หลิวซุ่ยฮวาบอกเธอมากมาย เดิมทีเรื่องที่เธอไม่รู้คือ เดิมทีอู๋ซีหยวนสามีของเธอเป็นนักวิชาการหรือบัณฑิตคนหนึ่ง ชื่อของเขาก็เป็นอาจารย์ในสำนักศึกษาเป็นคนตั้งให้เขา
เขาร่ำเรียนได้ไม่เลว ทุกคนในบ้านล้วนทำสุดความสามารถเพื่อให้เขาได้เข้าเรียนสำนักศึกษา คิดไว้ว่าวันใดเขามีอนาคตสดใสก็จะได้ผลพลอยได้ไปด้วย
แต่ใครจะไปคิดกันเล่า ฟ้าดินยากคาดเดามีแต่สิ่งไม่คาดฝันล้วนแต่มีโชคลาภและเคราะห์ภัยกันทั้งนั้น สองปีก่อนนี้ในช่วงที่เขาไปสำนักศึกษาก็ถูกคนทุบเข้าที่ศีรษะ พอฟื้นสติขึ้นมาก็โง่ทึ่มไปแล้ว
คนในบ้านคิดหาทุกวิถีทาง ถึงกระทั่งไปตามหาหมอภายในอำเภอ แต่กลับไม่สามารถรักษาเขาได้……
ภายในห้องที่ไม่ค่อยจุดตะเกียงไฟ แสงไฟจากความมืดสลัวส่องมาที่ใบหน้าครึ่งซีกของเธอ เธอก้มหน้าลงเม้มริมฝีปากคิ้วขมวดจนเป็นก้อน
หลิวซุ่ยฮวาก็ไม่ได้บีบบังคับเธอ จึงพูดขึ้น “เจ้ากลับห้องไปก่อนเถอะ วันนี้รีบเดินทางมาทั้งวันแล้ว พักแต่เนิ่นๆเถอะ ต้มน้ำร้อนหลังห้องครัวเตรียมไว้แล้ว ไปอาบน้ำสักหน่อย”
อาบน้ำเสร็จ เธอที่สวมชุดเก่าขาดๆทั้งตัวนั้นกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยความตื่นเต้นมากจริงๆ
เธอหันหน้ามองไปโดยไม่รู้ตัว หลิวซุ่ยฮวายิ้มแล้วโบกมือให้เธอ
เธอถึงได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วใช้ความกล้าผลักประตูเปิดออก
ไม่ว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ หลังจากนี้ที่นี่ก็คือบ้านของเธอแล้ว
ภายในห้องไม่ได้จุดไฟจึงมืดสนิท เธอเดินเข้าไปแล้วหันตัวปิดกลอนประตู เดินคลำทางไปจนถึงข้างเก้าอี้แล้วนั่งลง วางแผนว่าจะเป็นเช่นนี้ทั้งคืน
“ทำไมเจ้าไม่ขึ้นเตียงมานอนล่ะ?” ทันใดนั้น ภายในห้องก็มีเสียงดังขึ้น ทำเอาซูจิ่วเย่ว์ตกใจขึ้นมา
“ข้า……นั่งนี่ก็ได้”
เสียงสวบสาบดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงใส่รองเท้าเดิน เธอจึงเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
ทันใดนั้นมีศีรษะมาตรงหน้าเธอ แม้เธอจะมองไม่ชัด แต่ลมหายใจของเขาเป่ารดใบหน้าเธออยู่ เธอจึงถอยหลังไปทันที
“ท่านแม่พูดไว้แล้ว ไม่นอนที่เตียงจะไม่สูงนะ”
ซูจิ่วเย่ว์เม้มปาก เธอไม่ถือว่าเตี้ยมากนะ
ชั่วพริบตา อู๋ซีหยวนก็ดึงแขนเธอไว้ “ไปกันเถอะ ไปนอน พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะได้ไปเล่นกัน”
ร่างกายของเขาไม่มีกลิ่นเหงื่อเหม็นของผู้ชาย กลิ่นหอมจางๆบนเสื้อผ้าลอยเข้าสู่รูจมูกของเธอ ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมากโดยไม่มีสาเหตุ
ใช่แล้ว สติปัญญาในตอนนี้ของเขาเหมือนกับเด็กคนหนึ่ง จะไม่รังแกเธอ และถือว่าเพิ่มเพื่อนเล่นอีกหนึ่งแล้วกัน
ภายในห้องที่มืดมิด เธอก็ปล่อยให้เขาลากขึ้นเตียงอิฐ
“เตียงค่อนข้างสูง ระวังโขกเข้าล่ะ”
ซูจิ่วเย่ว์รู้สึกว่าที่หลิวซุ่ยฮวาพูดไว้ไม่มีผิดในทันที อย่างน้อยชายคนนี้ก็เป็นคนที่จิตใจดี
เตียงของอู๋ซีหยวนใหญ่มาก ทั้งสองคนนอนริมเตียง ตรงกลางยังสามารถนอนเพิ่มได้อีกสองคน
ซูจิ่วเย่ว์ก็เหนื่อยแล้วเช่นกัน หัวเพิ่งถึงหมอนก็หลับปุ๋ยไปแล้ว
เธอฝันถึงสระบัวที่มีใบบัวบานไม่มีที่สิ้นสุดเชื่อมต่อกับท้องฟ้า เธอกะจะยื่นมือไปเด็ดดอกบัว ปลาคาร์ฟสีทองตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามาในอ้อมกอดเธอ
เธอตกใจ ไม่ระวังจนตกน้ำ น้ำท่วมหัวของเธอแล้วค่อยๆหายใจไม่ออก
เธอพยายามลืมตาขึ้น กลับเห็นใบหน้างามกว้างใหญ่ตรงหน้า เขาบีบจมูกของเธอพร้อมยิ้มอย่างเบิกบาน “เจ้าตื่นแล้วเหรอ! รีบลุกขึ้นเถอะ! พวกเราออกไปเล่นกัน!”
ซูจิ่วเย่ว์เพิ่งจะสลัดหลุดออกมาจากความหวาดกลัวในฝัน ตอนนี้ยังคงมึนงงสับสนอยู่บ้าง อู๋ซีหยวนยื่นมือมาโบกตรงหน้าเธอ “เจ้าเป็นไรไป? ทึ่มไปแล้วเหรอ?”
“รู้แล้วครับ ท่านแม่!”
เล้าไก่อยู่ลานหลังบ้าน แม่ไก่นำฝูงลูกไก่หาของกินในลานหลังบ้าน จึงสร้างเล้า เพราะคนในบ้านไม่กล้าให้ลูกไก่ออกจากบ้านไป
และก็เพราะในทุกวันอู๋ซีหยวนออกจากบ้านไปจับหนอนแมลงให้พวกเธอโดยไม่รู้จะเบื่อหน่าย ดังนั้นลูกไก่เหล่านี้จึงเติบโตอย่างแข็งแรง
อู๋ซีหยวนชี้ไปที่ลูกไก่หนึ่งตัวในนั้นแล้วแนะนำให้เธอรู้จัก “ตัวนี้ชื่ออาต้า ด้านข้างนั้นคืออาเอ่อร์……อีกเดี๋ยวกินข้าวแล้วพวกเราไปจับหนอนแมลงให้พวกเขากินด้วยกัน! ท่านแม่บอกไว้แล้วว่ารอพวกมันโตก็จะมีไข่กินแล้ว!”
ซูจิ่วเย่ว์นั่งยองอยู่ด้านข้างกำลังจ้องมองลูกไก่สีเหลืองสองสามตัวนั้น มองยังไงก็มองไม่ออกว่าพวกมันแตกต่างกันตรงไหน
อู๋ซีหยวนกระโดดตัวมาถึงข้างเล้าไก่ ยื่นมือหยิบไข่ไก่ 6 ฟองออกมาจากด้านใน “ภรรยา เจ้ารีบดู! ไข่ขาวๆอวบๆ ลูกไก่ก็ฟักออกมาจากในนี้!”
ซูจิ่วเย่ว์เพิ่งจะ 13 ปี ว่าแล้วก็ถือเป็นเด็กโตครึ่งหนึ่ง
ตอนที่อยู่บ้านแม่เดิมที เพราะต้องดูแลน้องชายน้องสาวจึงถูกบีบให้ต้องโตขึ้น ตอนนี้มาที่บ้านตระกูลอู๋ตรงกันข้ามกลับไปเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง
เธอก็เข้าไปดู “ไข่ไก่มากมายขนาดนี้?”
ที่บ้านเธอเลี้ยงไก่สองตัวเท่านั้น ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีก็ไม่ออกไข่แล้ว แม่ของเธอจึงล้มเลิกที่จะเลี้ยงต่อเพราะเปลืองอาหาร จึงฆ่าเพื่อกินเนื้อไปตั้งนานแล้ว
อู๋ซีหยวนนำไข่ไก่มาแบ่งให้เธอ 3 ฟอง “แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง พวกเราไปหาท่านแม่เพื่อต้มไข่กินกัน!”
มือของซูจิ่วเย่ว์เล็กมาก สองมือจึงประคองไข่ไก่ 3 ฟองไว้ด้วยความระมัดระวัง ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ตกใจ ไข่ไก่สามารถกินตามใจได้เหรอ?!
ไข่ที่เธอเก็บที่บ้านในทุกวันล้วนเก็บสะสมเพื่อนำไปแลกเงินเมื่อไปตลาด เธอจำรสชาติไข่ไก่ไม่ได้มานานหลายปีแล้ว
อู๋ซีหยวนวิ่งไปสองก้าว เห็นว่าซูจิ่วเย่ว์ยังนิ่งอยู่ที่เดิมจึงพูดเร่ง “ยังนิ่งทำอะไร? รีบเดินสิ ไปช้าของอร่อยก็จะถูกพวกสาวๆป้าๆแย่งไปหมด!”
ซูจิ่วเย่ว์ถือไข่ไก่และวิ่งตามหลังอู๋ซีหยวนไปยังลานหน้าบ้าน เมื่ออู๋ซีหยวนเห็นหลิวซุ่ยฮวาก็ตะโกนบอก “ท่านแม่! โปรดต้มไข่ไก่ให้ข้ากับภรรยา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
เอ็นดูพ่อหนุ่มจังเลย...
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...