ทันทีที่ยี่หวากลับมาถึงคอนโดก็เจอพีรพัฒน์ยืนอยู่หน้าห้อง ด้วยท่าทางดูเป็นกังวล “อ้าว! พี่พีช มาหาหวามีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“เราโอเคใช่ไหม?”
“เรื่องข่าวของดาหลากับคุณวายุใช่ไหม ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ ก็แค่ข่าวโคมลอยอย่าไปสนใจเลยค่ะ พี่ก็รู้นี่ว่าหวาจดทะเบียนกับคุณวายุแล้ว เพราะงั้นหวาไม่มีทางกลายเป็นมือที่สามแน่นอนค่ะ”
“เราไม่เป็นอะไรพี่ก็สบายใจ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหวาเข้าห้องก่อนนะ เดี๋ยวคุณวายุกลับมาแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่” เพราะวันนี้เธอไม่ได้เอาคนติดตามไปด้วย ถ้าเขารู้ว่าเธอออกไปข้างนอกมาจะต้องโกรธมากแน่ๆ
“ไม่ทัน” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องยี่หวาที่ถูกเปิด ตามด้วยร่างสูงใหญ่มองเธอด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาได้ วายุก้มหน้าไปสั่งลูกชาย “เรนไปอยู่กับลุงพีชก่อน”
เรนจิไม่ตอบแต่ส่ายหน้าไปมาอย่างหนักแน่น ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ปล่อยให้หม่ามี๊อยู่กับพ่อสองคนแน่ วายุจึงส่งสายตากดดันไปให้ยี่หวาเป็นฝ่ายพูดแทน ซึ่งเธอเองก็ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธ “คนเก่งไปอยู่กับลุงพีชก่อนนะ”
“ก็ได้ครับ” เรนจิรีบพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ผิดกับท่าทางต่อต้านวายุเมื่อครู่ลิบลับเลย
หลังจากที่เรนจิเข้าไปในห้องของพีรพัฒน์แล้ว วายุก็หันหลังเดินกลับเข้าห้องไปโดยไม่สนใจยี่หวา เธอค่อยๆ เดินตามหลังวายุอย่างช้าๆ ก้มหน้าก้มตาสำนึกผิด เธอรู้ว่าเธอผิด แต่เธออยากที่จะเซอร์ไพรส์เขานี่
ยี่หวาปิดประตูห้องแล้วเดินไปยังโซฟาที่มีชายหนุ่มกำลังนั่งแผ่ความไม่พอใจออกมา รอบกายเต็มไปด้วยบรรยากาศชวนอึดอัด
“ฉันขอโทษ” น้ำเสียงยี่หวามีความกระอักกระอ่วน สายตาก้มมองมือของตัวเองที่กำลังอยู่ไม่สุข พอจะเงยหน้าขึ้นไปมองหน่อยก็เห็นหน้าตาที่หล่อเหลาของเขานิ่งขรึมขึ้นไปอีก “คุณไม่เป็นแบบนี้ได้ไหมคะ ฉัน…”
หมับ!
ยังไม่ทันที่ยี่หวาจะพูดจบร่างกายเธอก็ถูกวายุดึงเข้าไปกอดอย่างแรง มันแน่นมากจนเธอเกือบจะหายใจไม่ออก
“ฉันเป็นห่วงเธอมาก ฉันกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับเธออีก ทีหลังไม่ทำแบบนี้แล้วได้ไหม” วายุพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ ทำเอายี่หวาถึงกับพูดอะไรไม่ออก
“เอ่อ…” ให้เขาโกรธเธอยังดีกว่าที่เขาทำแบบนี้กับเธออีก มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ที่ทำให้เขาเป็นห่วงขนาดนี้ “ฉันผิดไปแล้วค่ะ”
“เธอปลอดภัยก็ดีแล้ว” วายุถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นว่าหญิงสาวไม่เป็นอะไร ตอนที่เขากลับมาถึงคอนโดแล้วไม่เจอเธอกับเรนทำเอาเขากระวนกระวายเป็นอย่างมาก แต่พอเปิดจีพีเอสที่แอบติดกับโทรศัพท์เธอไว้แล้วเห็นว่าเธอกำลังขับรถกลับมาก็หายห่วง
“คุณไม่โกรธฉันแล้วใช่ไหมคะ” ยี่หวาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอย่างออดอ้อน วายุไม่ตอบแต่ก้มหน้าลงประกบริมฝีปากปิดปากเล็กของเธอเอาไว้ ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปในปากของเธออย่างช่ำชองเพื่อดื่มด่ำความหวานฉ่ำอย่างอดไม่ได้
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่เหมือนเพิ่งจะผ่านไปเพียงชั่วพริบตา ในที่สุดวายุก็ยอมถอนจุมพิตจากยี่หวาอย่างอ้อยอิ่ง ยี่หวารู้ได้ทันทีเลยว่าปากเธอตอนนี้ต้องบวมมากแน่ๆ “แสดงว่าคุณหายโกรธฉันแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันไปหาเรนก่อนนะ”
“ยัง” วายุตอบกลับมาแค่คำเดียวก่อนจะอุ้มยี่หวาขึ้นแล้วดันหลังเธอให้ชิดกับกำแพง และพูดออกมาอีกสองคำด้วยเสียงแหบแห้ง “ดอกเบี้ย”
ยี่หวารู้ได้ทันทีว่าเขากำลังจะทำอะไร “แต่เดี๋ยวเรนจะรอนาน”
“ปล่อยให้เขารอ” วายุพูดอย่างไม่สนใจและก้มลงประกบจูบยี่หวาอีกครั้ง มือหนาค่อยๆ สอดเข้าไปใต้กระโปรงของยี่หวาและดึงสิ่งปกปิดลงมา
“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้” ยี่หวาบ่นอุบอิบแต่มือของเธอก็ทำหน้าที่ได้ดีโดยการปลดเข็มขัดและถอดกางเกงวายุออกลงไปกองกับพื้น
“ดูเหมือนจะไม่ใช่ฉันคนเดียว” วายุจัดท่าทางให้มั่นคงก่อนจะใส่เข้าไปในตัวเธอจนสุด โดยไม่รอให้คนที่เขากำลังอุ้มอยู่ได้ปรับตัว พอเห็นว่าเธอกำลังจะอ้าปากบ่น วายุก็รีบก้มหน้าและสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอพร้อมกับตวัดไปมา ยี่หวาจึงต้องกลืนคำที่จะบ่นกลับเข้าไป
“อืม~ ลึกไป…อ๊า~” เมื่อปากของยี่หวาเป็นอิสระเธอก็ครางเสียงหวานออกมา ทำเอาวายุรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
วายุที่เห็นว่าริมฝีปากของยี่หวาตอนนี้บวมมากแล้วจึงกลั้นใจไม่จูบอีก ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาหยุดอยู่ที่บริเวณหน้าอกเธอ รู้ตัวอีกทีบนตัวยี่หวาก็เต็มไปด้วยรอยแดง รวมถึงหน้าเธอด้วยที่ตอนนี้คงแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศแล้ว
บทเพลงรักผ่านไปได้สักพักจนเสร็จ วายุก็ปล่อยยี่หวาลงบนโซฟาอย่างเบามือก่อนจะจัดเสื้อผ้าเธอให้เข้าที่ตามเดิมรวมถึงของตัวเองด้วย “เธอนั่งพักเถอะ ฉันจะไปเรียกเรนเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม