ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 133

วิดีโอที่ยี่หวาเพิ่งโพสต์ไปมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง เพราะเป็นวิดีโอที่ดาหลากำลังเล่นบทรักกับพนักงานคนหนึ่งบนเรือ ซึ่งยี่หวาก็ทำการปิดหน้าผู้ชายคนนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียงก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ได้ตัดต่อ

…..

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 วันก่อน ขณะที่ยี่หวากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ข้างๆ ดาหลา ในจังหวะที่สายตาทุกคนกำลังจับจ้องไปยังควิลเลอร์ที่กำลังกดปุ่มบนหน้าจอโทรศัพท์ ยี่หวาก็ได้แอบใส่ยาปลุกอารมณ์ลงในแก้วดาหลาโดยทำเป็นเอื้อมมือไปหยิบทิชชู…

ซึ่งยี่หวารู้ว่าหลังจากที่ดาหลากลับเข้าไปในห้องเธอจะต้องออกมาหาคนเพื่อระบายอารมณ์จึงจ้างให้พนักงานบนเรือคนหนึ่งดักรอถ่ายภาพเอาไว้ แต่ที่เธอตั้งใจไว้ก็แค่ภาพนิ่งกอดจูบเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าพนักงานคนนั้นจะถ่ายวิดีโอ แถมดาหลาเองก็ไม่ได้ทำแค่กอดจูบแต่กลับ…แถมยังไม่กลับเข้าไปในห้องด้วย

สงสัยคงเป็นเพราะฤทธิ์เหล้าที่แรงเกินไปบวกกับยาที่เธอใส่ลงไปอีก ทำให้ดาหลาควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งเธอเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นจะต้องมีคนเห็นมากกว่านั้นแน่ แต่คงเป็นเพราะว่าพวกเขาเป็นแค่พนักงานก็เลยไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว

…..

[เฮ้ย!!! ดีนะไม่ได้เปิดตอนอยู่กับลูก คนแบบนี้ไม่ควรอยู่ในวงการ ออกไปซะ! อย่ามาทำอะไรเสื่อมเสียแบบนี้]

[เลิกดูละครที่ดาหลาแสดง! ได้ข่าวว่าเธอกำลังถ่ายหนังเรื่องใหม่อยู่แถมเป็นนางเอกด้วย ไม่ต้องทำออกมาล่ะ พวกเราไม่อยากดู]

[หรือไม่ก็เปลี่ยนตัวนักแสดงซะ ฉันได้ข่าวว่ายี่หวาก็แสดงหนังเรื่องนั้น ฉันยังอยากดูยี่หวาแสดงหนังอยู่]

[เห็นใสๆ ว่าแล้วต้องไม่ใสอย่างที่เห็น สงสารประธานภูวิศจังที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้]

[ฉันว่าต้องมีการยกเลิกงานหมั้นแน่ๆ เพราะตระกูลพิทวัสชญวงศ์คงไม่เอาผู้หญิงคนนี้ไปทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลแน่]

[ตอนแรกก็อยากรู้นะว่าคนที่โพสต์อะไรแบบนี้ทำไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำเพื่อให้พวกเราได้ตาสว่าง จะได้ไม่ถูกผู้หญิงคนนี้หลอกได้อีก จะสงสารก็แต่พ่อแม่ของเธอที่มีลูกสาวแบบนี้]

ยี่หวาที่อ่านคอมเมนต์ได้ส่วนหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นตะโกนใส่วายุด้วยสีหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม “ที่รัก!”

“เกิดอะไรขึ้น! ใครรังแกอะไรเธอ” วายุทิ้งปากกาในมือลงอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหายี่หวา

“ทำไมคนพวกนี้ไม่เห็นด่าดาหลาแรงๆ เหมือนกับตอนที่ด่าฉันเลย คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหมว่าแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย”

“อืม ไม่ยุติธรรม” วายุพูดพร้อมกับเดินกลับไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะก่อนจะกดลงบนหน้าจอสองสามครั้ง จากนั้นบนหน้าจอโน้ตบุ๊กยี่หวาก็ปรากฏคำด่าต่างๆ ที่เธอต้องการเห็นในตอนแรก

[ไม่อยากจะเชื่อว่าดาหลาจะเป็นสเปิร์มตัวที่ดีที่สุด]

[คิดว่าตัวเองเป็นจิตรกรเหรอ ที่ผ่านมาถึงได้ชอบสร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนใสๆ ทั้งที่แท้จริงแล้วกลวง!]

[สมน้ำหน้าจริงๆ กำลังหมั่นไส้ที่เธอกำลังจะหมั้นกับประธานภูวิศพอดีเลย ขอบคุณคนที่เอาคลิปมาปล่อยด้วยค่ะ]

“ขอบคุณค่ะที่รัก” ยี่หวาหันไปขอบคุณวายุ แม้ในใจเธอจะรู้ดีว่าแค่เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครกล้าด่าแรงๆ หรอก เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ดาหลาไม่ได้ไปแย่งของใครและไม่ได้ไปทำร้ายใคร แต่อย่างน้อยตอนนี้ดาหลาก็เสียชื่อเสียงไปในระดับหนึ่งแล้ว

ชื่อเสียงที่เธอรักมากถึงขนาดยอมปิดบังว่าเคยมีลูก…

ซึ่งมันก็ดีแล้ว แต่แค่นี้มันก็ยังไม่พอกับความแค้นที่เธอมีอยู่ดี อย่างน้อยตอนนี้ก็ต้องให้ดาหลาออกจากวงการบันเทิงไปซะก่อน คนทางนั้นจะได้จัดการได้ถนัด

อีกด้านหนึ่ง

ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

ดาหลาที่เพิ่งอ่านข่าวในอินเทอร์เน็ตจบก็ปาโทรศัพท์เครื่องสี่หมื่นทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ไยดี ก่อนจะกรีดร้องออกมาจนเรญ่าต้องยกมือขึ้นปิดหูทั้งสองข้าง “กรี๊ดดด!!! ฝีมือใคร! ใครมันทำแบบนี้ ใครมันเล่นสกปรกกับฉันแบบนี้!”

“ฉันก็ไม่รู้ ฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอไปมีอะไรกับพนักงานบนเรือตั้งแต่เมื่อไหร่” เรญ่าอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ เพราะถ้าชื่อเสียงดาหลาพังชื่อเสียงเธอก็ต้องพังด้วย เหมือนกับควิลเลอร์ที่เคยพังเพราะนักแสดงของตัวเอง

“นี่เธอจะโทษว่าเป็นความผิดฉันอย่างนั้นเหรอ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้! ตอนนั้นฉันแทบจะไม่มีสติเลยด้วยซ้ำ รู้ตัวอีกทีมันก็ห้ามตัวเองไม่ได้…หรือว่าฉันจะโดนวางยา!”

เรญ่าที่ได้ฟังก็เกือบจะมองบนใส่ “เธอเมาเหล้ามากกว่า ทั้งที่ก็รู้ว่าตัวเองเป็นคนดื่มเหล้าไม่เก่ง แถมพอดื่มจนเมาทีไรก็ขาดสติทุกที เหมือนกับภาพในผับที่หลุดออกมาไง”

“ไม่รู้แหละ! ก็ฉันไม่มีสติ เธอต้องหาวิธีจัดการให้ฉัน”

ขณะที่ดาหลากำลังอารมณ์เสีย เสียงโทรศัพท์ของเธอที่อยู่บนพื้นก็ดังขึ้น เรญ่าจึงก้มลงไปหยิบและส่งให้ดาหลา พอเธอเห็นรายชื่อบนหน้าจอใบหน้าก็ซีดลงทันที ก่อนจะกดรับด้วยมือสั่นๆ

“ฮัลโหลค่ะ…คุณพ่อ”

“ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่อเห็นข่าวแล้ว อย่าไปสนใจพวกคำด่า พ่อรู้ว่าลูกของพ่อไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างว่า ต้องมีคนใส่ร้ายลูกแน่ๆ”

“ฮือ…ขอบคุณค่ะคุณพ่อที่เชื่อใจดา ดาไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง”

“พ่อเคยบอกลูกแล้วไงว่าวงการบันเทิงไม่เหมาะกับลูก มาช่วยงานที่บริษัทพ่อดีกว่า” ดนัยณัฐพูดออกมาอย่างใจเย็นแม้ในใจจะอยากสั่งให้ดาหลาออกจากวงการบันเทิงเดี๋ยวนี้

“ดารักงานนี้มากก็จริง แต่ดาคงต้องยอมออก เพราะดาก็ทนอยู่ให้คนด่าดาไม่ได้เหมือนกันค่ะ” ถึงเธอจะเสียดายแต่ถึงอยู่ต่อไปก็คงไม่มีใครสนับสนุนเธอแล้ว

“ดีมากลูก งั้นเดี๋ยวพ่อจะเตรียมห้องทำงานไว้ให้ลูกเลยนะ”

“ได้ค่ะคุณพ่อ แล้วคุณแม่ว่ายังไงบ้างคะพอรู้ข่าว”

“ตอนนี้แม่ของลูกยังนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย เพราะเสียเลือดมากจากการถูกยิง”

“ฮะ? คุณแม่ถูกยิงได้ยังไงคะ ใครเป็นคนยิง!”

“พ่อก็ไม่รู้ เห็นตำรวจบอกว่าน่าจะโดนลูกหลง เพราะบริเวณแถวนั้นเป็นซอยเปลี่ยว มีพวกวัยรุ่นชอบนัดตีกันบ่อยๆ”

“แล้วคุณแม่ไปทำอะไรแถวนั้น”

“พ่อก็ไม่รู้ ต้องรอให้แม่ของเราฟื้นอีกที ลูกก็รีบพักรักษาตัวแล้วพ่อคงไม่ได้ไปเยี่ยม ช่วงนี้มีแต่เรื่องเต็มไปหมดเลย”

“ได้ค่ะ ดาไม่เป็นไรพ่อไม่ต้องเป็นห่วง”

พอเห็นดาหลาวางสายเรญ่าก็รีบพูดขึ้น “เธอจะลาออกจากวงการบันเทิงงั้นเหรอ แล้วฉันล่ะ”

“เธอทำไม? เธอก็ทำงานเดิมของเธอไปสิ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลย” ดาหลาพูดออกมาอย่างไม่สนใจ

“เธอมันเห็นแก่ตัวที่สุด! สมควรแล้วที่จะโดนแฟนคลับเกลียด” เรญ่าไม่สนใจดาหลาเดินออกจากห้องไปเลย คอยดูเถอะสักวันจะไม่เหลือใคร!

หลังจากที่เรญ่าออกจากห้องไปดาหลาก็นอนดูคอมเมนต์เกี่ยวกับเธอในโทรศัพท์ สักพักพยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับยาที่เธอต้องกิน ซึ่งดาหลาก็กินไปอย่างไม่ได้สงสัยอะไร

แต่พอตกกลางคืนเธอก็รู้สึกกระสับกระส่าย ครั่นเนื้อครั่นตัว แถมยังเจ็บหน้าอกอีก…

“ช่วย…ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!” ดาหลาพูดออกมาอย่างทรมาน ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปกดปุ่มเรียกพยาบาลข้างเตียง

พยาบาลที่วิ่งเข้ามาในห้องก็เห็นดาหลานอนหอบหายใจอยู่ ตามร่างกายมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ “ว้าย! เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ตามหมอเร็ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม