ภายในรถยนต์มินิคูเปอร์ เด็กน้อยคนหนึ่งเอาแต่นั่งยิ้มตั้งแต่ที่ก้าวขาขึ้นรถมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าที่หม่ามี๊หายไปก่อนหน้านี้ก็เพื่อไปซื้อรถเอาใจเขา
“ผมดีใจที่หม่ามี๊ไม่ขับรถคันนั้นแล้ว” เพราะรถคันนั้นนิสัยไม่ดี ทำให้เขาต้องเข้าใจหม่ามี๊ผิด
“ถ้าหม่ามี๊ขับเดี๋ยวเรนก็โกรธหม่ามี๊อีก” ยี่หวาพูดด้วยใบหน้าง้องอน
เรนจิรีบก้มหน้าสำนึกผิด “ผมขอโทษที่งี่เง่าครับ”
ยี่หวาที่เห็นใบหน้ารู้สึกผิดของคนด้านข้างก็หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เป็นเด็กจะงี่เง่าก็ได้ไม่ผิด”
อีกอย่างไม่ว่าคนเก่งของเธอจะทำอะไรก็ย่อมไม่ผิด!
“แล้วนี่เราจะไปไหนกันครับ” เรนจิถามขึ้น เมื่อเห็นว่าทางที่ยี่หวากำลังขับไปไม่เหมือนทางกลับคอนโดเธอ
“ไปตลาดสดซื้อของทำอาหารกัน”
เรนจินิ่งไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไร สักพักเขาก็พูดขึ้น “จริงสิครับ! คุณปู่ชอบทานอาหารฝีมือหม่ามี๊มาก หม่ามี๊ไปทำที่บ้านผมได้ไหมครับ”
“ได้สิจ๊ะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ตลาดเสร็จ ยี่หวาก็ขับรถไปยังบ้านพิทวัสชญวงศ์ทันที ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่พิชญ์สิณีได้เห็นรถของยี่หวา ใบหน้าของเธอตอนนี้จึงเกิดการดูถูกเหยียดหยาม
พิชญ์สิณีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “เธอมาทำอะไร”
ยี่หวารู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าดูเหมือนจะกำลังหงุดหงิดเธอ แววตาและน้ำเสียงเปลี่ยนไปจากคราวก่อน เธอไปทำอะไรให้คุณหญิงท่านนี้โกรธตอนไหน หรือว่าเป็นเพราะเธอเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตหลานชายของคุณหญิงมากเกินไป บวกกับฐานะของเธอที่เป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น
เรนจิที่อยู่ในอ้อมกอดของยี่หวาก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากย่าของเขา จึงเอ่ยขึ้นแทน “หม่ามี๊มาทำอาหารให้ผมทานครับ”
“แล้วนี่พ่อเราไปไหน ทำไมถึงให้คนนอกมาส่ง” พิชญ์สิณีเน้นย้ำคำว่าคนนอก ทำเอาเรนจิถึงกับไม่พอใจ
“หม่ามี๊ไม่ใช่คนนอกนะครับ”
“เอ๊ะอะอะไรกัน...อ้าวแม่หนู!” ธวัฒน์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องรับแขก พอเห็นยี่หวาก็ตกใจ สายตาเหลือบไปมองถุงในมือหญิงสาว “ในมือนั่น...เธอจะทำอาหารเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“ดีๆ ฉันจะรอทาน” สีหน้าธวัฒน์ดูปลาบปลื้ม ในที่สุดเขาก็ได้ทานอาหารอร่อยๆ ที่ผู้หญิงคนนี้ทำอีกครั้ง ผิดกับพิชญ์สิณีที่ส่งสายตาอำมหิตไปให้ แต่เจ้าตัวก็ไม่รู้สึกเลยสักนิด
ในขณะที่ยี่หวากำลังทำอาหารอยู่นั้น เรนจิที่อยู่ๆ ก็รู้สึกสงสารพ่อตัวเองขึ้นมา จึงแอบเดินขึ้นไปบนห้องแล้วกดเบอร์โทรออกหาวายุ
“ให้ทายตอนนี้ผมอยู่ไหน” น้ำเสียงเรนจิมีความหยอกล้อนิดหน่อย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้สนใจเลย
“อยู่ไหน”
เรนจิที่เห็นว่าวายุไม่เล่นตัวแม้แต่น้อยก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ผมบอกก็ได้ ตอนนี้หม่ามี๊กำลังทำอาหารอยู่ที่บ้านเรา...” ยังไม่ทันที่เด็กน้อยจะพูดจบ ปลายสายก็ถูกตัดไป
ทำไมพ่อเขาไร้มารยาทเช่นนี้!!!
สิบนาทีต่อมาหลังจากที่วางสายเรนจิ รถของวายุก็ขับมาจอดอยู่หน้าบ้านด้วยความรวดเร็ว ทำเอาพิชญ์สิณีกับธวัฒน์มึนงงไปชั่วขณะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่วายุกลับบ้านเร็ว
ครั้งแรกจริงๆ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมวันนี้แกกลับบ้านเร็ว” พิชญ์สิณีเอ่ยถามอย่างร้อนรน ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นหรอกนะ
“หิว” คำเดียวสั้นๆ ได้ใจความ
เรนจิที่อยู่ในครัวกำลังดูยี่หวาทำอาหาร พอได้ยินเสียงวายุก็เดินออกมาด้วยท่าทางของผู้ชนะ “ทีหลังอย่าทำแบบนั้นกับผมอีก” อย่าขังเขาไว้ในห้อง ไม่งั้นเขาจะไม่ช่วยพ่อให้ได้เจอหม่ามี๊แล้ว
“อืม” วายุไม่คิดว่าลูกชายตัวเองจะแสบและเจ้าเล่ห์ขนาดนี้
ยี่หวาที่เดินออกมาจากห้องครัวตั้งใจว่าจะมาเรียกพิชญ์สิณีและธวัฒน์ให้ไปทานข้าว ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นวายุ “อ่าวคุณ? งานเสร็จแล้วเหรอคะ”
ผู้ชายคนนี้โกรธที่เธอขับรถเร็ว แต่ตัวเขาเองก็ไม่ต่างกันเลย เพราะดูจากระยะเวลาแล้วเขาคงจะตามมาทีหลังด้วยความเร็วสูง
“อืม” เขาโกหก นี่เป็นครั้งแรกที่วายุต้องเอางานกลับมาทำที่บ้าน ซึ่งมันก็คุ้มเพราะมันทำให้เขาได้เจอเธออีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม