ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 120

ในเย็นวันหนึ่งขณะที่อิงฟ้ากำลังเดินข้ามถนน เธอก็โดนรถชนเข้าอย่างจังทำให้ต้องนอนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังจากวันนั้นแพรไหมก็โดนแกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะปกติแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่กับทิวเขา เธอก็จะอยู่กับอิงฟ้า

จนวันหนึ่งมีคนตัดต่อรูปแพรไหมจูบกับผู้ชายคนอื่น ทำให้ทิวเขาโกรธมาก ซึ่งวันนั้นเองที่เธอโดนรุมทำร้ายพร้อมกับถูกถ่ายรูปประจาน เสื้อผ้าเธอฉีกขาดหลุดลุ่ยไปหมด แถมเธอยังได้รับโทรศัพท์จากแม่อิงฟ้าอีกว่าอิงฟ้าได้รับยาที่มีฤทธิ์เป็นพิษต่อหัวใจ เกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

แพรไหมเดินเหม่อลอยออกมาจากห้องน้ำ รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่ดาดฟ้า เธอนั่งอยู่บนนั้นจนมืด ในขณะนั้นเองทิวเขาที่ได้เห็นภาพบนอินเทอร์เน็ตก็รีบกลับเข้ามาในโรงเรียนหวังจะมาหาแพรไหม แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เจอเธอ แต่พอเดินออกมาจากตึกอาคารแพรไหมก็ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าตกลงบนพื้นเสียชีวิตคาที่

ทิวเขาทรุดลงไปกับพื้นสีหน้าหวาดผวามากที่ได้มาเห็นคนตายต่อหน้าต่อตา แถมคนคนนั้นยังเป็นผู้หญิงที่เขารักอีก…

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำศพแพรไหมขึ้นรถ ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวหล่นลงมา ทิวเขารีบเดินไปหยิบขึ้นมาอ่าน

[ไหมขอโทษคุณน้าด้วยที่ทำแบบนี้ แต่ไหมไม่มีทางเลือก ไหมขอไปอยู่กับพ่อแม่นะคะ ตอนนี้ชีวิตไหมมันแย่เกินกว่าที่ไหมจะรับได้ คนที่ไหมรักคนหนึ่งเขาก็เกลียดไหม ส่วนอีกคนก็กำลังจะตาย อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเอาหัวใจของไหมไปให้อิงฟ้าเพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจด้วย อิงฟ้าเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ไหมรักมากคนหนึ่ง สุดท้ายไหมอยากบอกที่ทิวเขาว่าไหมรักพี่ ถ้าไหมจะบอกว่านั่นเป็นรูปตัดต่อ พี่จะเชื่อไหมนะ]

ทิวเขาร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จนผู้กำกับสั่งคัต “คัต!!! เยี่ยมมากยี่หวา แล้วก็ทรอยด้วย ทั้งคู่แสดงดีมากวันนี้ไม่มีคัตเลย ถ่ายจบภายในวันเดียว”

ยกเว้นซีนของดาหลา...

“คงเป็นเพราะยี่หวา ทำให้ผมเล่นตามความรู้สึกล้วนๆ เลย” ทรอยพูดออกมาอย่างหยอกล้อซึ่งยี่หวาก็มีสีหน้านิ่งเช่นเดิม ไม่ได้เล่นด้วย เพราะวันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

“ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับคุณ ไว้ถ้าหนังฉายเมื่อไหร่ คุณอย่าลืมไปดูด้วยล่ะ” จณัตว์รีบพูดขึ้น เพราะเขาอยากให้ยี่หวาได้กลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว

“ได้เลยค่ะ”

ยี่หวาเปลี่ยนชุดล้างคราบเลือดออกเสร็จเดินกลับมาที่รถ ก็เห็นกองทัพและซัพพอร์ตนั่งรอเธออยู่ พอมีคนติดตามก็ดีเหมือนกัน เวลาไปไหนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะเลย

“เสร็จแล้วเหรอครับ” กองทัพรีบเดินมาเปิดประตูหลังให้ยี่หวา

“อืม เบื่อไหม? นั่งรอฉันทั้งวันเลย ทีหลังก็ไปที่อื่นก่อนก็ได้ค่อยมารับ”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ครับ ไม่อย่างนั้นเจ้านายจัดการพวกผมตายแน่” ซัพพอร์ตพูดออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“คุณวายุน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ยิ่งกว่าน่ากลัวอีกครับ เห็นเจ้านายดูเหมือนจะไม่ทำอะไร แต่อย่าให้ลงมือ แม้แต่ซากก็ไม่หลงเหลือ…” กองทัพที่รู้สึกว่าตัวเองจะพูดมากเกินไปแล้วก็รีบหยุด “เอ่อ…คุณยี่หวาอย่าไปเล่าให้เจ้านายฟังนะครับ”

“ฮ่าๆ ฉันไม่บอกหรอก ว่าแต่ฉันสงสัย ทำไมเขาไม่มีผู้ติดตามสักคนเลย ทั้งที่อยู่ในวงการแบบนี้”

“เมื่อก่อนก็มีครับ แต่รู้สึกว่าเพิ่งจะไม่กี่เดือนก่อนนี่เองที่อยู่ๆ เจ้านายก็สั่งยกเลิกผู้ติดตามทั้งหมด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”

“งั้นเหรอ…”

ยี่หวาให้ซัพพอร์ตกับกองทัพพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะมาที่โรงพยาบาล เพราะคนเก่งของเธอยังคงต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายคืน

“มาแล้วเหรอ กินอะไรมายัง” วายุเงยหน้าขึ้นจากงานและหันไปถามยี่หวาที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง

“ยังเลยค่ะ วันนี้ถ่ายหนังทั้งวันเหนื่อยมาก แต่ก็จบแล้วค่ะภายในวันเดียว”

วายุไม่ได้สนใจคำหลังของหญิงสาว สิ่งที่เขาได้ยินมีเพียงแค่ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าว ไม่รอช้าวายุรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความลงไปไม่ถึงห้านาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พอยี่หวาเดินไปเปิดก็เห็นซัพพอร์ตยืนถือข้าวกล่องอยู่ “หืม? เร็วมาก”

ยี่หวาเดินกลับมานั่งที่เดิมและก้มหน้าทานข้าวอย่างว่าง่ายจนหมด วายุที่เห็นก็มีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อย “ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีก”

คงจะหมายถึงห้ามเธออดข้าวอีกสินะ “โอเคค่ะ ต่อไปฉันจะกินข้าวให้ตรงเวลา คุณก็ด้วยนะคะ อย่ามัวทำแต่งานจนลืมกินข้าว”

“ทราบ”

“จริงสิ วันนี้ฉันเจอคนคนหนึ่งที่กองถ่ายด้วย คุณลองทายสิว่าฉันเจอใคร”

“น้องสาวเธอ?”

“ใช่ค่ะ แต่น่าเสียดายที่ฉันแทบจะไม่ได้เข้าฉากกับเธอ จึงอดเล่นสนุกด้วยเลย แล้วก็ตอนที่แสดงอยู่เหมือนจะได้ยินเสียงอดีตในหัวด้วย เหมือนตอนก่อนที่จะจำเรื่องหลังจมน้ำได้ รู้สึกว่าฉันน่าจะโดนขังในห้องมืดๆ ฉันตะโกนขอให้คนช่วยแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีคนมาช่วยฉัน…”

วายุวางปากกาลง ดึงยี่หวาเข้ามากอด ยิ่งเขารับรู้เรื่องในอดีตของเธอมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น “เธอไม่ต้องจำอะไรได้ทั้งนั้น”

“ฉันก็ไม่อยากจำได้ค่ะ แต่มันดังขึ้นมาในหัวเอง เกือบแสดงต่อไม่ได้เลย” ยี่หวาผละออกจากวายุ และโน้มตัวลงนอนบนตักของเขาอย่างที่เธอชอบทำ

“เธอนอนเถอะ แล้วไม่ต้องฝืนคิดอะไร” วายุลูบหัวยี่หวาเบาๆ จนในที่สุดยี่หวาก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

‘ยี่หวาสวัสดีเพื่อนพ่อสิ นี่คุณธีระเจ้าของบริษัทธีระกรุ๊ป’

‘สวัสดีค่ะ’

‘ส่วนนี่ลูกสาวอีกคนของผมชื่อดาหลา แล้วก็ภรรยาผมญาณิศาครับ’

‘ยินดีที่ได้พบกับทุกคน งั้นเชิญเข้ามาในงานเลี้ยงก่อน ส่วนเรื่องธุรกิจที่ตกลงกันไว้ค่อยคุยหลังเลิกงาน หวังว่าคุณดนัยณัฐจะรอได้นะครับ’

‘ไม่มีปัญหาครับ ผมรอได้อยู่แล้ว รอมาตั้งนาน รออีกหน่อยจะเป็นไรไป’

…..

‘พี่ดื่มนี่สิ พ่อให้เอามาให้’

‘อืม ขอบใจ’

‘ช่วงที่ผ่านดูเหมือนว่าพี่สาวจะสุขสบายดีนะ’

‘อืม ดีกว่าอยู่ที่บ้าน…’

…..

‘คุณแม่คะ? มันหมดสติแล้วค่ะถ้าอย่างนั้นดาพามันไปที่ห้องคุณธีระเลยนะคะ’

‘อืม ไปเลยลูกอย่าให้พ่อเห็นล่ะ เดี๋ยวแม่จะเดินไปหาพ่อเพื่อถ่วงเวลาไว้ให้’

‘ได้ค่ะคุณแม่’

…..

‘แก…แกไม่ได้หมดสติ?’

‘ถึงเวลาที่เธอต้องจ่ายดอกเบี้ยแล้ว…นี่ใช่ไหมยาที่เธอใส่ลงในแก้วของฉัน’

‘อย่านะ! ฉันเป็นน้องสาวของเธอนะ’

‘ดื่มมันเข้าไปให้หมด…ตอนที่เธอวางแผนทำร้ายฉันก็ควรนึกถึงจุดจบของตัวเองบ้างนะน้องสาว’

…..

‘คุณธีระ?’

‘จะหนีไปไหนเหรอหนูยี่หวา ออกมาจากห้องเสี่ยแบบนี้ก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดเลย’

‘ปล่อย!!! ปล่อยฉันนะ!’

…..

“ปล่อยนะ!!!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม