เพล้ง!
เสียงจานตกแตกเพราะมือของยี่หวาลื่น ขณะที่กำลังล้างจานอยู่ ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เธอกำลังใจลอยอะไรอยู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ยี่หวาทำจานแตกแบบนี้
หวังว่าคงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกนะ…
ขณะที่ยี่หวากำลังเก็บเศษจานที่แตก เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น เธอรีบเดินไปเปิดประตูด้วยความหวาดระแวง จากนั้นก็ถึงกับนิ่งค้างไป เพราะด้านนอกประตูนั้น วายุในชุดสูทสีดำบนใบหน้ามีเหงื่อท่วม กำลังยืนหอบหายใจอยู่
“เกิดอะไรขึ้นคะ? ทำไมคุณถึงได้ดูรีบร้อนแบบนี้” ยี่หวาถามออกไปอย่างร้อนรน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาดูเสียอาการขนาดนี้
“เรน…” วายุที่ยังไม่หายเหนื่อยจึงพูดออกมาได้ขำเดียว
เพียงแค่ยี่หวาได้ยินชื่อคนเก่งของเธอ ในใจก็ลุกลี้ลุกลน “เรนทำไมคะ? เรนเป็นอะไร”
วายุถอนหายใจเข้าก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “เรนถูกรถชน ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
คำพูดของวายุทำให้ยี่หวารู้สึกราวกับว่าหัวใจร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึก ยี่หวาร้อนรนทันที “คุณว่าอะไรนะ? เรน…โดนรถชนงั้นเหรอ”
“แม่ฉันโทรมาบอก ฉันกำลังไปหาเรน ก็เลยแวะมารับเธอด้วย”
“งั้นเรารีบไปกันเถอะค่ะ ไปรถฉัน ฉันขอขับเองค่ะ” ยี่หวาเอื้อมมือไปจับมือวายุแล้วพาไปที่รถทันที สิบนาทีต่อมาทั้งสองคนก็มาถึงโรงพยาบาล ยี่หวาไม่รอช้ารีบวิ่งมาที่หน้าห้องฉุกเฉินก็พบกับดาหลา และพิชญ์สิณีที่กำลังนั่งร้องไห้โดยมีธวัฒน์คอยปลอบอยู่
ยี่หวาเดินก้มหน้าก้มตาแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพวกเขา วายุเดินมานั่งข้างยี่หวาก่อนจะเอื้อมมือมาบีบมือเธอเบาๆ ต่อหน้าทั้งสามคน แต่ในเวลานี้ยี่หวาไม่ได้สนใจแล้วจึงไม่ห้ามเขา แถมเธอยังหมุนตัวเอาหน้าซุกไว้ที่อกเขาแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
วายุเอื้อมมือมาลูบหัวเธอเบาๆ พร้อมเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เรนจะต้องไม่เป็นไร”
“อื้อ”
ผ่านไปสักพักหมอก็เปิดประตูออกมาจากห้องฉุกเฉินด้วยสีหน้าร้อนรน “ขอโทษนะครับ ใครเป็นญาติผู้ป่วย พอดีผู้ป่วยเสียเลือดมาก แถมตอนนี้เลือดกรุ๊ป O ในคลังของโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอ ต่อให้รับมาจากโรงพยาบาลอื่นตอนนี้ก็เกรงว่าจะไม่ทัน...”
พิชญ์สิณีที่ได้สติก็รีบเอ่ยขึ้น “ดาหลาหนูให้เลือดเรนได้ไหม พอดีที่บ้านไม่มีใครเลือดกรุ๊ปโอเลย”
“ขอโทษค่ะคุณแม่…พอดีหนูเลือดกรุ๊ปเอ…ค่ะ” ดาหลาพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
ยี่หวาที่ได้ยินดังนั้นก็รีบตะโกนขึ้น “ฉันเลือดกรุ๊ปโอค่ะ ให้ฉันได้ให้เลือดกับเรนเถอะนะคะ ขอร้องเถอะค่ะ” วายุหันไปทำหน้าไม่เห็นด้วยใส่ยี่หวา เธอจึงส่งสายตาอ้อนวอนให้เขา “นะคุณ ฉันแข็งแรงดีค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
พิชญ์สิณีที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่เพื่อให้หลานชายรอด ครั้งนี้คงต้องยอมไปก่อน “อืม”
“งั้นเชิญคุณผู้หญิงทางด้านนี้เลยค่ะ” พยาบาลเดินมานำทางยี่หวามายังห้องถ่ายเลือดเพื่อตรวจสอบก่อนว่าเลือดทั้งสองคนเข้ากันได้ไหม มีโรคแทรกซ้อนอะไรหรือเปล่า
เวลาผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ยี่หวาก็เดินหน้าซีดกลับมาหาวายุ เขารีบลุกขึ้นไปประคองเธอทันที “เธอโอเคไหม เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย”
“พี่! เรนเป็นยังไง เรนปลอดภัยใช่ไหม” ธาราธรที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนวิ่งเข้ามาหาวายุด้วยท่าทางตื่นตระหนก
“ต้องปลอดภัย” วายุพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ใช่ๆ เรนต้องปลอดภัย เรนต้องไม่เป็นอะไร” ธาราธรรีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที “แล้วทำไมยี่หวาดูหน้าซีดขนาดนั้น”
“เธอเพิ่งถ่ายเลือดให้เรน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม