ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 19

พอยี่หวาเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับแม่นม ก็เห็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ใกล้กับรถคันหนึ่ง ซึ่งยี่หวาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของเงานั้นเป็นใคร

ไม่รอช้ายี่หวารีบทิ้งข้าวของที่ถืออยู่ลงพื้น วิ่งไปกอดเอวผู้ชายตรงหน้าแน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก “พี่วายุ…พ่อไม่รักหนูจริงๆ พ่อเกลียดหนู”

“ยี่หวา…” เพราะน้ำตาของยี่หวา ทำเอาวายุถึงกับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มือแข็งทื่ออยู่ข้างลำตัว “ไม่เป็นอะไรนะ เธออย่าร้องไห้ได้ไหม”

ทั้งที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอร้องไห้ แต่พอได้มาเห็นกับตาตัวเองก็ทำเอาหัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น

ยี่หวาสองตาแดงก่ำ น้ำตาไหลพรากไม่หยุด แต่เมื่อเห็นว่าเสื้อสูทของวายุที่ตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเธอ จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมกับส่งสายตาสำนึกผิดไปให้ “ขอโทษที่ทำเสื้อพี่เลอะค่ะ”

“ไม่ใช่ประเด็น ว่าแต่นี่มันเกิดอะไรขึ้น” วายุถามด้วยหน้าตาใสซื่อทั้งที่ความจริงเขารู้อยู่ก่อนแล้ว จึงยังไม่ขับรถกลับไป

“หนูทะเลาะกับพ่อนิดหน่อย เลยโดนไล่ออกจากบ้านค่ะ”

“พ่อเธอคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงได้ปล่อยให้เด็กออกมาจากบ้านดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ มันอันตรายมากรู้ไหม”

“รู้ค่ะ แต่มีแม่นมมาด้วยไม่ต้องเป็นห่วง” ยี่หวาพูดพร้อมกับหันไปทางแม่นม ก่อนจะเอ่ยอีกครั้งว่า “พี่วายุ นี่แม่นมของหนูค่ะ ส่วนแม่นมคะ นี่พี่วายุที่คอยช่วยเหลือหนูค่ะ”

“สวัสดีครับ” วายุรีบยกมือไหว้อย่างมีมารยาททันที

“ไหว้พระเถอะจ้ะ ขอบใจพ่อหนุ่มมากนะที่คอยช่วยเหลือเด็กคนนี้”

“ผมเต็มใจครับ อีกอย่างเธอก็เคยช่วยชีวิตผมไว้เหมือนกัน แล้วนี่จะไปพักที่ไหนครับ ถ้าไม่รังเกียจไปพักที่บ้านผมก่อนไหม ผมอยู่คนเดียว” วายุหันไปพูดกับแม่นม เพราะเขารู้ว่าถ้าพูดกับเด็กสาวตรงๆ เธอคงไม่ยอมแน่

“พวกเราจะไม่รบกวนคุณใช่ไหม” ประภาพิศถามด้วยสีหน้าลังเล

“ไม่เลยครับ”

“งั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะตอนนี้ดึกแล้ว บ้านคนที่รู้จักคงจะนอนกันหมดแล้ว” อย่างน้อยคืนนี้ให้เธอได้ไปตั้งหลักก่อนก็ดีเหมือนกัน

“งั้นเชิญขึ้นรถเลยครับ” วายุรีบเดินไปเปิดประตูรถอย่างกับกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้เด็กสาวอาจจะไม่ยอมไปกับเขา

“ขอบคุณพี่วายุมากเลยนะคะ พี่ช่วยหนูอีกแล้ว”

วายุถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบหัวหญิงสาวอย่างระวัง พร้อมกับเอ่ยคำพูดอ่อนโยน “บอกแล้วไงว่าฉันเต็มใจจริงๆ”

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงบ้านพักส่วนตัวของวายุ น้อยครั้งนักที่วายุจะกลับไปนอนบ้านใหญ่ เนื่องจากเขาไม่อยากฟังแม่บ่นเรื่องการแต่งงาน ทั้งที่เขาเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ปีเอง เขาเลยตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เพื่ออยู่คนเดียว

ตอนแรกเขาก็มองว่าเรื่องการแต่งงาน เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก เขาเคยคิดว่าอยู่คนเดียวทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ ยังสบายใจกว่า แต่พอเขาเจอกับยี่หวาความคิดเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ตอนนี้กลายเป็นว่าเขาอยากจะแต่งงานกับเธอ มีลูกกับเธอ อยากสร้างครอบครัวกับเธอ แต่ทำไมเธอต้องอายุแค่สิบสี่ปีด้วย เขาอุตส่าห์เจอคนที่อยากใช้ชีวิตด้วย แต่ก็ดันกลายเป็นเด็กไปซะได้ คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่เขาเพิ่งเจอได้เพียงสองวัน จะมีอิทธิพลต่อเขาขนาดนี้

โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรอยู่…

“ผมมีห้องนอนสำหรับแขกอยู่หนึ่งห้อง คืนนี้ก็พักผ่อนกันก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไง” วายุหันไปพูดกับประภาพิศ เพราะเนื่องจากตอนนี้เด็กสาวตรงหน้าเขาไม่รู้ว่ากำลังเหม่อลอยไปถึงไหนแล้ว

“ป้าขอบใจพ่อหนุ่มมากนะ ยี่หวาโชคดีจริงๆ ที่เจอคนดีๆ แบบคุณ”

“ผมต่างหากที่โชคดี” เพราะถ้าเมื่อวานเธอไม่ช่วยเขาไว้ วันนี้เขาอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้วก็ได้ อีกอย่าง…เพราะเธอ ทำให้เขามีเป้าหมายในการใช้ชีวิตต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม