พอกวินเดินไปพีรพัฒน์ก็หันไปคุยกับยี่หวา “ทำไมถึงไม่อยากเล่นหนัง เราก็ดูชอบมันด้วยนะ แถมยังเล่นออกมาได้ดีมากอีก เพราะตั้งแต่ที่เราแสดงมายังไม่โดนเทคเลย”
“หวายังมีงานอื่นที่ต้องทำ ปกติชีวิตของหวาก็ไม่ได้ว่างอยู่แล้ว แถมอีกไม่กี่เดือนก็ต้องจัดโชว์แล้วด้วย แล้วก็สิ้นเดือนนี้ต้องเปิดบูติคใหม่อีก”
“เราก็แค่รับเล่นหนังอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องรับงานโฆษณาหรือถ่ายรายการ เพราะปกติหนังก็ไม่ได้ถ่ายกันบ่อยๆ อยู่แล้ว” พีรพัฒน์ยังคงเซ้าซี้ไม่หยุด จนยี่หวาเริ่มสงสัยแล้ว
“ทำไมพี่พีชถึงอยากให้หวาเป็นดารา บอกเหตุผลมาตามตรงนะ”
พีรพัฒน์ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ก็เราอย่าลืมสิว่าผู้หญิงคนนั้นก็เป็นดารา เราไม่คิดจะสู้กลับบ้างเหรอ เพราะถ้าเราเป็นดาราเต็มตัวพี่เชื่อว่าเราจะต้องดังกว่าผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ”
เดวิลที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นแทรก “ฉันเห็นด้วย เมื่อก่อนเธอโดนยัยนั่นแกล้งบ่อยมาก เธอควรโต้ตอบกลับไปบ้าง ไม่ใช่คอยหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้”
“แต่ว่าฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวงการนี้เลย แถมยังไม่รู้จักใครเลยด้วย”
เดวิลส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้” เพราะปกติเขาก็ไม่ได้สนใจใครที่ไหนอยู่แล้ว แม้แต่พีรพัฒน์เองเดวิลก็ยังไม่สนใจ
ยี่หวาถึงกับทำหน้าเอือมระอาก่อนจะหันไปหาพีรพัฒน์ ซึ่งพีรพัฒน์ก็รู้ได้ทันทีว่าน้องสาวเขาต้องการอะไร สมแล้วที่เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา “ไม่ต้องห่วงพี่จัดการเอง”
“นี่สมุดวาดรูปของเธอ” เดวิลยื่นสมุดสเก็ตซ์ภาพให้ยี่หวา “แต่ฉันจำได้ว่าเธอมีอีกหลายเล่ม เธอลองถามคุณวายุดู บางทีเขาอาจจะเก็บเอาไว้ก็ได้”
“ขอบใจมาก” ยี่หวารับสมุดมาแล้วเปิดดูข้างใน ซึ่งมีภาพร่างชุดเต็มไปหมด แบบนี้คอลเลคชั่นหน้าเธอก็สบายเลยสิ เพราะแบบที่เธอเคยวาดไม่ได้แย่เลยแค่ต้องมาปรับแต่งเพิ่มนิดหน่อย
“เมื่อเช้าพ่อกับแม่ฉันถามว่าเมื่อคืนไปดื่มกับใคร ฉันก็เลยบอกว่าไปกับเธอ พวกเขาดีใจมากที่เธอกลับมาแล้ว เพราะงั้นพวกเขาอยากเจอเธอ”
“เมื่อวานทั้งสองคนไปดื่มกันมาเหรอ เราไม่ได้มอมเหล้าเดวิลใช่ไหม” พีรพัฒน์มองยี่หวาด้วยสายตาจับผิด เพราะเขารู้ดีว่าระดับการดื่มของน้องสาวเขาไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป
“พี่ก็รู้เหรอว่าเธอคอแข็ง”
“รู้ดีเลยล่ะ นายคิดผิดแล้วที่ไปดื่มกับเธอ”
“ผมก็คิดแบบนั้น” น่าอายจริงๆ ที่ต้องให้ผู้หญิงพากลับบ้าน เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเมาจนหลับไป ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะนอนพักสายตาเฉยๆ
“งั้นฉันกลับก่อนนะ ส่วนเรื่องแสดงหนังหวาตกลง ฝากพี่พีชไปบอกผู้กำกับให้ด้วยค่ะ” เพราะถ้าหนังเรื่องนี้ฉายออกไป บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่อยู่เฉย ดังนั้นเธอก็ต้องตั้งรับเพื่อที่จะโต้กลับ
“ต้องแบบนี้สิ เดี๋ยวพี่หาผู้จัดการให้ ถ้าหาได้แล้วพี่จะโทรไปบอก ส่วนสังกัดเราเข้าสังกัดพี่แล้วกัน เดี๋ยวพี่คุยกับทางบริษัทให้ไม่ต้องห่วง”
“โอเคค่ะ”
ทันทีที่ยี่หวาเดินออกไปแล้ว เดวิลก็รีบหันไปพูดกับพีรพัฒน์ “สังกัดเราผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ใช่ไหม”
“ใช่ แต่เธอยังได้แสดงแค่บทนางร้ายกับตัวประกอบ ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ว่ายี่หวาได้แสดงเป็นนางเอกจะต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ ว่าแต่นายเล่ามาให้หมดเลยนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับยี่หวาสมัยเรียนบ้าง ฉันรู้ว่านายเล่าให้ยี่หวาฟังไปบ้างแล้ว เพราะงั้นเธอถึงได้ตอบตกลงแสดงหนัง”
“ก็ได้”
หลังจากที่ยี่หวาออกมาจากสตูดิโอก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสาม ใกล้เวลาที่เรนจิจะเลิกเรียนแล้ว ไม่รอช้ายี่หวารีบโทรไปหาวายุทันที
ถึงแม้ว่าตอนนี้วายุกำลังคุยธุรกิจหลายพันล้านอยู่ แต่เขาก็ไม่ลังเลที่จะเดินออกมาจากห้องประชุมเพื่อรับสายหญิงสาว “เธอทำงานเสร็จแล้วเหรอ”
“ใช่ค่ะ วันนี้ฉันขอไปรับเรนนะคะ”
“งั้นฉันฝากเธอไปส่งเรนที่บ้านหน่อย พอดีฉันกำลังคุยงานอยู่ไม่รู้เสร็จกี่โมง”
“ฮะ? คุณกำลังคุยงานอยู่เหรอ ฉันขอโทษที่โทรไปรบกวนค่ะ ทีหลังคุณจะตัดสายฉันก็ได้นะคะ งั้นฉันไม่กวนคุณแล้ว แค่นี้นะคะ” ว่าจบยี่หวาก็กดวางสายทันที
วายุได้แต่ส่ายหัว เขาไม่ควรพูดแบบนั้นเลย แล้วคราวหน้าเธอจะกล้าโทรมาหาเขาอีกไหม นิสัยเธอยิ่งเป็นคนขี้เกรงใจอยู่ด้วย
พอยี่หวาวางสายจากวายุก็ขับรถมายังโรงเรียนอนุบาลทันที แต่เมื่อเธอก้าวขาลงมาจากรถก็ต้องรู้สึกแปลกๆ ทำไมผู้ปกครองคนอื่นๆ ถึงได้ถือโทรศัพท์มาทางเธอ เหมือนกับว่าพวกเขาต้องการจะถ่ายรูปเธออย่างนั้นแหละ
แต่แล้วความสงสัยของยี่หวาก็หายไปเมื่อมีผู้หญิงท่านหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ “ขอโทษนะคะ พอดีฉันอยากจะขอถ่ายรูปเธอเก็บไว้หน่อยได้ไหม”
ทำไมผู้หญิงคนนี้ต้องมาขอถ่ายรูปเธอด้วย หนังที่เธอเล่นยังไม่ฉายสักหน่อย แถมเธอก็ยังไม่ใช่ดาราด้วย “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เมื่อวานที่เธอไม่ได้มารับลูก รู้ไหมว่าเด็กคนอื่นๆ ไม่ยอมกลับบ้านกันเลยแต่พอพวกเขาเห็นเธอในโทรศัพท์ก็พร้อมใจกันกลับบ้านทันที”
“เอ่อ…” นี่เธอมีอิทธิพลกับเด็กๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงว่าทำไมเมื่อวานเด็กยังดูเยอะทั้งที่เลิกเรียนได้สักพักแล้ว “ฉันขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ลำบาก”
“เธอไม่ผิดหรอก เด็กๆ ติดเธอมากจนเกินไปเอง ถ้าอย่างนั้นฉันขอถ่ายรูปเธอเก็บไว้หลอกให้ลูกกลับบ้านหน่อยนะ เผื่อวันไหนเธอไม่ได้มารับลูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม