ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 114

“เธอมาทำอะไรที่นี่?” ดาหลาที่เห็นยี่หวาเดินเข้ามาในห้องของเรนจิก็ถามออกมาอย่างไม่พอใจ แต่ก็พยายามเก็บอาการโกรธไว้เพราะวายุยืนอยู่ “ทำไมถึงมาด้วยกันได้ นี่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ?”

“เรนเป็นอะไร” วายุหันไปถามธวัฒน์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“หมอบอกเป็นโรคกระเพาะเพราะไม่ยอมทานข้าว”

ยี่หวาหน้าเสียทันที เธอไม่สนใจดาหลาเดินเข้าไปหาเรนจิที่นอนกุมท้องอย่างทรมานอยู่ “คนเก่ง…” ยี่หวาเอ่ยออกมาเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด เพราะเธอมั่นใจว่าเธอเองก็มีส่วนที่ทำให้เรนจิเป็นแบบนี้ “คนเก่งเจ็บตรงไหนบอกหม่ามี๊ได้ไหม”

“…” เรนจิเงียบไม่ตอบ เอาแต่จ้องหน้ายี่หวาอย่างทรมาน ในใจเขาอยากจะลุกขึ้นกอดหม่ามี๊ แต่ตอนนี้เขาโกรธหม่ามี๊มาก จะหันหลังหนีก็กลัวว่าพอหันกลับมาแล้วหม่ามี๊จะไม่อยู่

“คนเก่งอย่าเงียบแบบนี้สิ หม่ามี๊ใจไม่ดีเลย หม่ามี๊ผิดไปแล้ว หม่ามี๊ขอโทษ” ยี่หวายื่นมือไปกุมมือเรนจิที่กำลังจับท้องตัวเองอยู่

วายุเห็นท่าทางของสองคนนั้นแล้วก็หันไปไล่ดาหลา “ออกไป”

“นี่คุณไล่ดาเหรอคะ ดาเป็นแม่ของเรนนะ คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ดาแบบนี้”

“ในฐานะเจ้าของบ้าน ผมสั่งให้ออกไป”

ดาหลาส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะยอมเดินออกไป วายุก็รีบปิดประตูทันที เขายืนอยู่ที่เดิมไม่เดินไปรบกวนทั้งคู่

“หม่ามี๊ทิ้งผม…หม่ามี๊ไม่รักผมแล้ว…” เรนจิพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ สายตาที่มองยี่หวามีความน้อยใจแฝงอยู่

“หม่ามี๊ขอโทษ แต่หม่ามี๊มีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น หม่ามี๊ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของเรน หม่ามี๊ไม่สามารถแย่งเรนมาจากคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่ว่าหม่ามี๊ไม่รักเรนหรอกนะ หม่ามี๊รักเรนมาก หม่ามี๊เองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเรนเลย”

“หม่ามี๊มาเป็นแม่ให้ผมไม่ได้เหรอ”

“หม่ามี๊ไม่อยากทำผิดกับน้องสาวของหม่ามี๊อีกครั้ง…หม่ามี๊เป็นแม่ให้หนูไม่ได้จริงๆ” ยี่หวาพูดออกมาทั้งน้ำตา ทำเอาเรนจิที่ได้ยินก็ร้องไห้ออกมาด้วย

“เรนไม่รักหม่ามี๊แล้ว! ฮือ ฮือ” เรนจิพูดออกมาอย่างโมโหก่อนจะพลิกตัวแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก

ยี่หวาฟังแล้วก็รู้สึกปวดไปทั้งหัวใจ แต่ถ้าเธอไม่เด็ดขาด เธอก็จะไม่สามารถตัดขาดกับเรนจิได้ เธอไม่อยากทำร้ายเขาไปมากกว่านี้ ส่วนวายุที่ยืนมองเหตุการณ์ก็หน้าซีดร่างกายสั่นไหวไปหมด เพราะแม้แต่เรนจิเองยี่หวาก็ไม่ใจอ่อน แล้วแบบนี้เขาจะทำอะไรได้อีก เขาต้องใช้วิธีไหนถึงจะยื้อเธอไว้ได้

วายุเดินไปจับมือยี่หวาแล้วลากเธอออกมาจากห้องโดยไม่สนใจสายตาใคร ไม่ว่าจะเป็นดาหลา พิชญ์สิณี และธวัฒน์ เขาพาเธอเข้ามาในห้องก่อนจะกดล็อกประตู วายุยกมือทั้งสองข้างจับไปที่ไหล่ของยี่หวาไว้แน่น “ฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะไม่ไปจากฉัน”

“คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ ขอแค่คุณดูแลตัวเองกับเรนให้ดีก็พอ เพราะยังไงเรื่องของเรามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี”

วายุโผเข้ากอดยี่หวาไว้แน่น “ขอร้องล่ะ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันกับเรนไป ฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีเธอ”

“ในอดีตฉันเคยทำผิดกับดาหลา ฉันไม่อยากทำผิดกับเธออีกครั้งค่ะ ฉันอยากให้เรนมีครอบครัวที่สมบูรณ์ คุณอย่าทำให้ฉันต้องหนักใจเลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะ”

“อดีต? เธอจำได้แล้วเหรอ”

“เปล่าค่ะ เอาเป็นว่าเรื่องของเราขอให้มันจบลงเพียงเท่านี้ ลาก่อนค่ะ” ยี่หวาเดินออกมาจากห้องโดยไม่หันไปมองวายุ เพราะเธอก็ไม่ใช่คนใจแข็งขนาดนั้น แต่เพื่อพวกเขาเธอจำเป็นต้องทำ

ยี่หวารู้ดีว่าตระกูลของวายุแข็งแกร่งขนาดไหน แต่ถ้าเขาเจอคนเล่นสกปรกใส่ยังไงก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี คนอย่างฮาเดสไม่รู้จักคำว่ากฎกติกาหรอก เขาอยากให้ใครตายก็แค่ฆ่า ไม่เกรงกลัวว่าจะโดนจับด้วยซ้ำ

สุดท้ายวายุก็ตามเธอออกมา เพราะเขาต้องไปส่งเธอ ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรสักคำ เขาเงียบจนเธอรู้สึกกลัว ในที่สุดก็มาถึงคอนโดสักที ยี่หวาหันไปขอบคุณก่อนจะรีบวิ่งลงจากรถ

เมื่อวายุเห็นว่ายี่หวาเข้าไปในคอนโดแล้วก็วางใจ คงจะไม่เกิดอันตรายกับเธอขึ้นอีก ไม่รู้ว่าช่วงค่ำที่เธอหายไปเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมตอนกลับมาถึงได้มีแผล แม้ว่าจะเป็นแผลเล็กก็เถอะ วายุหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะโทรหาคนคนหนึ่ง “จัดการตามที่ฉันบอก…”

การที่เขาไม่ลงมือทำอะไร ทำให้ในสายตาของยี่หวาเขาดูเป็นคนอ่อนแอ เธอเลยไม่กล้ากลับมา ดังนั้นถ้าเขาจะเลวเพื่อให้ได้เธอกลับมาก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะเขาก็ไม่ใช่คนดีอย่างที่เธอคิดเหมือนกัน

“คุณย่าวันนี้ผมอยากไปเดินเล่นที่ห้างครับ” เรนจิวิ่งลงมาจากห้องแล้วเข้าไปหาพิชญ์สิณีที่กำลังนั่งคุยเรื่องงานแต่งกับดาหลาอยู่

“หลานเพิ่งหายดีเองนะ” พิชญ์สิณีตอบกลับไปอย่างไม่เห็นด้วย

“แต่ว่า…” เรนจิก้มหน้ามองพื้นอย่างน้อยใจ ทำให้พิชญ์สิณีใจอ่อน

“ถ้าอย่างนั้นให้แม่หลานพาไปแล้วกัน แต่ครั้งนี้หลานห้ามหนีกลับมาก่อนนะ” เพราะเวลาที่เขาออกไปกับดาหลาทีไรมักจะหนีกลับบ้านมาก่อนทุกครั้ง

“ขอบคุณครับคุณย่า เรนรักคุณย่ามากเลย” เรนจิกระโดดเข้าไปกอดพิชญ์สิณี ทำเอาพิชญ์ถึงกับตะลึงงัน วันนี้หลานของเธอมาแปลก… “ผมไปก่อนนะครับคุณปู่”

“อืม เดินทางปลอดภัย”

จากนั้นดาหลาก็พาเรนจิมาเดินห้าง ซึ่งก็เหมือนกับทุกครั้งที่เธอไม่ได้สนใจเรนจิเลย จึงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขา…

ในขณะเดียวกัน บ้านของฮาเดส

ยี่หวาที่ได้ข่าวว่าฮาเดสไม่อยู่บ้านก็เลยมาหาคู่แฝดที่โทรตามเธอตั้งแต่เช้า “เรียกฉันมามีธุระอะไร”

“ใช่สิ เดี๋ยวนี้ผมเรียกเจ๊มาไม่ได้แล้วสินะ” เซนทอร์เอ่ยออกมาอย่างน้อยใจ ยี่หวาที่ได้ฟังถึงกับต้องขมวดคิ้ว

“ลืมกินยาหรือไง ทำไมเดี๋ยวนี้กลายเป็นคนขี้น้อยใจ”

“ไม่ให้พวกผมน้อยใจได้ไง ก็เจ๊เล่นหนีมาไทยโดยไม่บอกใครเลย” เซเร็กเถียงขึ้นมาบ้าง ตอนที่พวกเขารู้ว่าเธอหายไปก็แทบจะพลิกประเทศหา สุดท้ายก็มารู้ทีหลังว่าเธอหนีมาไทยแล้ว

“โอเคๆ ฉันผิดเอง เลิกน้อยใจเป็นเด็กๆ ได้แล้ว”

“เฮียลูซบอกผมว่าเดี๋ยวนี้เจ๊กากมาก เมื่อวานแค่ยี่สิบกว่าคนก็สู้ไม่ไหว ดังนั้นวันนี้ผมกับเซนก็เลยจะมาเป็นคู่ฝึกให้เจ๊”

“แน่ใจ?”

“แน่สิครับ ถ้างั้นไปห้องซ้อมกันเถอะ” เซนทอร์เดินนำยี่หวามาห้องสำหรับซ้อมการต่อสู้

ถ้าเป็นการฝึกของคนอื่นที่ไม่ใช่ฮาเดสยี่หวาย่อมไม่ปฏิเสธ “หมอนั่นตั้งใจย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ สินะ”

“ดูเหมือนว่าเจ๊จะให้ราคากับตัวเองต่ำไปนะครับ” เซเร็กพูดพร้อมกับถอดเสื้อออก และเดินไปหยิบมีดสั้นมาควงไว้ในมือ “งั้นพวกเรามาเริ่มกันเถอะ”

เซเร็กว่าจบก็พุ่งปลายมีดเข้ามาหายี่หวาโดยที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เธอก็หลบได้ทันอย่างเฉียดฉิว พร้อมกับจับเขาทุ่มลงที่พื้นจนได้ยินเสียงกระดูก เซนทอร์ที่เห็นว่าเริ่มแล้วจึงเดินไปหยิบท่อนเหล็ก จากนั้นก็อ้อมไปข้างหลังยี่หวาและกำลังจะตีไปที่หัวเธอ

ยี่หวายกมือข้างหนึ่งขึ้นไปจับท่อนเหล็กอย่างรวดเร็วก่อนจะหมุนตัวและใช้เท้าถีบไปที่หน้าแข้งอีกฝ่ายจนล้มลงไป ยี่หวาดึงท่อนเหล็กออกมาจากมือและโยนไปให้ไกลตัว เซนทอร์รีบลุกขึ้นก่อนจะเข้ามาบีบคอยี่หวา เธอจึงใช้เท้าขวาถีบไปที่ท้องเขาจนเสียหลักก่อนจะตั้งหลักแล้วใช้ขาซ้ายยกขึ้นมาเกี่ยวแขนของเขาจนแขนพลิกไม่เพียงเท่านั้นยังยกเท้าขวาขึ้นมาเตะไปที่หน้าเขาอีกครั้ง

เซเร็กที่เห็นท่าทางไม่ดีแล้วจึงตะโกนเรียกคนอื่นๆ ให้เข้ามา “สงสัยผมต้องถามเฮียลูซแล้วว่ากากของเฮียอยู่ในระดับไหน”

ผู้ชายสิบคนเดินเข้ามาหายี่หวา ชายคนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาจะชกเธอ ยี่หวาตีลังกาแล้วใช้ขาเกี่ยวแขนของผู้ชายคนนั้นลงมาก่อนจะหมุนตัวใช้จระเข้ฟาดหางใส่ที่หน้าผู้ชายข้างหลังที่เข้ามาใหม่ พอหมุนกลับมาก็เตะไปที่หน้าผู้ชายที่กำลังลุกขึ้น

วินาทีต่อมาก็มีผู้ชายเข้ามากอดเธอจากด้านหลังส่วนผู้ชายอีกคนวิ่งจะเข้ามาทำร้ายเธอ แต่ก็ถูกยี่หวากระโดดถีบขาคู่จนไถลไปกับพื้น จากนั่นก็ย่อตัวลงโดยดึงกางเกงของผู้ชายที่กอดเธออยู่ลงมาด้วย พอเขาเสียหลักเธอก็ยกขาขึ้นเตะไปที่หน้าเขาทันที

สุดท้ายผู้ชายสิบกว่าคนก็พ่ายแพ้ให้กับยี่หวา บางคนปากแตก บางคนคิ้วแตก บางคนแขนหัก และบางคนกระดูกหัก โชคดีที่ครั้งนี้ไม่มีใครตาย เหตุผลที่เธอไม่อยากฝึกก็เพราะแบบนี้ แต่ถ้าเธอไม่เอาจริงคนที่เจ็บก็จะเป็นเธอเอง

ยี่หวาที่เห็นสภาพของแต่ละคนก็รู้สึกอดสงสารไม่ได้ “ฉันจะบอกอะไรให้นะ เมื่อวานฉันใส่กระโปรง”

“หา! แล้วทำไมเฮียไม่บอกผม ไม่น่าเจ็บตัวฟรีเลย” เซนทอร์ร้องโอดครวญออกมาอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม อุตส่าห์คิดว่าจะชนะยี่หวาได้สุดท้ายก็แพ้ยับอยู่ดี

“ขอบคุณนายหญิงที่เมตตาครับ”

“อืม แล้วอย่าลืมไปทำแผลด้วย”

สักพักเสียงโทรศัพท์เซเร็กก็ดังขึ้น บนหน้าจอปรากฏชื่อ ‘สฟริงซ์’ เซเร็กกดรับสายและเปิดลำโพง

“เฮีย! ไหนเฮียลูซบอกว่าเจ๊กากไง ทำเอาผมกับลูกน้องเลือดออกกันเป็นแถวเลย” เซเร็กไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดธุระ เขาก็รีบฟ้องขึ้นทันที

“อาซาเลียอยู่ที่บ้าน?”

“ครับ ผมเรียกเจ๊มาซ้อม สรุปพวกผมโดนซ้อมแทน”

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ช่องทางการค้าใต้ดินทยอยถูกเปิดโปง นายสองคนรีบบินไปจัดการของที่ต่างประเทศเดี๋ยวนี้”

“มันเกิดอะไรขึ้นเฮีย!”

“ไม่รู้แต่ดูเหมือนว่ามีคนกำลังโจมตีเรา หุ้นที่ขึ้นสูงมาตลอดก็เริ่มตก แต่ที่แน่ๆ พวกแกรีบจัดการก่อนที่แหล่งรายได้หลักจะถูกเปิดโปงหมด”

“ทราบแล้วเฮีย ผมกับเซนจะรีบกลับไปจัดการที่ประเทศอาร์ให้เดี๋ยวนี้” เซเร็กว่าจบก็กดปุ่มวางสาย “งั้นพวกผมไปก่อนนะเจ๊ ขับรถกลับดีๆ”

“อืม เดินทางปลอดภัย”

ยี่หวากลับมาถึงคอนโดด้วยความมึนงง เพราะไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนกล้าเข้าไปแหย่เสือตอนหลับด้วย แต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา เพราะถึงขนาดเปิดโปงช่องทางการค้าลับของฮาเดสได้ น่าไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์จริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม