีหยวนสัมผัสถึงมือเล็กๆ นุ่มๆ ของจิ่วเย่ว์ที่จับมือใหญ่ ๆ ของเขาแน่น จากนั้นใบหน้าของเขาก็ร่าเริงขึ้นมา และเขากระซิบบอกกับนางว่า "ข้าเพิ่งตื่นและไม่เห็นเจ้า ท่านพ่อบอกว่าเจ้ามาที่ทางเข้าหมู่บ้าน ข้าเห็นเจ้าแวบเดียวก็จำเจ้าได้แล้ว เจ้าว่าข้าเก่งไหม!”

ท่าท่างที่ร่าเริงหน้าบานเป็นกระด้งของเขา ทำให้หัวใจของซูจิ่วเยว์เต้นไม่เป็นจังหวะ

และนางก็ยิ้มให้กับเขาอย่างอ่อนหวานและชมเขาโดยไม่ลังเล "ใช่แล้ว ซีหยวนเก่งที่สุด!"

สถานการณ์ฝากทางนู้นยังคงต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กัน ผู้หญิงบ้าอย่างหวังกุ้ยฟัง ที่สามารถทำในสิ่งที่เธอพูดได้แน่นอน แต่ถ้าตระกูลอู๋ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้น้ำในบ่อนี้ นั่นไม่เท่ากับว่าเป็นการบีบบังคับให้ครอบครัวพวกเขาต้องตายหรือ?

เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่บ้านไม่พูดจาเป็นเวลานาน หวังกุ้ยฟังจึงเดินไปที่บ่อน้ำสองก้าว "ผู้ใหญ่บ้าน ท่านต้องรีบตัดสินใจ! อายุข้าตอนนี้ก็แก่มากแล้วและอ่อนแกคงอดทนได้ไม่นานนัก ถ้าบังเอิญข้ามือสั่นทำห่อยาเบื่อหนูตกลงไปในบ่อ...ถึงเวลานั้น..."

นางจงใจไม่พูดให้จบประโยค และสายตาของทุกคนก็หันไปหาผู้ใหญ่บ้าน

มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นคนเห็นแก่ตัว หากไม่กระทบต่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้วพวกเขาต่างก็ยินดีที่จะยืนดูเพื่อความสนุก

แต่ตอนนี้การกระทำของหวังกุ้ยฟังนั้นคือการข่มขู่คุกคามถึงทุกคน และแน่นอนพวกเขาจะไม่ยืนอยู่นิ่ง ๆ อีกต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี