ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 118

ขณะเดียวกัน บ้านจิรภิญญากุล

ญาณิศาที่กำลังหงุดหงิดเพราะติดต่อคนคนนั้นไม่ได้มาหลายวัน ก็ได้ยินเสียงดาหลากรีดร้องออกมาจากในห้องอีกแล้ว เธอจึงรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องลูกสาว “เกิดอะไรขึ้น มันทำอะไรลูกอีกแล้ว”

“มันทำร้ายชื่อเสียงของดา! เพราะมันทำให้คนเกลียดดา! ดาเกลียดมัน! เกลียด!” ดาหลากรีดร้องออกมาอย่างโกรธแค้น “ครั้งที่แล้วดาส่งคนไปจัดการมัน สุดท้ายมันก็รอดมาได้ แถมคนพวกนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีก”

“คนของแม่ก็เหมือนกัน หายไปติดต่อไม่ได้”

“มันทำอะไรกับคนพวกนั้นกันแน่ แล้วคราวนี้ดาควรจะทำยังไงดี ขนาดวันนี้ลูกของดานอนโรงพยาบาล คุณวายุยังไล่ดากลับมาเลย”

“ถ้ามันไม่ตายเราก็ทำให้ชื่อเสียงมันย่อยยับสิ”

“แล้วดาต้องทำยังไงคะ ครั้งที่แล้วมีข่าวว่ามันเป็นเมียน้อย สรุปมันก็รอดมาได้อยู่ดี ทำไมดวงมันถึงแข็งได้ขนาดนี้”

“งั้นก็หาผู้ชายให้มาเป็นข่าวกับมัน ให้มันดูเป็นคนสำส่อน คนจะได้เกลียดมัน”

“เหมือนจะพอมีทางอยู่ วิธีนี้น่าจะใช้ได้ผลค่ะ”

วันต่อมาเรนจิยังคงต้องนอนโรงพยาบาล ซึ่งยี่หวาที่ไม่มีงานอะไรจึงมานั่งเฝ้า ส่วนวายุแม้จะมีงานเยอะ แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะเขาดันแบกงานทุกอย่างมาทำที่โรงพยาบาลแทน

“คนที่ฉันเตรียมไว้อยู่หน้าห้อง เธอเอาไปทดสอบฝีมือได้ตามสบายเลย” วายุเอ่ยขึ้นกับยี่หวาที่กำลังนั่งอ่านนิทานให้เรนจิฟังอยู่

ยี่หวาหันไปพยักหน้าให้วายุ “งั้นเดี๋ยวหม่ามี๊มานะ คนเก่งนอนเล่นไปก่อน”

“ครับ หม่ามี๊”

“ฉันเตรียมห้องว่างๆ ไว้ให้เธอแล้ว เดี๋ยวพวกเขาจะเป็นคนพาเธอไป อย่าให้ตัวเองได้รับอันตรายใดๆ เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันชีวิตของพวกเขา”

“โอเคค่ะ ฉันไปก่อนนะ คุณไม่ต้องห่วง”

ยี่หวาเดินออกมานอกห้องก็เจอผู้ชายร่างกำยำสองคนยืนอยู่ รอบนี้ดูค่อยน่าพึ่งพาหน่อย แต่ก็ต้องดูที่ฝีมือก่อน “พาฉันไปเลย”

“ครับนายหญิง”

พวกเขาพายี่หวามาที่ห้องว่างห้องหนึ่งในโรงพยาบาล ภายในห้องไม่มีอุปกรณ์ใดๆ วางอยู่ วายุเตรียมห้องได้เหมาะจริงๆ ยี่หวาไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งสติรีบวิ่งเข้าไปและกระโดดขึ้นหวังจะใช้เข่ากระแทกที่คางอีกฝ่าย แต่สุดท้ายเขาก็หลบได้ทันอย่างเฉียดฉิว

ผู้ชายอีกคนถึงกับถลึงตาโต ก้มมองรองเท้าที่เธอใส่ว่ามีสปริงตรงไหนไหม เพราะเขาไม่คิดว่าเธอจะกระโดดได้สูงขนาดนั้น

“เข้ามาทีละคน ฉันจะขอดูฝีมือของพวกนายหน่อย และที่สำคัญห้ามออมมือ”

หลังจากนั้นผู้ชายทั้งสองคนก็เข้าปะทะกับยี่หวาทีละคน ผลสรุปแล้วยี่หวาก็ชนะอยู่ดี แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เจ็บตัวอะไรมากถือว่าผ่านการทดสอบ อีกอย่างไม่แน่ว่าถ้าพวกเขาเข้ามาพร้อมกันเธออาจจะแพ้ก็ได้ คนที่วายุหามาครั้งนี้ไม่เลวเลย ผิดกับคนของฮาเดสสิบกว่าคนที่สู้กับเธอ พวกเขาต่างก็เลือดออกไม่ก็กระดูกหักกันเป็นแถว แต่ก็ไม่แปลกเพราะหมอนั่นเน้นเล่นสกปรกมากกว่าสู้กันซึ่งๆ หน้า

ผู้ชายทั้งสองคนก้มหน้าเศร้า เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็เอาชนะผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ไม่ได้อยู่ดี นี่เจ้านายให้เขาปกป้องปีศาจสาวหรืออย่างไร คนอย่างเธอต้องการคนปกป้องด้วยเหรอ “เงยหน้าขึ้น! ทั้งสองคนชื่ออะไรกันบ้าง”

“ผมซัพพอร์ต”

“ผมกองทัพ”

“ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันสินะ”

“ใช่ครับ ว่าแต่พวกผมผ่านการทดสอบเหรอครับ ทั้งๆ ที่พวกผม...” ซัพพอร์ตไม่อยากพูดออกมา เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งอาย

“อืม ผ่าน อันที่จริงการต่อสู้ของพวกนายสองคนก็เพียงพอเอาชนะนักฆ่า 30 กว่าคนได้ ถือว่าโอเคแล้ว” ส่วนเรื่องอาวุธเธอคงต้องทดสอบพวกเขาทีหลัง

“ขอบคุณนายหญิงที่เมตตา”

“ไม่ต้องเรียกนายหญิง” มันทำให้เธอนึกถึงสมัยที่อยู่ในองค์กร “เรียนฉันว่ายี่หวาก็พอแล้ว”

“ครับคุณยี่หวา”

“อืม กลับกันเถอะ”

พอยี่หวากลับเข้ามาในห้องก็เดินมานั่งลงข้างวายุ เพราะเรนจิหลับไปแล้ว “เป็นไงบ้าง ผ่านไหม?”

“ก็พอใช้ได้ค่ะ ทักษะการต่อสู้ดี แต่ว่าคงต้องเพิ่มเทคนิคเข้าไปหน่อย” เทคนิคการโจมตีจุดตายหรือก็คือฆ่าคนนั่นแหละ

“พวกเขาแพ้เธอสินะ” สีหน้าวายุดูอ่อนลง

“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งพวกเขาต้องเก่งขึ้นกว่านี้ คุณอย่าห่วงไปเลย” เพราะพวกเขาถูกฝึกมาให้สู้เพียงเท่านั้น แต่เธอถูกฝึกมาให้ฆ่า

จะไม่ให้เขาเป็นห่วงได้ยังไง ก็ในเมื่อคนที่เขาหามาดันแพ้ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้ แล้วแบบนี้เขาจะไว้ใจให้พวกมันดูแลเธอได้ยังไง

ยี่หวานั่งพิงไหล่วายุและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเธอ แต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะดันเจอข่าวไร้สาระอีกแล้ว

[เหตุผลที่ทำให้ทีมยี่หวาชนะในรายการทำอาหารเป็นเพราะโจเซฟ ทั้งคู่รู้จักกันมานานกว่า 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ยี่หวาได้ไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับตระกูลคอนเทอวิลล์เป็นเพราะไปอ่อยพีรพัฒน์ และตอนที่อยู่งานเลี้ยงเธอก็ยังอ่อยชาร์ลด้วย! ส่วนสาเหตุที่ยี่หวาได้เล่นภาพยนตร์ครั้งแรกเป็นเพราะเธออ่อยเดวิล ไหนจะตอนที่เธอได้เข้าร่วมงานเปิดร้านแบรนด์เฮอเซนอีก ตอนนั้นมีคนเห็นว่าเธอยืนคุยกับธาราธรคงไปอ่อยเขาอีกล่ะสิ คิดว่าผู้หญิงที่ทำตัวสำส่อนแบบนี้เหมาะที่จะเป็นดาราเหรอ?]

[เออจะว่าไปก็มีความเป็นไปได้ พอคิดไปคิดมาแล้วก็รู้สึกขยะแขยง เสียดาย สวยซะเปล่า ไม่น่าทำตัวแบบนี้เลย]

[ฉันสงสัยมานานแล้ว เพราะดูจากประวัติเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่เรียนจบจากที่ไหนมาไม่รู้ แต่กลับได้มาเล่นหนัง แถมยังถูกเชิญไปร่วมงานใหญ่ๆ อีก]

[จริง! จากประวัติของเธอไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร แถมยังรู้สึกว่าจะไม่มีครอบครัวด้วย ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้อยู่มายังไง]

[มีข่าวออกมาใหม่แล้ว! ก่อนหน้าที่ยี่หวาจะไปเรียนต่างประเทศ เธอเคยอาศัยอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าแถวนอกเมือง]

[ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเธอตามอ่อยคนไปทั่วจริงๆ ถึงได้มีตัวตนอย่างทุกวันนี้]

[ยี่หวาเคยอยู่บ้านกำพร้าแล้วไง ที่เธอได้เล่นหนังเพราะฝีมือการแสดงเธอดี ส่วนที่เธอได้ไปร่วมงานของเฮอเซนก็เพราะว่าเธอมักจะใส่ชุดของเฮอเซนตลอด เผื่อใครไม่รู้ฉันจะบอกให้ ตั้งแต่ที่ฉันติดตามยี่หวามาเธอไม่เคยใส่ชุดแบรนด์อื่นเลย ทั้งตอนออกรายการทอล์คโชว์ รายการทำอาหาร ที่งานเลี้ยงนั่นอีก ไหนจะตอนที่เธอถูกถ่ายคลิปช่วยคนท้อง ล้วนแต่เป็นแบรนด์เฮอเซนทั้งนั้น]

[ฉันเห็นด้วยกับคอมเมนต์บน อย่าลืมสิว่าแบรนด์เฮอเซนมีต้นกำเนิดที่ประเทศอาร์ แล้วยี่หวาเองก็เคยเรียนที่ประเทศอาร์ ไม่แปลกที่เธอจะไปเข้าร่วมงานนั้น]

[งั้นเรื่องที่เธอได้ไปร่วมงานเลี้ยงล่ะ จะว่ายังไง]

[ใครมันขุดเรื่องนี้มา จำไม่ได้เหรอว่าเป็นเพราะบลูเบลล์กับสกายเคยเจอกับยี่หวา ทั้งสองคนก็เลยเชิญยี่หวาไป]

[ส่วนเรื่องทำอาหารเพราะว่ายี่หวาทำอาหารอร่อยไม่ได้เกี่ยวกับโจเซฟเลย ถ้าอย่างนั้นกรรมการอีกสองคนจะว่ายังไง เพราะดูจากท่าทางตอนชิมอาหารก็รู้แล้วว่าอร่อยจริงๆ]

[แล้วก็ไม่แปลกที่ยี่หวาจะมีผู้ชายเข้ามาบ่อยๆ เพราะเธอเองก็สวยขนาดนั้น แต่ถ้าดูจากสายตายี่หวาเธอไม่เคยสนใจใครเลย]

[ตอนแรกฉันคิดว่าเธอจะเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลไหนซะอีก น่าเสียดายจัง แต่ก็ช่างเถอะ นี่มันปีไหนแล้ว เรื่องชาติตระกูลไม่มีคนมาสนใจแล้ว]

[แต่ก็น่าแปลกที่อยู่ๆ ก็มีข่าวโจมตียี่หวา คนที่สร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาต้องการอะไรกันแน่ เห็นว่ายี่หวาเป็นแค่ดาราหน้าใหม่ก็เลยจะรังแกงั้นเหรอ]

[เอ๋…คงไม่ได้หมายถึงนักแสดงบางคนที่อับอายจากรายการทำอาหาร จนต้องใช้วิธีนี้ใช่ไหม หึหึ]

“เกิดอะไรขึ้น?” วายุที่เห็นยี่หวานั่งจ้องโทรศัพท์ด้วยท่าทางเคร่งเครียดก็ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่ข่าวไร้สาระ” ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าการที่มีแฟนคลับมันดีอย่างนี้นี่เอง ตัวเธอนั้นแทบจะไม่ต้องทำอะไรข่าวก็ถูกจัดการเรียบร้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม