ดาหลาเมื่อเห็นเรนจิขึ้นไปบนห้องได้สักพักจึงเดินตามขึ้นไป แต่พอเปิดประตูก็เห็นเด็กน้อยนั่งอยู่บนพื้นนิ่งๆ สายตามีความว่างเปล่า ข้างลำตัวมีไอแพดวางอยู่ เธอไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหยิบไอแพดที่พื้นก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“แม่ขอยึดไอแพด ลูกไม่ควรเล่นเยอะไม่รู้เหรอว่ามันทำให้เสียสายตา” แต่เด็กน้อยก็ไม่ตอบอะไรดาหลาจึงพูดขึ้นอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าพ่อของลูกคิดอะไรอยู่ถึงได้ซื้อไอแพดให้ลูกแบบนี้ แม่ไม่ว่านะถ้าลูกจะเล่นแต่คุณย่าบอกว่าลูกเล่นทั้งวันทั้งคืนเลยไม่พักเลย เพราะไอแพดนี่ใช่ไหมที่ทำให้ลูกไม่ยอมลงไปเจอหน้าแม่ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เป็นแค่เด็กห้าขวบไม่รู้จะเล่นอะไรนักหนา…”
“จบยัง” เรนจิพูดแทรกด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ให้ความรู้สึกรำคาญออกมาจากปากโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็คือแม่แท้ๆ ของเขา
ดาหลาที่เหมือนจะได้ยินอะไรผิดไปถึงกับต้องถามซ้ำอีกครั้ง “ลูกพูดว่าอะไรนะ?”
“ออกไป”
“นี่ลูกกล้าไล่แม่เหรอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้ เป็นเพราะผู้หญิงที่ลูกคุยด้วยใช่ไหมถึงทำให้ลูกกลายเป็นเด็กนิสัยไม่ดีแบบนี้” ว่าจบดาหลาก็เดินเข้าไปดึงแขนเด็กน้อยให้ยืนขึ้นแล้วตีไปที่ก้นหลายครั้ง แต่หน้าเรนจิก็นิ่งไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้เขารู้แค่ว่าหม่ามี๊ทิ้งเขาไปแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้ดาหลายิ่งโมโหจึงตีซ้ำไปอีกหลายที
สักพักดาหลาได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาทางห้องจึงรีบปล่อยเรนจิทรุดลงที่พื้น แล้วรีบเปิดประตูห้องออกไป แต่ก็สวนกับวายุที่เดินมาพอดี
ซึ่งสายตาวายุตอนนี้กำลังจ้องไปที่ไอแพดในมือของดาหลา พร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอาไปไหน”
แค่สามพยางค์ก็สามารถทำให้ดาหลารู้สึกหนาวไปถึงกระดูก นี่เป็นประโยคที่สองที่วายุพูดกับเธอ ซึ่งประโยคแรกก็คือ ‘ออกไป!’ เมื่อหกปีที่แล้ว
“ฉันเห็นว่าลูกเล่นเยอะเกินไป ก็เลยว่าจะยึดสักหนึ่งเดือนค่ะ คุณคงจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ เพราะฉันเองก็เป็นห่วงลูกเหมือนกัน” ตอนที่เธอตอบคำถาม วายุก็ไม่แม้แต่จะมองหน้าดาหลาเลย กลับเดินผ่านเธอไปหาเด็กน้อยที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น แถมยังปิดประตูใส่หน้าเธออีก ทำไมเขาถึงได้เกลียดเธอขนาดนี้กันนะ เรื่องในครั้งนั้นเธอเองก็เป็นฝ่ายเสียหายเหมือนกัน
“เป็นอะไร ให้พ่อไปเอาคืนไหม” วายุเห็นลูกชายร้องไห้ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ทั้งที่ปกติเขาเป็นเด็กที่เข้มแข็งมาก วายุจึงไม่เคยเห็นลูกชายตัวเองร้องไห้เลย
เด็กน้อยส่ายหน้าทั้งน้ำตา “ไม่ครับ ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว หม่ามี๊ทิ้งผมไปแล้ว หม่ามี๊ไม่กลับมาแล้ว”
วายุหน้าถอดสีทันทีที่ได้ยิน รีบถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเขาไม่ได้ยินผิด “ลูกว่าอะไรนะ”
“หม่ามี๊ทิ้งผมไปแล้ว หม่ามี๊บอกว่าจะไม่คุยกับผมอีกแล้ว หม่ามี๊บอกว่าเราสองคนคุยกันไม่ได้ และหม่ามี๊ก็จะไม่กลับมาเมืองไทยแล้ว”
คราวนี้วายุนิ่งค้างไปเลย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนถูกมีดแทง ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “ก่อนหน้าที่เธอตัดสาย ลูกคุยอะไรกับเธอ”
“หม่ามี๊แค่ถามว่าทำไมไม่คุยกับแม่ดีๆ ผมก็บอกว่าไม่อยากคุย…” เรนจินิ่งค้างไปเหมือนจะคิดอะไรได้ รีบเอ่ยอีกครั้ง “หรือว่าผมทำตัวไม่ดีเหรอ หม่ามี๊เลยทิ้งผมไป ผมต้องคุยกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เหรอ” เรนจิพูดด้วยท่าทีรังเกียจแถมน้ำเสียงก็ดูฝืนใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม