[ตอนที่ 20 การจากไปน่าจดจำกว่าตอนอยู่] – ตอนที่ต้องอ่านของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม
ตอนนี้ของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER- ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง [ตอนที่ 20 การจากไปน่าจดจำกว่าตอนอยู่] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ทั้งที่เมื่อคืนเขาได้เตือนหญิงสาวว่าอย่าตื่นเต้นจนไม่ยอมนอน แต่ทำไมถึงได้กลายเป็นเขาที่ไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะตื่นเต้นเรื่องที่เธอจะมาอยู่ที่นี่ด้วยซะได้
ขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานข้าวเช้าอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ยี่หวาที่เห็นวายุดูโทรมๆ จึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง “พี่วายุดูเหมือนจะยังไม่ตื่นดีนะคะ แบบนี้จะไปทำงานไหวหรือเปล่าคะ”
“ไหว เมื่อคืนทำงานดึกไปหน่อย” วายุเลือกที่จะโกหก เพราะเขาไม่มีทางให้หญิงสาวรู้ว่าเป็นเพราะเขาตื่นเต้นแน่ๆ
“แน่ใจนะคะ” ยี่หวาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“อืม รีบกินข้าวเลยเดี๋ยวไปเรียนสาย” วายุส่งสายตาดุไปให้ยี่หวา ทำเอาเจ้าตัวได้แต่พยักหน้าเบาๆ ก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานต่อ
เวลาเดียวกันนั้นที่บ้านจิรภิญญากุล ดาหลาที่ตื่นเช้ามาแล้วรู้ว่าวันนี้ยี่หวาไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้แล้วก็รู้สึกสดใสกว่าวันไหนๆ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณแม่” ดาหลาเอ่ยทักญาณิศาที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงโต๊ะอาหาร
“วันนี้ลูกดูอารมณ์ดีนะ” ญาณิศารู้ได้ทันทีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะเธอก็รู้สึกเหมือนกับลูกสาวของเธอ
“นิดหน่อยค่ะคุณแม่”
“มะลิ เธอไปตามป้าพิศมาหน่อย” ญาณิศาหันไปพูดกับเด็กรับใช้ที่กำลังยืนอยู่ข้างเธอ แต่มะลิก็ยังคงยืนเฉย ไม่ขยับไปไหน ทำเอาญาณิศาอดโมโหไม่ได้ “แกจะยืนอยู่ตรงนี้อีกนานไหม ฉันใช้ไม่ได้ยินเหรอ”
“ได้...ได้ยินค่ะ แต่ว่าป้าพิศไม่อยู่แล้ว” มะลิตอบด้วยเสียงสั่นๆ เพราะเมื่อคืนเธอเห็นว่าประภาพิศได้ตามยี่หวาออกไปแล้ว
“ใครบอกว่าฉันไม่อยู่ เธอนี่พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลยนะ” ประภาพิศที่เดินออกมาจากห้องครัว พร้อมกับยกอาหารเช้ามาให้สองแม่ลูก หันไปดุมะลิเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาทางญาณิศา “คุณนายเรียกดิฉันมีอะไรให้รับใช้คะ”
“เปล่า! ก็แค่คิดว่าป้าจะตามเด็กนั่นไปแล้ว”
เพราะประภาพิศรู้ยังไงล่ะ เมื่อเช้าจึงรีบกลับมาที่นี่แล้วทิ้งจดหมายไว้ให้ยี่หวา ก็หวังว่ายี่หวาจะเข้าใจ และยอมรับได้ บางทีการไปของยี่หวาอาจจะทำให้คุณท่านรู้ใจตัวเองก็ได้...เพราะการจากไปน่าจดจำกว่าตอนอยู่
“คุณนายจะยอมให้ฉันไปเหรอคะ”
“อย่าหวัง! อีกอย่างเด็กนั่นก็คงไปอยู่กับเสี่ยที่ไหนเองแหละ”
“ต้องใช่แน่เลยค่ะคุณแม่ เพราะอย่างยี่หวาคงไม่มีทางซื้อสร้อยราคาเป็นล้านได้ ต้องมีเสี่ยที่ไหนให้เธอแน่”
“ลูกพูดจริงเหรอ ยี่หวามีสร้อยราคาเป็นล้านเลยเหรอ”
“ใช่ค่ะคุณแม่”
ญาณิศาทำหน้าเสียดาย รู้อย่างนี้เธอคงจะดึงสร้อยมาก่อนที่เด็กนั่นจะออกไป เพราะถ้าเด็กนั่นเอาสร้อยไปขายต้องอยู่อย่างสบายแน่
ยี่หวาที่กำลังเดินไปยังโต๊ะข้างหลังสุด ซึ่งตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังนอนฟุบหลับอยู่กับโต๊ะ แต่เดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงผู้คนในห้องแทรกเข้ามาก่อน
“ครูคิดยังไงถึงให้น้องเขาไปนั่งกับปีศาจ”
“มีหวังได้โดนเหวี่ยงใส่แน่ ครูก็น่าจะรู้ว่าเดวิลไม่ชอบนั่งใกล้ใคร พอมีใครเข้าไปใกล้ก็หงุดหงิดใส่ตลอด”
ยี่หวาที่ได้ยินดังนั้นถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง นี่เธอต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกแล้วเหรอ...
แต่ไม่เป็นไร ประสบการณ์เรื่องแบบนี้เธอเจอมาเยอะแล้ว ถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ชอบให้ใครอยู่ใกล้ งั้นเธอก็จะไม่เข้าใกล้เขา ดังนั้นเมื่อยี่หวาเดินมาถึงที่โต๊ะจึงค่อยๆ ยกโต๊ะที่อยู่ข้างผู้ชายคนนั้นเบาๆ
โชคดีที่โรงเรียนนี้โต๊ะเรียนเป็นโต๊ะไม้ขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้เธอที่เห็นตัวเล็กแบบนี้ก็สามารถยกได้สบายๆ
ยี่หวายกโต๊ะมาไว้ข้างหลังผู้ชายคนนั้นอีกที เพราะตอนอยู่ห้องเรียนเก่า เธอก็นั่งคนเดียวหลังสุดอยู่แล้วจึงเป็นเรื่องปกติถ้าเธอจะย้ายมานั่งตรงนี้
เมื่ออาจารย์เห็นว่ายี่หวาย้ายโต๊ะไปนั่งตรงนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม้แต่อาจารย์เองก็กลัวผู้ชายที่ชื่อเดวิลเหมือนกัน พอทุกอย่างเรียบร้อยอาจารย์ก็เริ่มสอนทันที “งั้นเราจะมาเริ่มเรียนกันเลยนะ”
“ค่ะ/ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม