ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 119

สรุปบท [ตอนที่ 119 คลั่งตายไปเลย]: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม

[ตอนที่ 119 คลั่งตายไปเลย] – ตอนที่ต้องอ่านของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม

ตอนนี้ของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER- ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง [ตอนที่ 119 คลั่งตายไปเลย] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

วันนี้ยี่หวามาอยู่ที่กองถ่ายหนังเรื่องสร้างโลกให้สวยโดยสถานที่ถ่ายทำวันนี้คือโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมือง ซึ่งเธอได้มาเป็นแขกรับเชิญตามที่ควิลเลอร์เคยแจ้งไว้ แต่ก็ไม่คิดว่านางเอกที่เธอต้องมาแสดงร่วมด้วยกลับกลายเป็นดาหลา

แต่ก็ดีเหมือนกันจะได้เอาคืนให้อีกฝ่ายคลั่งตายไปเลย

“โอ้ว! คุณยี่หวานี่เอง จำผมได้ไหมเราเคยร่วมงานกันครั้งหนึ่ง” ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหายี่หวาด้วยท่าทางตื่นเต้น

“ผู้กำกับจณัตว์?” เธอจำได้ว่าเคยเจอเขาตอนที่ถ่ายโฆษณาคอนแทดเลนส์ เมื่อเดือนก่อน

“ใช่ๆ คุณนี่ความจำดีจริงๆ เลยนะ ผมดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับคุณอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่บทของคุณมีนิดเดียวเอง”

ยี่หวายิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหน้าดาหลา ที่ตอนนี้นั่งมองเธอจนลูกตาแทบจะทะลุออกมาแล้ว และเพื่อให้อีกฝ่ายสติแตกไปมากกว่านี้ยี่หวาจึงหัวเราะออกมาเล็กน้อย ซึ่งมันก็ได้ผล ดาหลาบีบแก้วน้ำจนเห็นรอยร้าวแล้ว

หลังจากที่ยี่หวาเปลี่ยนชุดเสร็จก็เดินออกมาข้างนอก ชุดที่เธอใส่ตอนนี้เป็นชุดนักเรียนมัธยมต้น ผมของเธอถูกสวมด้วยวิกผมสั้น ทำให้ดูเหมือนเด็กมัธยมต้นจริงๆ

“ยี่หวาน่ารักมาก อยากให้เธอมาเล่นเรื่องนี้ยาวๆ เลย” ผู้ช่วยคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างเคอะเขิน ทั้งๆ ที่เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน

“ฉันเห็นด้วย เธอดูน่ารัก น่าเอ็นดู น่าทะนุถนอมมากเลย เหมือนน้องสาวที่บ้านเลย แถมเธอยังดูกลมกลืนกับเด็กคนอื่นๆ ด้วย”

“ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะอายุ 24 แล้ว ทั้งๆ ที่เธออายุเท่าดาหลา แต่ดาหลาดูไม่เห็นเด็กเหมือนเธอเลย” คนในกองถ่ายพูดออกมาอย่างเสียงเบาเพื่อไม่ให้ดาหลาได้ยิน แต่การที่คนเราจะถูกใครสักคนนินทา ต่อให้อีกฝ่ายไม่พูดออกมาก็สามารถรู้ได้เองโดยสัญชาตญาณ

ผู้กำกับจณัตว์ที่เห็นท่าทางไม่ค่อยดีแล้วจึงรีบตะโกนขึ้น “ในเมื่อทุกฝ่ายพร้อมแล้ว พวกเรารีบถ่ายกันเถอะ”

ฉากที่ยี่หวามาร่วมแสดงในวันนี้คือเธอจะต้องถูกกลั่นแกล้งโดยเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ในขณะที่ ‘แพรไหม’ ซึ่งรับบทโดยยี่หวากำลังล้างมืออยู่ในห้องน้ำ ก็ถูกใครไม่รู้ดึงเสื้อให้เข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด จากนั้นประตูก็ถูกปิดลงแถมยังมีแม่กุญแจคล้องไว้จากข้างนอกด้วย

“ใครก็ได้ช่วยด้วย!” ยี่หวาตะโกนออกไปด้วยเสียงสั่นๆ เพราะตามนิสัยของแพรไหมแล้ว เธอกลัวที่แคบกับที่มืด

‘ช่วยฉันด้วย! ปล่อยฉันออกไป!’

สีหน้ายี่หวาหวาดผวามากกว่าเดิม เพราะเสียงในหัวที่เธอได้ยิน เหมือนกับเสียงที่ร้านอาหารตอนนั้นเลย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นเสียงเธอเองไม่ใช่เสียงคนอื่น ซึ่งตอนนี้เธอกำลังแสดงหนังอยู่ ดังนั้นจึงพยายามสะกดกลั้นเอาไว้

‘ช่วยด้วย! มีใครอยู่ข้างนอกไหม’

“ช่วยด้วย! มีใครอยู่ข้างนอกไหม” ยี่หวาตะโกนแข่งกับเสียงในหัวของตัวเองอย่างทรมานทำให้การแสดงของเธอตอนนี้ดูสมจริงมากจนคนที่เห็นต่างก็รู้สึกขนลุกไปตามๆ กัน

“โห! นี่สินะที่มีข่าวบอกว่ายี่หวาแสดงดี แบบนี้มันไม่ดีเกินไปหน่อยเหรอ เล่นเอาฉันขนลุกหมดแล้วเนี่ย!” คนในกองถ่ายคนหนึ่งบ่นออกมาเบาๆ

‘ฮือ ปล่อยฉันออกไปเถอะ!’

“ฮือ...ปล่อยฉันออกไป!” ยี่หวายกมือทั้งสองข้างกุมขมับ มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง ดวงตามีน้ำใสๆ ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย

ผ่านไปสักพักก็มีนักเรียนชายคนหนึ่งนามว่า ‘ทิวเขา’ หรือก็คือพระเอกของเรื่องนี้เดินผ่านมา เขาได้ยินเสียงคนร้องไห้ก็หยุดชะงัก ก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีคนจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิง

สายตาของทิวเขาเหลือบไปเห็นแม่กุญแจที่ถูกคล้องไว้อยู่ พอเขาเอื้อมมือไปเอาออกประตูก็ถูกผลักออกมา แพรไหมมองคนตรงหน้าด้วยท่าทางตกตะลึงเล็กน้อย เพราะนี่มันห้องน้ำหญิง แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณพี่มากค่ะที่ช่วยหนู ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”

ยังไม่ทันที่ทิวเขาจะได้พูดอะไร แพรไหมก็วิ่งออกไปแล้ว จากนั้นผู้กำกับก็สั่งคัตแต่เมื่อจณัตว์เห็นว่าตอนนี้แววตาของยี่หวายังคงดูเหม่อลอย เขาจึงให้คนพายี่หวาไปนั่งพักก่อนจะเริ่มถ่ายต่อ

“เธอโอเคใช่ไหม” ผู้ช่วยคนหนึ่งถามยี่หวาออกมาอย่างเป็นห่วง เพราะเธอเองก็เคยเจอดาราที่เข้าถึงบทมากเกินไปจนเกือบจะออกไม่ได้

“โอเคขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“นานๆ ทีฉันจะเจอนักแสดงหน้าใหม่ที่เข้าถึงบทได้ขนาดนี้ เธอสุดยอดไปเลย มีพรสวรรค์จริงๆ เลยนะ”

เหตุผลที่ทำให้แพรไหมมักจะโดนรังแกอยู่บ่อยๆ ก็คงเป็นเพราะว่าหน้าตาของเธอที่สวยมากทำให้มีผู้ชายหลายคนมารุมจีบ ไหนจะผลการเรียนของเธอที่ดีเกินไปทำให้ถูกเชิญไปแข่งขันอยู่บ่อยๆ และพอเธอชนะกลับมาผู้อำนวยการโรงเรียนก็ชอบขึ้นป้ายใหญ่ที่หน้าโรงเรียนอยู่ตลอด จนคนที่เห็นต่างก็รู้อดหมั่นไส้ไม่ได้

ฉากต่อมาขณะที่แพรไหมกำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่โรงอาหารคนเดียวเพราะอิงฟ้าต้องไปทานข้าวที่ห้องชมรม ทิวเขาที่เดินผ่านมาก็นั่งลงตรงข้ามกับเธอ “เราไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม? เราชื่อแพรไหมสินะ พี่เห็นรูปเราที่หน้าโรงเรียนด้วย เก่งเหมือนกันนะเรา”

“ไหมไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณที่ช่วยค่ะ”

“แล้วทำไมเรานั่งกินข้าวคนเดียว เพื่อนเราไปไหน”

“อิงฟ้ากินข้าวที่ห้องชมรมค่ะ”

“งั้นเดี๋ยวพี่มานั่งกินข้าวเป็นเพื่อน พี่ขอไปซื้อข้าวก่อน อย่าเพิ่งไปไหนล่ะ” ทิวเขารีบลุกขึ้นไปซื้อข้าว แล้วกลับมานั่งตรงข้ามแพรไหมตามเดิม

แพรไหมชอบอยู่ตรงที่คนเยอะๆ เพราะเธอจะไม่โดนแกล้ง คนพวกนั้นชอบแกล้งตอนเธออยู่คนเดียว ทำให้เธอกลายเป็นคนกินข้าวช้าเนื่องจากต้องการอยู่ที่โรงอาหารนานๆ

“ข้าวในจานเราดูเหมือนจะไม่ลดลงเลยนะ”

“ไหมกินช้าค่ะ ถ้าพี่กินเสร็จไม่ต้องรอไหมนะคะ”

“ไม่เป็นไร พี่นั่งเป็นเพื่อนเราได้”

หลังจากวันนั้นทิวเขาก็มักจะมานั่งทานข้าวกับแพรไหมทุกเที่ยง ไม่เพียงเท่านั้นยังเดินมาเฝ้าเธอถึงหน้าห้องน้ำเพราะเขากลัวว่าจะเกิดเรื่องแบบวันนั้นขึ้นอีก แถมตอนเย็นยังรอส่งเธอขึ้นรถด้วย ทำให้ช่วงหลายวันมานี้เธอไม่โดนแกล้งเลย

แต่แล้วจุดเปลี่ยนของหนังเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นในตอนเย็นวันหนึ่ง…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม