ตอน [ตอนที่ 14 เล่นใหญ่เกินไปแล้ว] จาก ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
[ตอนที่ 14 เล่นใหญ่เกินไปแล้ว] คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม ที่เขียนโดย -BUTTER- เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
“กลับมาเก็บของเหรอยี่หวา”
“แต่ก่อนจะไปคงต้องขอสร้อยที่คอเธอคืนให้ดาหลาก่อนนะ”
พอยี่หวาเดินกลับมาถึงห้องเรียน เสียงเพื่อนร่วมชั้นก็ดังขึ้น พร้อมกับท่าทางเย่อหยิ่งและสีหน้าสะใจของพวกเธอ แต่คราวนี้ในมือยี่หวามีไพ่ไม้ตายอยู่ ครั้งนี้แหละที่เธอจะได้โต้กลับไปบ้าง
งั้นแสดงละครแบบที่พวกเธอทำหน่อยแล้วกัน…
“เธอซื้อมาเมื่อไหร่” ยี่หวาหันไปส่งเสียงหวานให้ดาหลาแต่ทว่ามันกลับห้วนกระด้าง แถมสายตาเธอตอนนี้แสดงความแข็งกร้าว กล้าหาญ เหมือนกับว่าพร้อมจะเผชิญทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว
“สอง…สองวันที่แล้ว” ดาหลาน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะไม่เคยเห็นยี่หวาทำสีหน้ามั่นใจขนาดนี้มาก่อน
“เธอแน่ใจว่านี่สร้อยคอของเธอ”
ดาหลาเริ่มไม่แน่ใจว่ายี่หวามีแผนการอะไรกันแน่ ทำไมท่าทางเธออย่างกับว่าครั้งนี้เธอจะต้องชนะ!
แต่แล้วยังไง ยี่หวาจะมีเงินซื้อสร้อยคอแพงๆ แบบนี้ที่ไหน เธออาจจะแค่เก็บได้ เพราะงั้นไม่มีอะไรต้องกลัว เมื่อคิดได้ดังนั้นดาหลาก็ตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “แน่ใจ”
“แน่ใจจริงๆ เหรอ งั้นเดี๋ยวฉันถอดให้เธอดู จะได้เห็นชัดๆ ไปเลยว่าใช่ของเธอหรือเปล่า” ว่าจบยี่หวาก็ถอดสร้อยออกจากคอแล้วส่งให้ดาหลา
ดาหลาทำเป็นพิจารณาสร้อยคอที่ระยิบระยับ ด้วยสีหน้าตื่นเต้น สร้อยเส้นนี้พอได้ดูใกล้ๆ แล้วหรูมากกว่าที่คิดเสียอีก ราคาต้องถึงล้านแน่ๆ ทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่ายี่หวาไม่มีทางซื้อสร้อยเส้นนี้เองได้แน่ “ของฉันจริงๆ ด้วย ยี่หวาเธอคืนให้ฉันเถอะนะ”
“งั้นก็แปลก...ที่เป็นของเธอ”
“แปลกยังไง” ดาหลาไม่รู้ว่ายี่หวาจะมาไม้ไหน ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“ก็สร้อยเส้นนี้มีเส้นเดียวในโลกนะสิ”
สิ้นเสียงยี่หวา ทุกคนก็เงียบไปสักพักก่อนจะหลุดหัวเราะขึ้นมา “งั้นแสดงว่ายี่หวาขโมยจริงๆ สินะ มีเส้นเดียวในโลกแล้วคนอย่างเธอจะมีสร้อยเส้นนี้ได้ไง”
“ทำไมจะมีไม่ได้” ยี่หวาถามกลับเสียงเรียบ
“ก็อย่างเธอไม่มีทางซื้อของแบบนี้ได้หรอก”
ยี่หวาทำเป็นคิดเล็กน้อย “อืม...ฉันไม่มีทางซื้อได้จริงๆ”
“เห็นไหม! เธอยอมรับแล้วว่าขโมยมา”
เธอพูดตอนไหน?
“แน่นอนว่ามีคนให้ฉันมา แถมคนคนนั้นก็ไม่ใช่คนที่พวกเธอจะกล่าวหาได้” ยี่หวาพูดด้วยน้ำเสียงปกป้องเต็มกำลัง
ในขณะเดียวกันวายุที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอจะให้เกียรติเขาเกินไปแล้ว...
“อย่ามาทำเป็นอ้างหน่อยเลย เธอขโมยก็ยอมรับเถอะว่าขโมย”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวก็ได้รู้แล้วว่าฉันขโมยจริงไหม แล้วก็เอาสร้อยฉันคืนมาด้วย นี่เป็นของสำคัญกับฉันเหมือนกัน เพราะมันมีชิ้นเดียวในโลก”
ยี่หวายื่นมือไปหยิบสร้อยในมือดาหลา จากนั้นก็เอามาคล้องคอตัวเองเหมือนเดิม แล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะอย่างไม่สนใจอะไร
“ฉันคิดว่ารู้สึกไปเองคนเดียวซะอีก”
“ฉันรู้สึกกดดัน เหมือนจะหายใจไม่ออก รองผู้อำนวยการมีอะไรกันแน่นะ ถึงได้เรียกเด็กมากันครบทั้งโรงเรียนแบบนี้”
“หรือว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเด็กมอสองที่ชื่อยี่หวาคนนั้น”
“ถ้าเป็นเรื่องของเด็กนั่นจริงก็ดีนะสิ ได้ข่าวว่าวันนี้ผู้อำนวยการมาที่นี่ด้วยตัวเอง ครั้งนี้เด็กนั่นต้องโดนไล่ออกแน่ ทำเลวกับคนอื่นไว้เยอะขนาดนั้น”
เนื่องจากโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ เด็กส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกคุณหนูกันทั้งนั้น ทำให้ยี่หวาถูกเพ่งเล็งเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเธอ แถมชื่อเสียงในโรงเรียนของเธอก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่อยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจที่ทุกคนในโรงเรียนจะรู้จักชื่อดนิตาเป็นอย่างดี
“พูดถึงเด็กนั่น วันนี้ฉันเพิ่งจะได้ข่าวมาว่าหล่อนขโมยสร้อยเพชรของเพื่อนร่วมชั้นที่ชื่อดาหลาด้วย”
“เรื่องจริงเหรอ แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ฉันก็ยังเห็นนางใส่สร้อยคอเส้นที่ว่านั่นอยู่เลย”
“หน้าด้านอะ ขนาดจับได้แล้ว ยังจะไม่ยอมคืนสร้อยไปอีก”
รองผู้อำนวยการที่ได้ยินเสียงคนคุยกัน ก็เริ่มส่งเสียงดุออกมา “อยู่ในความสงบ” เมื่อเห็นว่านักเรียนเงียบแล้วเขาก็เริ่มเข้าเรื่อง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรียน “ผมได้ข่าวมาว่าเกิดเหตุการณ์กลั่นแกล้งกันในโรงเรียน”
ทันทีที่รองผู้อำนวยการพูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น ส่วนดาหลาที่ได้ยินดังนั้นก็กระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว ซึ่งยี่หวาที่หันไปเห็นพอดีก็แทบจะหลุดขำออกมา
เห็นทีครั้งนี้จะไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิดแล้ว...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม