[ตอนที่ 33 ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิต่อพ่อลูกคู่นี้เกินไปแล้ว] – ตอนที่ต้องอ่านของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม
ตอนนี้ของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER- ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง [ตอนที่ 33 ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิต่อพ่อลูกคู่นี้เกินไปแล้ว] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ยี่หวารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับความปวดหัวเพราะเมื่อคืนเธอหลับๆ ตื่นๆ เนื่องจากระแวงกลัวว่าจะมีใครเข้ามาในห้องอีก และเมื่อเธอก้มลงไปมองคนข้างๆ ก็พบกับเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ แถมยังกำลังนอนมองเธออย่างไม่ละสายตาไปไหน ซึ่งตอนนี้มันเพิ่งจะตีห้าครึ่งเองนะ
“ทำไมคนเก่งตื่นเร็วจัง เป็นเด็กเป็นเล็กตื่นสายๆ หน่อยในวันหยุดก็ได้นะ”
“กลัวว่าถ้าเรนตื่นช้ากว่านี้แล้วหม่ามี๊จะไม่อยู่” ยี่หวาที่ได้ฟังก็รู้สึกตกใจนิดๆ ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะติดเธอได้ถึงขนาดนี้ อยากรู้จริงๆ ว่าพ่อกับแม่เขาเลี้ยงมายังไง ทำไมถึงได้ให้ลูกเชื่อใจคนที่เพิ่งรู้จักกันแบบนี้
“หม่ามี๊ขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ?” เรนจิลุกขึ้นนั่งบนเตียงตัวตรง ตั้งใจรอฟังคำถามจากหม่ามี๊ เขาอยากจะให้หม่ามี๊ถามสักร้อยคำถามเลย หม่ามี๊จะได้อยู่กับเขานานๆ
“ปกติแล้วเรนสนิทกับคนแปลกหน้าแบบนี้บ่อยเหรอ”
“หม่ามี๊ไม่ใช่คนแปลกหน้าครับ เมื่อคืนเรานอนด้วยกันแล้ว”
“เอ่อ...” ดีนะที่คำพูดนี้ออกมาจากปากเด็กตัวแค่นี้ “หม่ามี๊หมายถึงก่อนหน้านั้น เพราะเมื่อวานเรายังเป็นคนแปลกหน้ากันอยู่เลย”
“เรนไม่เคยสนิทกับใครนอกจากหม่ามี๊ครับ มีแค่หม่ามี๊คนเดียวที่เรนนอนด้วย”
ดูเหมือนว่าเธอคงจะเป็นห่วงมากเกินไป เพราะจากที่สังเกตเด็กคนนี้ฉลาดกว่าที่เธอคิด “แล้วเรนหิวยัง เดี๋ยวหม่ามี๊ลงไปทำอาหารให้เอาไหม”
“เอาครับ”
พอทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ลงมาข้างล่าง เห็นแต่แม่บ้านที่กำลังจะเริ่มลงมือทำอาหารเช้า ยี่หวาจึงพูดขึ้น “ขอยืมครัวใช้ทำอาหารได้ไหมคะ”
แม่บ้านงงเล็กน้อยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เพราะปกติเธอจะมีหน้าที่ทำอาหารเช้า เพราะฉะนั้นเธอจะมาแค่ตอนเช้าจึงไม่รู้เรื่องเมื่อคืน แต่พอเห็นผู้หญิงคนนี้ยืนอุ้มคุณชายน้อยอยู่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ “ได้ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” และยี่หวาก็หันมาคุยกับเด็กน้อยในอ้อมกอด “ทำให้คุณปู่คุณย่าของหนูด้วยดีไหม”
หญิงสาวที่ได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้จะทำอาหารให้คุณท่านก็รีบเอ่ยห้ามทันที “อย่าดีกว่าค่ะ คุณท่านไม่…”
“อย่าห้าม” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกเรนจิพูดใส่เสียงแข็ง ก่อนเขาจะหันมาพูดกับยี่หวาด้วยเสียงน่ารัก “หม่ามี๊ทำเถอะ ทุกคนจะต้องชอบเหมือนที่ผมกับคุณย่าชอบ”
“โอเคจ้ะ” ยี่หวายิ้มแล้วก็ลงมือทำอาหาร ทั้งที่เป็นแค่อาหารเช้าแต่เธอกลับทำให้มันดูหรูกว่าร้านอาหารหลายดาวเสียอีก
อาหารเสร็จประมาณเจ็ดโมง โดยยี่หวาได้แบ่งให้พวกแม่บ้านทานด้วย สักพักพิชญ์สิณีกับธวัฒน์ที่เพิ่งลงมาก็ต้องตะลึงกับอาหารตรงหน้า ทั้งที่เป็นแค่โจ๊กและมีกับข้าวนิดหน่อยแต่ทำไมถึงทำมันให้ดูหรูได้ขนาดนี้
“อาหารนี้แม่หนูคนนี้เป็นคนทำงั้นเหรอ” ธวัฒน์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ยี่หวาตอบกลับด้วยความนอบน้อม “ใช่ค่ะ”
“เมื่อวานเธอทำซุปเยื่อไผ่ปีกไก่ตุ๋นได้อร่อยมาก ฉันกินข้าวไปตั้งสองจาน” เพราะฉะนั้นพอธวัฒน์รู้ว่ากับข้าวมื้อนี้เธอก็เป็นคนทำอีก ก็รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“รู้สึกเป็นรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ”
“งั้นเรากินข้าวกันเลยเถอะ” พิชญ์สิณีเอ่ยขึ้นเพราะตอนนี้ตัวเธอเองเริ่มรู้สึกหิวแล้ว
เป็นไปได้ยังไง เธอไม่รู้จักเขางั้นเหรอ นี่มันเรื่องอะไรกัน ตอนนี้ใบหน้าวายุเห็นได้ชัดว่าสับสนมึนงง จนพิชญ์สิณีที่กำลังยืนมองลูกชายที่ไม่เป็นตัวเองอยู่ ต้องถามขึ้น “ลูกรู้จักเธอด้วยเหรอ”
วายุไม่ตอบอะไร เพราะตัวเขาเองก็กำลังสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าเขารู้จักเธอไหม ส่วนยี่หวาที่เห็นชายหนุ่มตรงหน้าจ้องเธออย่างไม่วางตา ก็กระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับพิชญ์สิณีและธวัฒน์อย่างสุภาพว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
แต่ทันทีที่เรนจิได้ยินก็รีบกระโดดลงจากเก้าอี้และวิ่งมากอดที่ขาของยี่หวา พร้อมกับส่ายหน้าไปมาหลายครั้ง “อย่าเพิ่งกลับได้ไหมครับ”
“นั่นสิ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อน ไหนๆ เธอก็เป็นคนทำ”
วายุเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำเอาทุกคนที่ได้ยินถึงกับอ้าปากค้าง โดยเฉพาะพิชญ์สิณีกับธวัฒน์ที่ตอนนี้ยืนช็อกไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนเห็นลูกชายตัวเองอ่อนโยน ไหนจะคำพูดที่ออกมาจากปากอีก ไม่ใช่ว่าลูกของเขากำลังขอร้องให้ผู้หญิงคนนี้ให้อยู่ต่อเหรอ
ทั้งที่ปกติลูกชายเขาเคยเอ่ยปากขอร้องใครที่ไหน ขนาดกับพวกเขาเองยังไม่เคย แล้วไหนจะแววตาที่มองเธอคนนั้นอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานทั้งคู่ก็ช็อกกับหลานไปแล้ว วันนี้ยังต้องมาช็อกกับลูกชายอีก
ผู้หญิงคนนี้จะมีอิทธิต่อพ่อลูกคู่นี้เกินไปแล้ว…
“นะครับหม่ามี๊อยู่ต่ออีกหน่อยนะ” เรนจิพูดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ายี่หวายืนนิ่งไป
ยี่หวาก้มลงไปอุ้มเด็กน้อยขึ้น และพูดอย่างอ่อนโยน “ก็ได้จ้ะ”
จากนั้นทุกคนก็ลงมือทานอาหาร ซึ่งบนโต๊ะอาหาร ยี่หวาไม่ได้สนใจใครนอกจากเรนจิที่นั่งอยู่ด้านข้างเลย เธอคอยเช็กดูความเรียบร้อยให้เด็กน้อยตลอด
จนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้วายุเอาแต่จ้องมองเธออย่างเดียว เขาคอยสังเกตท่าทางของเธอ แต่ยิ่งสังเกตเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้คือยี่หวาไม่ผิดแน่ ไหนจะรสชาติอาหารนี่อีก แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้จักเขา แถมสายตาที่เธอมองเขาดูก็รู้ว่าไม่ได้โกหก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม