สวนหลังบ้านพิทวัสชญวงศ์ ยี่หวาและวายุกำลังยืนมองหน้ากันท่ามกลางความเงียบ เมื่อยี่หวาไม่เห็นใครแล้วจึงเริ่มเปิดประเด็นทันที “คุณรู้จักฉันใช่ไหมคะ”
“ใช่” น้ำเสียงราบเรียบที่ฟังแล้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามควบคุมตัวเองอยู่ เพราะตอนนี้เขาอยากจะเข้าไปกอดเธอ จูบเธอ…
“แล้วทำไมพี่ชายฉันถึงไม่เคยเล่าเรื่องของคุณให้ฟังเลย ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ”
“วายุ ว่าแต่พี่ชายเธอนี่ใคร” เพราะเขาจำได้ว่ายี่หวาไม่เคยบอกว่าตัวเองมีพี่ชายด้วย
“พี่พีช คุณรู้จักไหม”
“ไม่ แล้วทำไมพี่ชายเธอต้องเล่าเรื่องฉันให้เธอฟังด้วย หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น”
“คุณคงรู้จักฉันจริงๆ สินะ” ยี่หวามีสีหน้าเหยเกเล็กน้อยก่อนจะพึมพำออกมาเบาๆ “นี่ฉันทำพลาดอย่างรุนแรงเลย”
วายุที่ได้ยินก็ต้องขมวดคิ้วทันที “ทำไม มันเกิดอะไรขึ้น”
“พี่ฉันบอกว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ฉันกลายเป็นคนจำอะไรไม่ได้ หรือก็คือความจำเสื่อม และดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ฉันจะมีชีวิตที่ไม่ดีเท่าไร่ คุณพอจะทราบไหม”
วายุแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะปรับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว “อืม เธอมีปัญหากับครอบครัว”
“เพราะงั้นพี่ฉันก็เลยจัดการเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ให้ทั้งหมด แต่ก็มีเพียงชื่อเล่นที่เมื่อฉันกลับมาที่ไทยก็ยังคงใช้ชื่อเดิมอยู่ และก็ทำให้คนที่บ้านนั้นคิดว่าฉันตายไปแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยไปอยู่ที่ต่างประเทศอย่างถาวร แต่ไม่คิดเลยว่าแค่กลับมาวันเดียวจะดันมาเจอคนรู้จักซะได้ เพราะถ้าคุณอยู่ในรูปคนที่รู้จักฉัน ฉันอาจจะหลบหน้าคุณแล้ว”
“อย่า…” น้ำเสียงวายุสั่นเครือเล็กน้อย ถ้าให้เขายังคงรู้ว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ บางทีชีวิตเขาก็อาจจะต้องอยู่แบบคนไร้จิตวิญญาณอย่างนี้ไปตลอด
“หลบตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วค่ะ จะว่าไปทำไมคุณถึงได้ดูรู้จักฉันดีจัง รู้หมดเลยว่าฉันแพ้อะไร พี่ฉันยังไม่รู้เลย จนฉันเคยต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะกุ้งนี่แหละ”
“ไม่ได้มีแค่ฉันที่รู้จักเธอดี ยังมีเพื่อนเธออีกคน”
“หืม? ฉันมีเพื่อนด้วยเหรอ ทำไมพี่ไม่เคยบอกเลย พี่บอกว่าฉันไม่มีเพื่อนคบ ถ้าอย่างนั้นไว้กลับมาปีหน้าคุณช่วยพาฉันไปหาเพื่อนคนนั้นหน่อยได้ไหม ครั้งนี้คงไม่ทันแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปทำงาน”
“ปีหน้า? เธอจะไม่กลับมาที่นี่แล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“ไม่เอา! ผมไม่ให้หม่ามี๊ไป” เรนจิที่เห็นว่าหม่ามี๊กับพ่อหายไปนานก็เลยจะออกมาหา แต่ก็ต้องได้ยินที่พ่อของเขาพูดว่าหม่ามี๊จะไม่กลับมาแล้ว
“คนเก่ง หม่ามี๊ต้องกลับไปทำงานหม่ามี๊อยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ”
“งั้นหม่ามี๊ทำงานที่นี่ไม่ได้เหรอครับ”
จะว่าได้มันก็ได้ แต่เธอไม่มีความทรงจำที่นี่หลงเหลืออยู่เลย ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปจะเป็นอันตรายสำหรับเธอได้ “แต่บ้านหม่ามี๊อยู่ที่นู่น ที่นี่หม่ามี๊ไม่มีบ้าน”
“หม่ามี๊อยู่กับผมที่นี่ก็ได้ครับ”
เธอจะพูดยังไงดี เพราะพอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อของเด็กน้อย หน้าเขาก็เหมือนกับเข้าข้างลูกตัวเองเต็มที่เลย “ไม่ได้หรอกหม่ามี๊เป็นคนนอกไม่เหมาะที่จะมาอยู่ที่นี่”
วายุที่ได้ยินอยากจะรีบสวนกลับไปว่าเธอไม่ใช่คนนอก แต่เขาก็ทำได้แต่เชียร์ลูกอยู่ในใจ...
“งั้นผมไปอยู่กับหม่ามี๊ได้ไหม”
นี่เขาจะยอมจากที่บ้านเพื่อไปอยู่กับเธอเลยเหรอ “ไม่ได้ครับ เรามีพ่อกับแม่แถมยังมีคุณปู่กับคุณย่าที่รักเรามาก ถ้าเราไปกับหม่ามี๊ทุกคนจะเป็นห่วงได้นะ”
“แต่ผมไม่อยากแยกกับหม่ามี๊”
“งั้นเอาแบบนี้ดีไหม เดี๋ยวเรามาแลกเบอร์กัน หนูอยากโทรมาหาเมื่อไหร่ก็ได้แถมเปิดกล้องคุยกันได้ด้วยนะ”
“แต่ว่า...” เด็กน้อยยังคงไม่ยอมแพ้
“นะครับคนเก่ง เชื่อหม่ามี๊นะ”
แต่พอเจอลูกอ้อนของยี่หวาเข้าไป แม้แต่เด็กก็ยังคงต้องยอม “ถ้าหม่ามี๊ว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ”
วายุหน้าถอดสีทันที ลูกชายเขาเข้าใจหนึ่งปีไหม เธอจะกลับไปหนึ่งปีเลยนะ แถมถ้ากลับมาครั้งหน้าก็แค่วันสองวันอีก ทำไมถึงได้ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้
“เก่งมากครับ”
“งั้นวันนี้ผมขอไปส่งหม่ามี๊ที่สนามบินได้ไหมครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม