ซีหยวนตะคอกพร้อมเงยคางขึ้น “เจ้าสิมีปัญหา”
หลังจากพูดจบก็เดินไปหาภรรยาเพื่อบ่นว่า ภรรยา “เขาว่าข้ามีปัญหาทางจิต!”
เมื่อซูจิ่วเย่ว์ได้ยินก็หันไปมองอาต้าด้วยสายตาที่ดุ จากนั้นก็เกลี้ยกล่อมเบาๆว่า “เขาพูดจาไร้สาระ เราไม่ต้องสนใจเขา!”
เมื่อยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมภรรยาอู๋ซีหยวนก็รู้สึกพอใจขึ้นมาทันที เขาเหลือบมองอาต้าอย่างหยิ่งผยอง จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆภรรยาของเขาตลอดเวลา โดยที่ไม่สนใจอาต้าอีกเลย
เมื่ออาต้าเห็นพฤติกรรมที่ไม่ต่างจากเด็กของพวกเขา ก็ไม่รู้ว่าควรจะโกรธดีหรือไม่
ถ้าเขาโกรธจริงๆ และโกรธเด็กทั้งสองคน เขาก็จะไม่กลายเป็นคนหน้าไม่อายจริงๆเหรอ?
หลิวต้าหลินก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเด็กสองคนนี้อย่างไร เขาทำได้เพียงกล่าวขอโทษแทนพวกเขาเท่านั้น “นายท่าน เด็กทั้งสองไม่รู้กาลเทศะ ท่านอย่าได้ถือสาพวกเขาเลย”
เมื่อเขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว อาต้าจะไปถือสาอะไรได้อีก?
เขาก็ยืดตัวตรง เอามือทั้งสองข้างไขว้หลัง “อืม เดิมทีก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ เพียงแต่ว่าหลานชายของท่านคนนี้.......ทำไมถึงแตกต่างจากคนวัยเดียวกันเล็กน้อยล่ะ?”
หลิวต้าหลินถอนหายใจ “เขาประสบอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้ว ศีรษะได้รับบาดเจ็บ จึงกลายเป็นเช่นนี้”
อาต้ารู้สึกว่าสะกิดถูกปมที่เจ็บปวดของใครบางคน จึงกำหมัดทันที “ขอโทษ”
หลิวต้าหลินโบกมือ “ไม่เป็นไร”
.
พวกเขาไปที่บ้านของหลิวต้าหลินก่อน แล้วจึงคุ้มกันและส่งซูจิ่วเย่ว์พวกเขากลับไปที่บ้านตระกูลอู๋ หลังทำความรู้จักกันแล้ว ก็ไม่สนใจคำชักชวนของคนในครอบครัว ไม่แม้แต่อยู่กินข้าว ก็รีบกลับกันอย่างรวดเร็ว
สิ่งของหนึ่งรถเกวียนขนเข้าในบ้านตระกูลอู๋ เถาเอ๋อร์กั๋วเอ๋อร์ยืนอยู่ข้างเกวียนและมองไปรอบๆด้วยความสงสัย
เทียนซิวเหนียงเกือบเผยคำว่าเอาเปรียบบนในหน้าของเธอ ตั้งแต่ซูจิ่วเย่ว์เดินเข้าประตูมาก็ไม่เคยอยู่ห่างจากเธอแม้แต่ก้าวเดียว แม้กระทั่งซีหยวนก็ยังเกิดอาการอิจฉาเล็กน้อย
“พี่สะใภ้รอง ท่านอยากจะแย่งภรรยากับข้าเหรอ?!”
เทียนซิวเหนียงยิ้มให้เขา “ไม่ใช่อย่างนั้น ภรรยาเจ้าก็ยังเป็นภรรยาของเจ้า ข้าก็แค่สงสัยว่าบนเกวียนนี้มีอะไรบ้าง?”
ซูจิ่วเย่ว์ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ มันเป็นของขวัญที่พี่สาวท่านหนึ่งมอบให้ข้า เก็บมันไว้ก่อน รอท่านแม่กลับมาค่อยเปิดดู”
หลิวซุ่ยฮวายังคงดูแลอู๋จงหยวนอยู่บนภูเขา!แม้กระทั่งต้าเฉิงก็ยังไม่กลับมา
รอยยิ้มบนใบหน้าของเทสียนซิวเหนียงค่อยๆจางลงเล็กน้อย ถ้าท่านแม่กลับมา สิ่งของพวกนี้ท่านแม่ก็จะเก็บมันไว้เองทั้งหมด? เธอคงจะไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว
“พวกเรามาเปิดดูกันก่อนไหม?”
ซูจิ่วเย่ว์ก็ยังคงยืนกรานที่จะรอให้แม่สามีกลับมาก่อน “ท่านแม่เป็นหัวหน้าครอบครัว รอท่านแม่กลับมาก่อนเถอะ!”
รถเกวียนถูกจอดไว้ที่สนาม ทุกคนต่างเข้าไปในบ้าน เฉินจาวตี้ยกอาหารไปให้พวกเขาที่ห้องนอน
“จิ่วยากับซีหยวนหิวแล้วสิ? ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะกลับมาวันนี้ อุ่นอาหารบางอย่าง พวกเจ้ากินรองท้องไปก่อน เดี๋ยวพี่สะใภ้ไปทำอาหารเพิ่มให้พวกเจ้า”
ซูจิ่วเย่ว์ดึงเธอไว้ “พี่สะใภ้ใหญ่ ไม่รบกวนพี่ละ แค่นี้ก็พอกินแล้ว พวกเรากินแก้หิวก็พอ แล้วค่อยกินพร้อมทุกคนตอนบ่าย”
เฉินจาวตี้จึงพยักหน้า “เอางั้นก็ได้ พวกเจ้ากินเถอะ ข้าไปดูว่าตอนบ่ายจะทำอะไรกินดี”
เทียนซิวเหนียงยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่าง มองลอดช่องหน้าต่างเห็นเฉินจาวตี้เข้าไปในห้องของซูจิ่วเย่ว์ ส่งเสียงเห๊อะ “นึกว่านางเป็นคนซื่อสัยต์ ตอนนี้รีบไปเอาหน้าเชียว!”
เอ้อร์เฉิงกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่บนคั่ง เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็ชำเลืองมองเธอ “เจ้ากำลังพูดเสียดสีถึงใครหรือ?”
เฉินจาวตี้เห็นว่าลูกสาวของเธอตื่นจากการงีบหลับ จึงเดินไปตบที่หลังเธอเบาๆ “ไม่มีอะไร แค่สงสัยว่าพ่อของเจ้ากับท่านย่าทำไมยังไม่กลับมา”
เถาเอ๋อร์จับมือของเธอไว้และไม่ปล่อย “ท่านแม่ อย่าคิดเรื่องนี้เลย พรุ่งนี้ออกไปตามหาก็จะรู้เอง”
เฉินจาวตี้ตอบกลับอืม และถอดเสื้อผ้าบนตัวออก แล้วนอนลงข้างๆลูกสาวของเธอ.......
หลังจากตื่นนอน สิ่งแรกที่เฉินจาวตี้ทำคือมองดูรถเกวียนด้านนอก เมื่อเป็นว่าไม่มีอะไรต่างไปจากเมื่อวาน เธอจึงหันกลับไปอุ้มฟืนแล้วเดินเข้าไปในครัว
หลังจากซูจิ่วเย่ว์กินข้าวเช้าแล้ว เธอก็พาอู๋ซีหยวนไปที่บ้านของหลิวต้าหลิน
หญิงชรากินยา และโสมป่าที่เธอมอบให้นาง วันนี้อาการของนางก็ดีขึ้นมาก
หวงฮู่เซิงใช้โอกาสนี้สอนซูจิ่วเย่ว์จับชีพจร จากนั้นก็หยิบผ้ามาเช็ดมือ “เอาล่ะ ต่อไปก็กินยาและพักผ่อน ข้าก็ต้องกลับแล้ว จงหยวนอยู่ลำพังข้าเป็นห่วง”
ซูจิ่วเย่ว์นึกถึงภาพวาดที่เธอเห็นติดอยู่บนกำแพงเมือง และความฝันก่อนหน้านั้นของเธอ ก็ขมวดคิ้ว “อาจารย์ ข้าขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม? ข้ามีเรื่องที่อยากจะถามท่าน”
หวงฮู่เซิงหยุดเช็ดมือไปชั่วขณะ “เรื่องอะไรหรือ?”
ซูจิ่วเย่ว์ส่งสัญญาณบอกให้เขาออกไปคุยข้างนอก เมื่อเดินมาถึงลานบ้าน มองไปรอบๆละเห็นว่าไม่มีใคร ซูจิ่วเย่ว์ก็ถามว่า “อาจารย์ ท่านรู้ไหมว่าจงหยวนเป็นใคร?”
เมื่อได้ยินเธอถามคำถามที่ไม่คาดคิด หวงฮูเซิงก็ประหลาดใจมากเช่นกัน “ทำไมถึงพูดเช่นนี้ล่ะ?”
“อาจารย์ ปกติท่านไม่ค่อยชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่น แต่กลับเสนอตัวไปดูแลจงหยวนเอง วันนี้ตอนที่ข้ากลับมาจากเมืองยงโจว เห็นประกาศจับที่ติดอยู่ที่ประตูเมือง ภาพวาดบนนั้นก็คือจงหยวน เขา.......เป็นใครกันแน่?”
เมื่อหวงฮูเซิงได้ยินคำว่าประกาศจับ ก็รู้ว่าตัวเองคงไม่สามารถกลับเมืองหลวงได้สักระยะหนึ่ง
เขายื่นมือออกไปลูบหัวของซูจิ่วเย่ว์ “เจ้าเป็นเด็กที่ฉลาด แต่ว่าเรื่องนี้เจ้าไม่ควรถาม บางครั้งการที่รู้เรื่องมากเกินไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคของเสนาบดี
เอ็นดูพ่อหนุ่มจังเลย...
ตอนที่ 179-185 มีตอนละ 3 บรรทัด งงมาก ทำไมช่วงนี้ลงเนื้อหานิยายขาดหายตลอดเลย...
162-168 มีแค่บาทละ 2-4 บรรทัดเท่านั่นน...
161 มีแค่ 2บรรทัด เนื้อหาหายไปไหน งงง...
160 มีแค่สองบรรทัด...
บทนี้มีแค่ 4 บรรทัด...
บทที่140 -145 มีเนื้อหาบทละ 3-4 บรรทัดเท่านั่น เนื้อหาหายไปไหนน้อ...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...
อะแหมมมม พ่อหนุ่มน้อยของเราร้ายนะเนี่ย 5555...
มันมาได้ยังไง...