ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 110

“หม่ามี๊วางสายไปแล้วเหรอ” เรนจิหันไปถามพ่อตัวเองด้วยเสียงอ่อน เพราะคิดว่าอย่างน้อยหม่ามี๊ก็คงอยากคุยกับเขาบ้าง…แต่ก็ไม่ “ผมทำอะไรผิดเหรอ ทำไมอยู่ๆ หม่ามี๊ก็ไม่รักผมแล้ว”

วายุหันไปมองลูกชายแวบหนึ่ง ก็เห็นขอบตาที่แดงก่ำ “ลูกไม่ผิด พ่อผิดเองที่รั้งเธอไว้ไม่ได้”

“ผมอยากกลับบ้านเลย” เขาไม่อยากเข้าบริษัทกับพ่อ เพราะตอนนี้เขาอยากอยู่คนเดียวมากกว่า

วายุเข้าใจลูกชายดีจึงขับรถเข้าไปส่งเขาที่บ้านก่อนจะกลับเข้ามาที่บริษัทอีกครั้ง คราวนี้สภาพวายุดูแย่กว่าเดิมทำเอาพนักงานแต่ละคนไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย เอาแต่นั่งทำงานของใครของมันเงียบๆ

ธาราธรเดินเข้าไปหาวายุในห้องก็เห็นเขานั่งสูบบุหรี่ นี่เขาไม่เห็นพี่ชายตัวเองสูบบุหรี่มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ “เกิดอะไรขึ้น อะไรที่ทำให้พี่เครียดมากจนถึงขั้นต้องสูบบุหรี่”

“เธอคงไม่กลับมาแล้วจริงๆ เป็นฉันที่คิดเข้าข้างตัวเอง”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้ เธอก็ดูเหมือนว่าจะรักพี่ไม่ใช่เหรอ”

“ไม่รู้ หรือว่าฉันควรจะเป็นคนเลวกว่านี้ ลงมือจัดการผู้หญิงคนนั้นสักที”

“ผมก็อยากให้พี่ลงมือเลยนะ แต่ผมกลัวว่าถ้าเรนโตขึ้นแล้วมารู้ทีหลังว่าพี่ทำร้ายแม่ของเขา คงจะต้องมีตัดพ่อตัดลูกกันบ้าง ตอนนี้เรนยังเด็กแถมดาหลาเองก็ไม่ค่อยได้เจอหน้าลูกเพราะพี่ ตอนนี้เรนก็เลยติดยี่หวาเพราะเธอมักจะคอยอยู่กับเรนตลอด ถ้าวันหนึ่งเขาพอที่จะรู้ว่าใครเป็นแม่จริงๆ บางทีเรนก็อาจจะเลือกดาหลา”

“สรุปฉันก็ต้องรอเวลาใช่ไหม”

“ผมคิดว่ามันคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว”

วันต่อมายี่หวาก็มาสตูดิโอเอสวีตามที่ควิลเลอร์บอกไว้ ซึ่งพอเธอมาถึงก็ดันเจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุดซะได้

“นี่เธอมาทำอะไรที่นี่” ดาหลาเดินเข้ามาคุยกับยี่หวาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอดูแย่กว่ายี่หวา

ยี่หวาไม่ตอบแต่เดินเลี่ยงดาหลามานั่งตรงจุดนั่งพัก และก็ดันเจอคนที่ไม่อยากเจออีกแล้ว

“ไงคุณ ไม่เจอหลายวันเลย” โจเซฟเอ่ยทักด้วยเสียงสดใส และเดินมานั่งข้างยี่หวา “คิดถูกจริงๆ ที่ตอบรับคำเชิญมารายการนี้”

ยี่หวาหันไปทำหน้างงใส่เขา “คือ?”

“ผมมาเป็นคนชิมอาหาร หวังว่าอาหารคุณจะถูกใจผมนะ แต่ถึงจะไม่อร่อยผมก็จะกินให้หมด”

“เดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าฉันใช้เส้นสายกันพอดี”

“ผมเชื่อต่างหากว่าคุณทำอาหารอร่อย ส่วนเรื่องแฟนคุณผมรู้หมดแล้ว คิดจะโกหกผมมันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ เตรียมตัวให้ดีเพราะผมจะไม่ยอมแพ้ ไปล่ะ” โจเซฟขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป

ยี่หวาอยากจะบ้าตาย ช่วงนี้รอบตัวเธอเจอแต่อะไรไม่รู้

รายการทำอาหารครั้งนี้เป็นรายการแข่งขันระหว่างสองทีม โดยแต่ละทีมมีสมาชิกสามคน ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ทำพวกเขาต้องเป็นคนไปซื้อเองโดยใช้เงินจากที่จับฉลากได้เท่านั้น แถมกับข้าวที่ทำออกมาต้องมีอย่างน้อยสามอย่างขึ้นไป

ทีมของยี่หวามีพระนายกับแทนไทนักแสดงชายตัวประกอบ ส่วนทีมของดาหลามีชิริวกับปิแอร์พระเอกจากละครดัง แค่การจัดทีมก็รู้แล้วว่ากล้องจะต้องโฟกัสทีมไหนมากกว่ากัน

การแข่งขันไม่มีกฎกติกาอะไรมาก ขอแค่ห้ามใช้เงินเกิน และทำอาหารเสร็จทันเวลาส่วนเรื่องรสชาติค่อยว่ากันอีกที ซึ่งทีมยี่หวาจับฉลากได้เงินสองร้อยบาท ส่วนทีมดาหลาได้เงินห้าร้อยบาท…

“ผมขอโทษนะ” พระนายรีบเอ่ยขอโทษเพื่อนร่วมทีม ที่จับฉลากออกมาได้แค่สองร้อยบาท ทั้งที่ปกติตอนเขาดูรายการอย่างน้อยเงินที่ให้ก็ไม่เคยต่ำกว่าสี่ร้อยบาท

“ไม่เป็นไร” แทนไทตบไปที่ไหล่พระนายเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะตอนนี้กล้องกำลังจับภาพพวกเขาอยู่

ยี่หวาส่ายหัวก่อนจะส่งใบรายการวัตถุดิบที่ต้องซื้อให้พวกเขาดู สิ่งที่ยี่หวาให้พระนายซื้อคือแตงโม และแทนไทซื้อปลาช่อนแดดเดียว ส่วนของที่ยี่หวาต้องซื้อก็มีชุดเห็ดรวม ชุดต้มยำ ไข่ และมะระ เพราะเมนูที่ยี่หวาจะทำคือมะระผัดไข่ ต้มยำเห็ดน้ำใส และแตงโมปลาแห้ง ที่เธอไม่เลือกใช้หมูกับไก่เพราะมันแพง

ทีมของดาหลาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนทีมยี่หวาซื้อที่ตลาดเพราะงบน้อย พอมาถึงตลาดทั้งสามคนก็แยกย้ายไปซื้อของที่ตัวเองต้องการ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาทีเพราะแต่ละคนก็จบที่ร้านเดียว โดยเฉพาะร้านขายผักที่ยี่หวาซื้อแทบจะมีทุกอย่าง แถมแม่ค้ายังลดราคาให้อีกด้วย ซื้อที่ตลาดก็ดีแบบนี้สามารถต่อราคาได้

ในขณะที่ทีมยี่หวากลับเข้ามาในสตูดิโอกำลังจะลงมือทำอาหาร แต่ทีมของดาหลายังเดินเลือกซื้อของกันอยู่เลย

“ไม่ทราบว่าวันนี้ทีมพวกคุณจะทำอะไรครับ” พิธีกรเดินมาถามทั้งสามคน เพราะว่าอีกทีมยังไม่กลับมา

ยี่หวาหันไปหาผู้ชายสองคนเพื่อให้พวกเขาตอบ แทนไทจึงพูดขึ้น “ต้มยำเห็ดน้ำใส มะระผัดไข่ แล้วก็อะไรนะ” แทนไทหันไปถามพระนายเพื่อให้เขาได้มีบทพูดด้วย

“แตงโมปลาแห้งครับ”

“แตงโมปลาแห้ง? คืออะไรครับ” พิธีกรถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะว่าเขาไม่เคยได้ยิน

ก่อนหน้านี้ยี่หวาได้บอกพวกเขาแล้วว่ามันคืออะไร เลยไม่มีปัญหาในการตอบ “คือการนำปลาแห้งไปผัดกับหอมแดงแล้วนำมากินคู่กับแตงโมครับ”

“เป็นของว่างชาววังโบราณครับ” แทนไทพูดเสริมขึ้น

“หืม? ใครเป็นคนคิดเมนูนี้ขึ้น”

“ก็จะใครซะอีกล่ะครับ ยี่หวาสาวสวยหนึ่งเดียวของทีมเราไง”

“งั้นพวกคุณตามสบายเลย เหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าไม่ต้องรีบ” เพราะอีกทีมก็ยังไม่มา

ก่อนอื่นยี่หวาทอดปลาช่อนแดดเดียวจนสุกจากนั้นก็ส่งให้พระนายแกะเนื้อแล้วส่งให้แทนไทโขลกให้ละเอียด ส่วนเธอก็ตั้งหม้อต้มน้ำบนไฟรอให้เดือด ขณะนั้นก็หันมาหั่นมะระแล้วนำเกลือมาโรยขยำเบาๆ แล้วบีบน้ำออก จากนั้นก็นำมาล้างความเค็มของเกลือออก

พิธีกรที่ทนความอยากรู้ไม่ได้จึงเดิมเข้ามาถาม “คุณยี่หวาทำไมถึงต้องใส่เกลือลงไปบนมะระด้วยครับ”

“เพื่อกำจัดความขมและให้มะระมีสีเขียวใสน่าทานขึ้นค่ะ”

“โห! นี่ผมเพิ่งรู้เลยนะครับ”

ช่วงที่รอให้มะระสะเด็ดน้ำก็หันกลับมาทำต้มยำต่อโดยใส่เครื่องต้มยำลงไปปรุงรสชาติให้เรียบร้อยและปิดฝาอีกครั้ง

เมื่อยี่หวาเห็นว่าพระนายกับแทนไทโขลกปลาจนละเอียดแล้วก็เริ่มซอยหอมแดง นำไปเจียวจนเหลืองกรอบใส่น้ำตาลทรายและเนื้อปลาลงไปคนให้เข้ากัน แล้วตักขึ้นใส่ถ้วย จากนั้นก็หันไปสั่งชายหนุ่มทั้งสองคน

“คนหนึ่งผัดไข่ฉันเตรียมเครื่องปรุงไว้ให้หมดแล้วแค่ใส่ลงไป ส่วนอีกคนก็ตักแตงโมใส่จาน”

พระนายและแทนไทพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง ซึ่งแทนไทเป็นคนผัดไข่ส่วนพระนายใช้ช้อนตักไอศกรีมขนาดเล็กตักแตงโมใส่จานทีละชิ้นล้อมรอบถ้วยที่มีปลาแห้งอยู่ ที่ยี่หวาไม่โรยลงไปเลยเพราะจานนี้บางคนสามารถทานเป็นของหวานได้

จากนั้นยี่หวาก็ใส่เห็ดลงไปในหม้อ พอแทนไทผัดไข่เสร็จยี่หวาก็ให้ไปช่วยดูต้มยำ เธอใส่มะระลงไป เร่งไฟให้แรงเพื่อให้มะระสุกเกือบจะทันที เมื่อผัดจนเข้ากันแล้วยี่หวาก็ตักใส่จาน ซึ่งต้มยำเองก็สุกพอดี

“เมื่อกี้ผมเห็นคุณยี่หวาเร่งไฟแรงมาก เป็นเพราะอะไรเหรอครับ” พิธีกรถามยี่หวาขึ้นอีกครั้ง

“เป็นการช่วยกำจัดความขมของมะระเหมือนกันค่ะ”

“ครับ อาหารของทีมนี้ดูน่าทานมากเลย สรุปว่าอาหารทั้งสามอย่างนี้ใช้งบไปเท่าไหร่ครับ”

“163 บาทครับ” แทนไทพูดขึ้นด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ เพราะไม่คิดว่าพวกเขาจะทำอาหารออกมาได้สำเร็จเพียงแค่ใช้เงินไม่ถึงสองร้อย

“เพราะพวกเราไม่ได้ใช้หมูกับไก่วัตถุดิบก็เลยค่อนข้างถูกครับ”

“นี่เป็นครั้งแรกของรายการเลยที่ใช้งบน้อยขนาดนี้ พวกคุณสุดยอดมากครับ”

ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงในที่สุดทีมของดาหลาก็กลับมา ซึ่งพวกเขาก็ต้องตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกทีมจะทำเสร็จแล้ว ดังนั้นจึงเกิดความกดดันมาก ทำให้อาหารออกมาไหม้บ้าง ไม่สุกบ้าง แต่ในที่สุดก็เสร็จทันเวลา

“ไม่ทราบว่าทีมพวกคุณมีเมนูอะไรบ้างครับวันนี้” เหตุผลที่พิธีกรเพิ่งเดินมาถามเพราะก่อนหน้านี้พวกเขารีบจนไม่ได้ฟังเสียงรอบข้างเลย

ดาหลาเมื่อได้ยินเสียงพิธีกรก็รีบหันไปยิ้มให้กล้องก่อนจะตอบออกมา “มียำหอยนางรม ผัดปลาหมึกไข่เค็ม และต้มจืดหมูสับค่ะ”

“เมนูน่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ แล้วสรุปว่าวันนี้พวกคุณใช้งบไปเท่าไหร่ครับ”

“500 บาทค่ะ พอดีไม่ขาดไม่เกิน”

ผู้ชายทั้งสองคนข้างหลังดาหลาแทบจะไม่มีบทพูดอะไรเลย พวกเขาได้แต่ยืนนิ่ง พระนายและแทนไทที่เห็นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่พวกเขาได้อยู่ทีมเดียวกับยี่หวา ทั้งที่เธอเป็นคนคิดเมนู อันที่จริงเธอก็ควรจะเป็นคนตอบเอง แต่เธอกลับบอกรายละเอียดกับพวกเขาแล้วก็ให้พวกเขาเป็นคนตอบแทน

“ในเมื่อทั้งสองทีมทำอาหารเสร็จแล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการชิมอาหารได้เลยครับ”

กรรมการในการชิมอาหารครั้งนี้มีสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือโจเซฟที่พยายามส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ยี่หวาอยู่

ซึ่งการตัดสินในครั้งนี้เริ่มจากทีมยี่หวาก่อน กรรมการท่านหนึ่งตักต้มยำเข้าปากก็ต้องขมวดคิ้วออกมาก่อนจะตักชิมอีกครั้ง “ถ้าผมไม่เห็นว่าพวกคุณทำเอง ผมต้องคิดว่าคุณไปซื้อมาจากภัตตาคารหรูที่ไหนแน่ๆ” เขาว่าจบก็ตักผัดมะระเข้าปาก “ไม่มีความขมของมะระหลงเหลืออยู่เลย ฝีมือระดับนี้ไม่ธรรมแล้ว”

กรรมอีกท่านก็ตักอาหารเข้าปากบ้าง “หืม? สุดยอดมาก!!! ฝีมือพอๆ กับเชฟในโรงแรมหรูๆ เลยนะ”

“จริงด้วย! อร่อยมากจริงๆ แถมเมนูอาหารก็หลากหลาย มีทั้งผัด ทั้งต้ม” โจเซฟอดที่จะชมออกมาตรงๆ ไม่ได้จริงๆ เพราะไม่คิดว่ายี่หวาจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้

สีหน้าดาหลาดูแย่ลงจนกล้องจับได้ ทำไมพวกกรรมการต้องชมออกนอกหน้าขนาดนี้ด้วย แบบนี้เท่ากับว่าไม่ให้เกียรติทีมเธอเลย และพอกรรมการท่านหนึ่งตักอาหารทีมดาหลาเข้าปากก็ถึงกับนิ่ง

เพราะตอนนี้เขาเข้าใจคำที่บอกว่า ‘กลืนไม่เข้าคายไม่ออก’ อย่างชัดเจนแต่เพราะกำลังถ่ายรายการจึงต้องตัดสินใจกลืนลงไป ไม่รอช้ารีบตักน้ำต้มยำของอีกทีมตามเข้าปากไปด้วย “การทำอาหารหลักๆ ก็คือการพิถีพิถัน”

ดาหลากำมือแน่น เพราะอะไร! ทำไมเขาถึงได้ชมทีมยี่หวาขนาดนั้นแต่ทีมเธอกลับบอกให้พิถีพิถัน แบบนี้มันลำเอียงเกินไปแล้ว

เมื่อเห็นสีหน้าของกรรมการท่านแรก อีกท่านก็ตักแค่น้ำเพื่อชิม ซึ่งก็แทบพุ่งออกมา นี่พวกเขาใส่น้ำปลาไปมากขนาดไหนกันเนี่ย “ถ้าฝึกมากกว่านี้ ฉันเชื่อว่าพวกเธอจะต้องพัฒนามากขึ้นไปอีก”

โจเซฟที่เห็นท่าทางไม่ค่อยดีจึงใช้ช้อนแตะก่อนจะเอาเข้าปาก เขาไม่พูดอะไรแต่ส่งจานอาหารที่ยี่หวาทำให้อีกฝ่าย “คุณลองชิมจานนี้ดู แล้วคุณจะเข้าใจความหมายของผม”

แม้ดาหลาจะไม่อยากชิมแต่ในเมื่อกรรมการยื่นให้แบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ เธอใช้ช้อนพลาสติกอันใหม่ที่วางอยู่ตักอาหารขึ้นมา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม