“เราเป็นคนแรกเลยที่พี่แต่งหน้าให้แล้วรู้สึกสบายใจ หน้าเราใสมากอย่างกับผิวเด็กเลยแถมยังแต่งง่ายไม่เปลืองเครื่องสำอางอีก เรามีเคล็ดลับดูแลผิวยังไง” ดีนี่ถามขึ้นขณะที่กำลังแต่งหน้าให้ยี่หวา ถึงแม้หน้าเธอตอนไม่แต่งก็สวยมากอยู่แล้วก็ตาม
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ อาจจะเป็นเพราะอาหารที่ทานมั้งคะ”
“ก็ว่าทำไมเราถึงได้สวยขนาดนี้ ขนาดพี่เป็นผู้หญิงยังเกือบหลงเลย”
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่ว่าถ้าหนังเรื่องนี้ฉายเมื่อไหร่เราต้องกลายเป็นดาราดังแน่เลย” ผู้หญิงคนนี้จะอวยเธอเกินไปแล้ว ไม่รู้จะตอบว่ายังไงแล้ว จึงทำได้แค่ส่งยิ้มให้เบาๆ “ว่าแต่ทำไมเราถึงมาแสดงหนังเรื่องนี้ได้ เพราะเท่าที่พี่ได้ข่าวมาเราไม่ได้เป็นนักแสดงแล้วก็ไม่เคยแสดงหนังด้วย”
“พี่พีชแนะนำมาค่ะ”
“เราสนิทกับพีชเหรอพี่เห็นเรานั่งคุยกัน แถมยังมีเดวิลด้วย รายนี้ปกติเขาไม่เคยคุยกับใครเลยนะ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่เห็นเดวิลคุยกับคนอื่น”
“ปกติหมอนั่นเป็นคนเก็บตัวเหรอคะ” ยี่หวาไม่อยากบอกว่าเป็นน้องสาวของพีรพัฒน์ เธอจึงเบี่ยงเบนไปที่เดวิลแทน
“ยิ่งกว่าเก็บตัวอีก ว่าแต่ทั้งสองคนเป็นอะไรกันเหรอ” นี่สินะวงการบันเทิง อยากรู้อะไรต้องได้รู้
“เพื่อนสมัยเรียนค่ะ”
“ดีจัง ได้เป็นเพื่อนกับเดวิลด้วย น่าอิจฉาสุดๆ ไปเลย…เสร็จล่ะ” ในที่สุดก็แต่งหน้าเสร็จสักที เล่นเอายี่หวาเกร็งไปหมดแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” ยี่หวาขอบคุณเสร็จก็รีบออกมาจากห้องนั้นก่อนที่จะโดนชวนคุยอีก เพราะตามปกติแล้วเธอก็ไม่ใช่คนที่คุยเก่งอยู่แล้ว
พีรพัฒน์ที่เห็นสีหน้ายี่หวาลำบากใจออกมาจากห้องก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น “โดนถามอะไรบ้าง”
“เป็นอะไรกับพี่แล้วก็เป็นอะไรกับเดวิล”
“พี่ว่าแล้วว่าเราต้องโดนถามเรื่องนี้แน่”
“หวาแสดงแค่เรื่องนี้นะ หวาไม่อยากเป็นดารา” ขืนเธอไปเป็นดาราแล้วโดนถามแบบนี้ทุกวันได้ประสาทกินแน่ๆ
พีรพัฒน์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ก็นะ”
“อะไรคือก็นะ พูดมาให้ชัดๆ นะพี่พีช”
“ไม่มีอะไรครับ” เขาไม่มีทางบอกเด็ดขาดว่าเมื่อครู่ผู้กำกับเพิ่งเดินมาบอกเขาว่าจะให้จะให้ยี่หวาแสดงหนังภาคต่อจากเรื่องนี้
“บอกมานะพี่พีช” ยี่หวาเอื้อมมือไปดึงแขนพีรพัฒน์ ส่วนเขาก็หันกลับมาขยี้หัวยี่หวา “ผมยุ่งหมดแล้ว พี่ดีนี่เพิ่งทำผมให้ใหม่เองนะ”
“พี่ลืมไปเลย โทษที มาๆ เดี๋ยวจัดให้ใหม่” พีรพัฒน์ลูบหัวยี่หวาเพื่อจัดทรงผมเธอให้เหมือนเดิม ซึ่งการกระทำของทั้งสองคนตอนนี้ตกอยู่ในสายตาของผู้คนที่อยู่ในสตูดิโอ
“ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับพีชเกินไปหรือเปล่า”
“คิดจะจับพี่พีชหรือไง”
“สวยซะเปล่า คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงแบบนั้น”
ยี่หวาชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงจากผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง ทำไมพวกเขาถึงคิดแบบนี้ไปได้ กิริยาท่าทางของเธอดูเป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ
เดวิลที่กำลังเดินมาหายี่หวาได้ยินเข้าพอดี รีบหันขวับพร้อมส่งสายตาอันโหดเหี้ยมไปให้ผู้หญิงกลุ่มนั้นก่อนจะตะโกนขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “ปากว่างมากก็หาอะไรยัด!”
ผู้หญิงพวกนั้นถึงกับหุบปากแทบไม่ทัน ถึงแม้ว่าพวกเธอจะเคยได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าเดวิลน่ากลัวขนาดไหน แถมไม่เกรงใจใคร แต่ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับตัวเพราะตามปกติก็ไม่มีใครกล้าไปรบกวนเขาอยู่แล้ว
“ไม่ต้องไปสนใจ” พีรพัฒน์พูดปลอบ พร้อมกับเอามือทั้งสองข้างไปปิดหูเธอ เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กหรือไง ถึงคิดว่าทำแบบนี้แล้วเธอจะไม่ได้ยิน
“ไม่เป็นไรหรอก เธอมีภูมิคุ้มกันเยอะ เพราะสมัยเรียนช่วงแรกก็โดนบ่อยๆ” เดวิลหันไปคุยกับพีรพัฒน์ด้วยท่าทางสบายๆ ผิดกับเมื่อครู่ลิบลับเลย
หมอนี่เป็นคนสองบุคลิกหรือเปล่า
พีรพัฒน์หน้าเสียทันทีที่ได้ยิน ยี่หวาที่เห็นดังนั้นจึงส่ายหัวไปมา “หวาไม่เป็นไร เหมือนจะมีภูมิคุ้มกันอย่างที่เดวิลบอกจริงๆ นั่นแหละ ก็แค่สงสัยเฉยๆ ว่าทำไมพวกเขาถึงคิดแบบนั้น”
“ก็แค่พวกขี้อิจฉา ไปกันเถอะ” เดวิลพูดจบก็โอบไหล่ยี่หวาให้เดินตามเขาไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม