ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม นิยาย บท 67

“ฉันเห็นว่าเธอสนิทกับเรน เลยอยากจะแนะนำแม่ของเรนให้รู้จัก เสียดายครั้งที่แล้วยังไม่ทันได้แนะนำเพราะเธอกลับไปก่อน” พิชญ์สิณีแสยะยิ้มมุมปาก เธอเอาแต่จ้องหน้ายี่หวาจนไม่ทันได้สังเกตว่าตอนนี้ดาหลาหน้าซีดเผือดแล้ว

“เธอ…เธอคือ…” ดาหลาพูดตะกุกตะกัก ถลึงตาโตมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

พิชญ์สิณีได้แต่ยืนงง ทำไมดาหลาถึงได้ดูตกใจขนาดนี้ ทั้งที่คนที่ควรตกใจต้องเป็นยี่หวามากกว่า “พวกเธอทั้งคู่รู้จักกันเหรอ”

เรนจิที่เห็นว่าทุกคนกำลังเหม่อ เขาก็รีบหันหลังกลับเพื่อที่จะไปโทรบอกพ่อว่าหม่ามี๊ถูกรังแก แต่ก็ถูกพิชญ์สิณีดึงตัวไว้ก่อน “หลานยืนอยู่ตรงนี้เฉยๆ อย่าคิดว่าย่าไม่รู้ว่าเรนจะไปโทรหาพ่อ”

“คุณย่าปล่อยผม!” เรนจิตะโกนด้วยความโกรธ แต่พิชญ์สิณีก็ไม่สนใจหันไปพูดกับทั้งสองคนต่อ

“สรุปว่าพวกเธอรู้จักกันเหรอ”

ยี่หวาที่เห็นว่าดาหลานั่งตัวแข็งหน้าซีดเผือดไม่ยอมพูด เธอจึงเป็นฝ่ายพูดแทน “ฉันย่อมต้องรู้จักน้องสาวของตัวเองอยู่แล้วค่ะ”

“เธอ…พี่สาว…พี่สาวเหรอ พี่ไม่ได้ตายไปแล้วเหรอ” ตอนนี้ดาหลาสติหลุดไปแล้ว เป็นไปได้ยังไง ทำไมผู้หญิงตรงหน้าเธอถึงกลายเป็นยี่หวาได้

“ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นล่ะ” ยี่หวาถามด้วยท่าทีสบายๆ เพราะไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอจำหล่อนไม่ได้สักนิด

“ก็พี่ขับรถตกหน้าผา แถมยังหายไปตั้งสี่ปี”

“นั้นสิ ฉันหายไปตั้งสี่ปีแต่เธอกลับดูไม่ดีใจที่ได้เจอฉันเลยนะ”

สติดาหลาเริ่มกลับมา เพราะตอนนี้เธอยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงพิชญ์สิณีจึงรีบลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเข้าไปกอดยี่หวา “ทำไมฉันจะไม่คิดถึงพี่ล่ะ ฉันคิดถึงพี่มากเลย คุณพ่อก็คิดถึงพี่เหมือนกัน พี่หายไปไหนมา”

“เดี๋ยวนะ? ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันเหรอ”

ดาหลาผละออกจากยี่หวาใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา ก่อนจะหันไปตอบพิชญ์สิณีด้วยท่าทางเสียใจ “ใช่ค่ะคุณแม่ นี่คือพี่สาวแท้ๆ ของฉันเองค่ะ”

“คนละแม่กัน” ยี่หวาพูดแทรกขึ้นอย่างไม่ไยดี

“ทำไมบังเอิญขนาดนี้ เพราะแบบนี้สินะเรนถึงได้ติดเธอมาก ที่แท้ก็เพราะเป็นครอบครัวเดียวกันตั้งแต่แรก” พิชญ์สิณีเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแล้ว

“คุณแม่คะ ฉันขอคุยกับพี่สาวตามลำพังได้ไหมคะ”

“ได้สิ ตามสบายเลย ไม่ได้เจอกันนานคงมีเรื่องอยากจะพูดกันเยอะสินะ”

“ขอบคุณค่ะ”

ดาหลาจูงมือยี่หวาไปทางด้านหลังบ้าน และเมื่อเธอเห็นว่ารอบๆ ไม่มีใครแล้วจึงสะบัดมือยี่หวาทิ้งอย่างไม่ไยดี แล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง “ถ้าจะหายไปแล้วก็หายไปสิ กลับมาทำไมอีก”

“ฮึ” ยี่หวาหัวเราะในลำคอ แค่นเสียงเหยาะๆ “ไม่แสดงละครต่อแล้วเหรอ กำลังสนุกเลย ผู้หญิงบอบบางคนเมื่อกี้ไปไหนแล้ว” สมแล้วที่ผู้หญิงคนนี้เป็นดารา แสดงละครเก่งจริงๆ

“ไม่ต้องมาพูดมาก! เรนไม่ใช่ลูกของแก อย่ามายุ่งกับเรนอีก เพราะไม่ว่าแกจะหลอกล่อเรนยังไงพอเรนโตเขาก็จะต้องลืมแกอยู่ดี” ดาหลาพูดอย่างเย้ยหยัน ใบหน้าราวกับเป็นผู้ชนะอย่างไรอย่างนั้น

ส่วนยี่หวาที่ได้ยินดังนั้นใบหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้เธอรู้ดีอยู่แล้ว ตอนนี้เรนจิยังเด็กเขาก็แค่ชอบเธอมาก แม้ตอนนี้เขาจะอยู่ข้างเธอแต่ถึงยังไงดาหลาก็เป็นแม่แท้ๆ ของเขา ยังไงเขาก็ต้องเลือกที่จะอยู่กับแม่ตัวเองวันยังค่ำ

“มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม” ยี่หวาทำเป็นไม่สนใจ ข่มความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว แล้วก็ไม่ต้องห่วงฉันไม่มีทางกลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้นแน่” ว่าจบยี่หวาก็เดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปทันทีโดยไม่ได้สนใจเรนจิที่ยืนรอเธออยู่หน้าประตู

ทว่าในขณะเดียวกันนั้นเอง ธวัฒน์ที่เดินออกมารับลมก็ได้เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ทั้งหมด หญิงสาวที่เขารู้จักมาหลายปีที่แท้ก็เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก แสดงว่าลูกชายเขาต้องรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้วถึงได้มีท่าทีไม่สนใจเธอเลย

ดาหลาได้แต่กำมือแน่น กรามขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน เพราะตอนนี้ยี่หวาสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แถมก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าคุณวายุก็สนใจยี่หวาไม่ต่างจากเรนจิ ไม่ได้การล่ะเธอไม่มีทางยอมให้ยี่หวามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอแน่

ไม่รอช้าดาหลารีบหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์โทรหาญาณิศาทันที “คุณแม่คะ!”

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมน้ำเสียงลูกดูอารมณ์ไม่ดีเลย วันนี้คุณหญิงเรียกให้ลูกไปหาไม่ใช่เหรอ” ญาณิศาเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ใช่ค่ะ แล้วแม่รู้ไหมว่าดาเจอใคร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม