ในเย็นวันหนึ่งขณะที่อิงฟ้ากำลังเดินข้ามถนน เธอก็โดนรถชนเข้าอย่างจังทำให้ต้องนอนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งหลังจากวันนั้นแพรไหมก็โดนแกล้งหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะปกติแล้วถ้าเธอไม่ได้อยู่กับทิวเขา เธอก็จะอยู่กับอิงฟ้า
จนวันหนึ่งมีคนตัดต่อรูปแพรไหมจูบกับผู้ชายคนอื่น ทำให้ทิวเขาโกรธมาก ซึ่งวันนั้นเองที่เธอโดนรุมทำร้ายพร้อมกับถูกถ่ายรูปประจาน เสื้อผ้าเธอฉีกขาดหลุดลุ่ยไปหมด แถมเธอยังได้รับโทรศัพท์จากแม่อิงฟ้าอีกว่าอิงฟ้าได้รับยาที่มีฤทธิ์เป็นพิษต่อหัวใจ เกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
แพรไหมเดินเหม่อลอยออกมาจากห้องน้ำ รู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่ที่ดาดฟ้า เธอนั่งอยู่บนนั้นจนมืด ในขณะนั้นเองทิวเขาที่ได้เห็นภาพบนอินเทอร์เน็ตก็รีบกลับเข้ามาในโรงเรียนหวังจะมาหาแพรไหม แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เจอเธอ แต่พอเดินออกมาจากตึกอาคารแพรไหมก็ร่วงหล่นลงมาจากฟ้าตกลงบนพื้นเสียชีวิตคาที่
ทิวเขาทรุดลงไปกับพื้นสีหน้าหวาดผวามากที่ได้มาเห็นคนตายต่อหน้าต่อตา แถมคนคนนั้นยังเป็นผู้หญิงที่เขารักอีก…
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำศพแพรไหมขึ้นรถ ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวหล่นลงมา ทิวเขารีบเดินไปหยิบขึ้นมาอ่าน
[ไหมขอโทษคุณน้าด้วยที่ทำแบบนี้ แต่ไหมไม่มีทางเลือก ไหมขอไปอยู่กับพ่อแม่นะคะ ตอนนี้ชีวิตไหมมันแย่เกินกว่าที่ไหมจะรับได้ คนที่ไหมรักคนหนึ่งเขาก็เกลียดไหม ส่วนอีกคนก็กำลังจะตาย อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเอาหัวใจของไหมไปให้อิงฟ้าเพื่อทำการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจด้วย อิงฟ้าเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่ไหมรักมากคนหนึ่ง สุดท้ายไหมอยากบอกที่ทิวเขาว่าไหมรักพี่ ถ้าไหมจะบอกว่านั่นเป็นรูปตัดต่อ พี่จะเชื่อไหมนะ]
ทิวเขาร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จนผู้กำกับสั่งคัต “คัต!!! เยี่ยมมากยี่หวา แล้วก็ทรอยด้วย ทั้งคู่แสดงดีมากวันนี้ไม่มีคัตเลย ถ่ายจบภายในวันเดียว”
ยกเว้นซีนของดาหลา...
“คงเป็นเพราะยี่หวา ทำให้ผมเล่นตามความรู้สึกล้วนๆ เลย” ทรอยพูดออกมาอย่างหยอกล้อซึ่งยี่หวาก็มีสีหน้านิ่งเช่นเดิม ไม่ได้เล่นด้วย เพราะวันนี้เธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
“ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับคุณ ไว้ถ้าหนังฉายเมื่อไหร่ คุณอย่าลืมไปดูด้วยล่ะ” จณัตว์รีบพูดขึ้น เพราะเขาอยากให้ยี่หวาได้กลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว
“ได้เลยค่ะ”
ยี่หวาเปลี่ยนชุดล้างคราบเลือดออกเสร็จเดินกลับมาที่รถ ก็เห็นกองทัพและซัพพอร์ตนั่งรอเธออยู่ พอมีคนติดตามก็ดีเหมือนกัน เวลาไปไหนรู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะเลย
“เสร็จแล้วเหรอครับ” กองทัพรีบเดินมาเปิดประตูหลังให้ยี่หวา
“อืม เบื่อไหม? นั่งรอฉันทั้งวันเลย ทีหลังก็ไปที่อื่นก่อนก็ได้ค่อยมารับ”
“ทำแบบนั้นไม่ได้ครับ ไม่อย่างนั้นเจ้านายจัดการพวกผมตายแน่” ซัพพอร์ตพูดออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“คุณวายุน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ยิ่งกว่าน่ากลัวอีกครับ เห็นเจ้านายดูเหมือนจะไม่ทำอะไร แต่อย่าให้ลงมือ แม้แต่ซากก็ไม่หลงเหลือ…” กองทัพที่รู้สึกว่าตัวเองจะพูดมากเกินไปแล้วก็รีบหยุด “เอ่อ…คุณยี่หวาอย่าไปเล่าให้เจ้านายฟังนะครับ”
“ฮ่าๆ ฉันไม่บอกหรอก ว่าแต่ฉันสงสัย ทำไมเขาไม่มีผู้ติดตามสักคนเลย ทั้งที่อยู่ในวงการแบบนี้”
“เมื่อก่อนก็มีครับ แต่รู้สึกว่าเพิ่งจะไม่กี่เดือนก่อนนี่เองที่อยู่ๆ เจ้านายก็สั่งยกเลิกผู้ติดตามทั้งหมด ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“งั้นเหรอ…”
ยี่หวาให้ซัพพอร์ตกับกองทัพพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะมาที่โรงพยาบาล เพราะคนเก่งของเธอยังคงต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายคืน
“มาแล้วเหรอ กินอะไรมายัง” วายุเงยหน้าขึ้นจากงานและหันไปถามยี่หวาที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง
“ยังเลยค่ะ วันนี้ถ่ายหนังทั้งวันเหนื่อยมาก แต่ก็จบแล้วค่ะภายในวันเดียว”
วายุไม่ได้สนใจคำหลังของหญิงสาว สิ่งที่เขาได้ยินมีเพียงแค่ว่าเธอยังไม่ได้กินข้าว ไม่รอช้าวายุรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา พิมพ์ข้อความลงไปไม่ถึงห้านาทีก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พอยี่หวาเดินไปเปิดก็เห็นซัพพอร์ตยืนถือข้าวกล่องอยู่ “หืม? เร็วมาก”
ยี่หวาเดินกลับมานั่งที่เดิมและก้มหน้าทานข้าวอย่างว่าง่ายจนหมด วายุที่เห็นก็มีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อย “ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีก”
คงจะหมายถึงห้ามเธออดข้าวอีกสินะ “โอเคค่ะ ต่อไปฉันจะกินข้าวให้ตรงเวลา คุณก็ด้วยนะคะ อย่ามัวทำแต่งานจนลืมกินข้าว”
“ทราบ”
“จริงสิ วันนี้ฉันเจอคนคนหนึ่งที่กองถ่ายด้วย คุณลองทายสิว่าฉันเจอใคร”
“น้องสาวเธอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม