หลังจากที่หมอรักษาดาหลาเสร็จก็พบว่าเธอได้รับยาบางอย่างที่ช่วยลดการทำงานของหัวใจหรือความดันโลหิต ทำให้เกิดภาวะช็อก และพอหมอไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็เห็นว่าพยาบาลคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิดปกติเลย แล้วก็ไม่มีจังหวะไหนที่คนอื่นจะสามารถสับเปลี่ยนยาได้เลย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ยี่หวาที่ได้รับข้อความจากลูกน้องคนหนึ่งว่าแผนสำเร็จ ก็ยิ้มกว้างออกมาทันที วิธีของวายุนี่ได้ผลจริงๆ ด้วย แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนกล้องวงจรปิดนิดหน่อย แล้วก็เสียเงินจ้างพยาบาลอีกนิดนึง แต่มันก็ได้ผลดีเกินคาด
เธอก็แค่ให้ลูกน้องเจาะเข้าไปในระบบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เพื่อที่เธอจะได้นำวิธีของวายุมาใช้ จากนั้นก็ให้ลูกน้องไปสับเปลี่ยนยาโดยให้ค่าจ้างกับพยาบาลเป็นค่าปิดปาก…
“เรียนรู้ไว” วายุเอ่ยชมยี่หวาพร้อมกับลูบหัวเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าให้ฟีลเหมือนชมเขาสุนัขเลยล่ะ
แต่ช่างเถอะ! เธอคงจะคิดมากไปเอง “ขอบคุณที่ชมค่ะ”
“ขอมือหน่อย” วายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกวนๆ แถมยังยื่นมือมาตรงหน้าเธออีก
ชัดเจน!
“นี่คุณกำลังว่าฉันเป็นหมาเหรอ!” ยี่หวาถลึงตาโตใส่เขา เพราะไม่คิดว่าท่านประธานแบบเขาจะกล้าแกล้งเธอด้วย
“ถ้าเธอเป็นหมาก็ดีสิ ฉันจะได้จับเธอขังกรงไม่ให้ออกไปไหนเลย แค่นี้ก็หวงจะแย่อยู่แล้ว” วายุพูดพร้อมกับยื่นหน้ามาใกล้เธอ
ยี่หวารีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปหาเรนจิที่หน้าประตูห้องน้ำ “เรนอาบน้ำเสร็จยัง พ่อหนูอ่อยหม่ามี๊อีกแล้ว!”
“พ่ออย่ารังแกหม่ามี๊!!!” เรนจิตะโกนตอบกลับมาจากในห้องน้ำ
วายุที่ได้ยินก็หันไปมองยี่หวาด้วยสายตาคาดโทษ แต่จะให้ทำยังไง ก็เธอไม่อยากกินยาคุมบ่อยๆ นี่ แถมอารมณ์เขาพออยู่ใกล้เธอนิดหน่อยก็ขึ้นแล้ว
ดาหลาตื่นขึ้นมาในเช้าวันถัดมาก็รู้สึกคอแห้ง จึงเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาดื่ม แต่ยังไม่ทันที่จะได้กลืนเข้าไปก็ต้องพ่นออกมาเลอะเต็มผ้าห่ม เพราะน้ำที่เธอดื่มเข้าไปเมื่อครู่เป็นน้ำส้มสายชู!
ก็ว่าทำไมกลิ่นแปลกๆ ตอนแรกก็คิดว่าเพราะตัวเองกำลังป่วยเลยจมูกไม่ดี ใครมันแกล้งเธออีกแล้ว! เมื่อคืนก็ครั้งหนึ่งแล้ว ดีนะที่เธอรอดมาได้
สักพักเสียงโทรศัพท์ดาหลาก็ดังขึ้น พร้อมกับมีข้อความไม่ระบุเบอร์โทรส่งมาหาเธอ ทันทีที่อ่านจบมือเธอก็สั่นไปด้วยความหวาดกลัว มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวง
[วันนี้ก็แค่น้ำส้มสายชูแต่พรุ่งนี้ไม่แน่อาจจะเป็นน้ำกรด อย่าเพิ่งรีบตายล่ะ…เพราะนี่แค่เริ่มต้น]
ขณะที่ดาหลากำลังนั่งบนเตียงผู้ป่วยอย่างหวาดผวา โทรศัพท์ในมือเธอก็สั่นพร้อมกับข้อความเข้าอีกแล้ว
[กลัวเหรอ…นั่งนิ่งเชียว]
ปัง!
จากนั้นก็ตามด้วยเสียงดังจากการปิดประตู ดาหลารีบหน้าไปมองตรงทางเข้าแต่ก็ไม่พบใครเลย จนตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกหลอนแล้ว…
“กรี๊ด! นั่นใคร! อย่ามาเล่นบ้าๆ แบบนี้!!!” พอดาหลาตะโกนกลับไป ก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกหน้าต่างดังขึ้น แต่พอเธอหันไปมองก็ไม่เห็นใครแล้วก็เผลอนึกขึ้นได้ว่าตรงนั้นไม่มีระเบียง
“กรี๊ดดด!!!”
…..
ในเวลาเดียวกัน ห้องพักผู้ป่วยที่อยู่ด้านบนดาหลา ชายหนุ่มสองคนก็เก็บเชือกที่ผูกกับลูกตุ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปขอบคุณหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งงงอยู่บนเตียง
“ขอบคุณที่ให้พวกผมยืมใช้ห้องครับ”
จากนั้นพวกเขาก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับส่งคลิปจากกล้องที่แอบติดอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของดาหลาไปให้ยี่หวา
ยี่หวาที่กำลังนั่งสเก็ตช์ภาพอยู่ในห้องทำงานของวายุ พอได้ยินเสียงข้อความเข้าก็รีบเปิดดูทันที วิดีโอตรงหน้าทำเอามุมปากเธอกระตุกยิ้มเล็กน้อย ใจจริงวันนี้เธอก็อยากเอาน้ำกรดให้อีกฝ่ายกินเข้าไปจะได้จบๆ แต่คิดดูอีกทีไม่เอาดีกว่า เพราะถ้าดาหลาตายเร็วเกินไปก็หมดสนุกกันพอดี
โชคดีที่ตอนนี้วายุมีประชุมกับพวกคณะกรรมบริษัท จึงไม่ได้มาเห็นวิดีโอดังกล่าว ไม่อย่างนั้นเขาจะมองเธอยังไงก็ไม่รู้ เพราะการกระทำแบบนี้ไม่ต่างจากพวกโรคจิตเลย แต่สองแม่ลูกนั่นก็สมควรโดนแล้ว แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ยี่หวาพิมพ์ข้อความกลับไปให้ลูกน้อง [ช่วยให้คนแม่ได้นอนพักผ่อนที่โรงพยาบาลอีกสักอาทิตย์] ให้สองแม่ลูกได้อยู่ห่างกันบ้าง ดีที่พวกเธอไม่ได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน
ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัวกลับมา [OK.]
วายุที่ประชุมเสร็จก็รีบเดินกลับเข้ามาในห้อง พอเห็นยี่หวากำลังนั่งทำงานของเธออยู่ตรงโซฟา ก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ตอนนี้เขาแทบจะไม่อยากปล่อยให้เธอคาดสายตาไปสักเสี้ยววินาทีเลย เพราะแค่เขาเผลออันตรายก็มาเยือนเธอทันที
ท่าทางของวายุที่ยี่หวาหันไปเห็นพอดี ทำเอาเธอถึงกับต้องหลุดขำออกมา เขาจะกังวลเกินไปแล้ว เพราะตอนนี้สองแม่ลูกคู่นั้นต่างก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาล คงไม่มีใครมาฆ่าเธอหรอก “ฉันปลอดภัยดีค่ะ ไม่ต้องห่วง”
“ไง! ยี่หวา ไม่ได้เจอกันนานเลย” ธาราธรที่โผล่มาจากข้างหลังวายุเอ่ยทักทายยี่หวาอย่างตื่นเต้น “ได้ข่าวว่าความจำกลับมาแล้วใช่ไหม? ดีใจด้วย!”
ตอนนี้พี่เขาก็มีคู่ครองเป็นตัวเป็นตนสักที หลังจากที่อดทนมานานกว่าสิบปี ไม่มีอะไรจะน่ายินดีไปกว่านี้แล้ว
“ขอบคุณค่ะพี่ธารา”
“ไม่ได้ยินคำนี้นานเลย อย่างกับปาฏิหาริย์ไม่อยากจะเชื่อ ต้องฉลอง! อย่างนี้มันต้องฉลอง! พี่ผมจองห้องจัดเลี้ยงเลยนะ” ธาราธรหันไปขอความเห็นจากวายุ โดยไม่ถามความคิดเห็นเจ้าของงานนี้เลย
แต่เดี๋ยวนะ? ห้องจัดเลี้ยง? นี่เขาคิดว่ามีใครบ้างล่ะเนี่ย เพราะเท่าที่เธอนับได้ก็มีแค่สี่คน ซึ่งพอรวมเธอกับเรนจิไปด้วยก็กลายเป็นหกคนเองนะ
“เดี๋ยวค่ะ เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้บอกพี่พีชกับเดวิลเลย รอให้ฉันจัดการเคลียร์ปัญหาอีกอย่างก่อนแล้วค่อยจัดได้ไหมคะ” เพราะพรุ่งนี้ผลตรวจดีเอ็นเอออกแล้ว เธอจะได้เซอร์ไพรส์พวกเขาทีเดียวเลย
“เธอมีปัญหา?” วายุหันไปมองยี่หวาอย่างสงสัย เธอมีปัญหาอะไร แล้วทำไมเธอไม่พูดกับเขาเลย
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรค่ะ ไว้พรุ่งนี้ฉันจะบอกคุณนะคะ”
“ได้!” เขาเองก็ไม่อยากทำตัวน่ารำคาญ แม้จะอยากรู้ปัญหาของเธอมากแค่ไหน แต่ก็ทำได้แค่รอให้เธอเป็นคนบอกเอง
“ผมเป็นแค่อากาศ ผมมันไม่มีตัวตน” ธาราธรพึมพำออกมาอย่างน้อยใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม