[ตอนที่ 79 อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใคร] – ตอนที่ต้องอ่านของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม
ตอนนี้ของ ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม โดย -BUTTER- ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง [ตอนที่ 79 อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใคร] จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ขณะที่พีรพัฒน์กำลังยืนคุยกับควิลเลอร์อยู่นั้นเสียงพิธีกรก็ดังขึ้น “ลำดับต่อไปขอเชิญคุณธาราธร พิทวัสชญวงศ์ ขึ้นกล่าวเปิดพิธีค่ะ” สิ้นเสียงพิธีกร ทุกคนต่างก็ปรบมือต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง
“สวัสดีครับ วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานนี้ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าพี่ผมเป็นคนเก็บตัว งานแบบนี้ก็เลยกลายเป็นหน้าที่ผมแทน” ธาราธรพูดพร้อมกับเหลือบมองไปทางวายุที่กำลังนั่งมองเขาอยู่เช่นกัน ช่างน่าขันจริงๆ ทั้งที่พี่เขาก็นั่งอยู่ตรงนั้น แต่กลับไม่มีใครรู้ตัวเลยสักนิด
“สำหรับแบรนด์เฮอเซนในที่นี้ใครหลายคนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งมันยากมากที่จะได้แต่ละชุดมาครอบครอง โดยเฉพาะชุดที่มาจากห้องเสื้อโอกูตูร์ ตอนแรกที่รู้ข่าวว่าเฮอเซนจะเข้ามาทำการตลาดในไทย ทางเราก็รีบยื่นเอกสารขอเป็นตัวแทนจำหน่ายทันที ดังนั้นการที่ทางเราได้ถูกเลือกเป็นตัวแทนจำหน่ายเจ้าแรกของเมืองไทยจึงรู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ ขอบคุณครับ”
สิ้นเสียงธาราธรผู้คนต่างก็ปรบมือให้เขาอีกครั้ง พอธาราธรลงจากเวทีเสียงของพิธีกรก็ดังขึ้น
“ลำดับต่อไปขอเชิญตัวแทนขึ้นกล่าวอะไรสักเล็กน้อยค่ะ”
อมีเลียเดินขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสายตาผู้คนที่กำลังคงคิดว่าเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ ซึ่งเธอเองก็ชินแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเจ้านายก็เป็นคนให้เธอขึ้นกล่าวแทนตลอด
“สวัสดีค่ะ ดิฉันอมีเลีย เป็นตัวแทนของท่านประธานอยากจะกล่าวขอบคุณ ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับพิทวัสชญวงศ์ ขอบคุณที่ไว้วางใจร่วมงานกับเฮอเซน ทางเราจะไม่ทำให้ต้องผิดหวังค่ะ”
สิ้นเสียงอมีเลียผู้คนที่กำลังยืนอยู่ข้างล่างก็เกิดเสียงดัง
“เป็นอย่างข่าวลือจริงๆ ที่ว่าซีอีโอของแบรนด์นี้ไม่ยอมเปิดเผยตัว อยากรู้จริงๆ ว่าใครเป็นเจ้าของแบรนด์ จะต้องเป็นคนที่สุดยอดมากแน่ๆ”
“เธอจะไปรู้จักได้ยังไง อย่าลืมนะว่าแบรนด์นี้เป็นของประเทศอาร์ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยมาก”
ตอนนี้วายุเอาแต่นั่งมองซ้ายมองขวา เพราะเมื่อเช้าเขาเห็นยี่หวาออกมาจากบ้าน แสดงว่าเธอต้องมาร่วมงานนี้แน่ แต่ทำไมจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นเธอสักที
ส่วนธาราธรที่เห็นดังนั้นก็อยากจะเข้าไปถามพี่เขาว่ากำลังมองหาใคร แต่พี่เขาสั่งไว้แล้วว่าห้ามพูดกับเขาในงานนี้ ไม่รู้ว่าจะเก็บตัวไปถึงไหน พอๆ กับเจ้าของแบรนด์นี้เลย
ภายด้านนอกงานดาหลาที่สวมผ้าปิดปากกับแว่นกันแดดได้แต่ยืนกำมือแน่น ทำไมเธอถึงไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่าย และคนที่ได้กลับเป็นรุ่นพี่ธาราธรเนี่ยนะ ทำเป็นพูดว่าคุณวายุเก็บตัว อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจแบรนด์เสื้อผ้าด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดเลยว่าที่ได้เลือกก็เพราะนามสกุลพิทวัสชญวงศ์ คอยดูเถอะอีกไม่นานก็ไปไม่รอด
จากนั้นดาหลาก็ไม่อยากอยู่ต่อหมุนตัวเดินออกไปก่อนจะโทรหาคนผู้เป็นแม่ “แม่! ดาอยากเปิดแบรนด์เสื้อผ้าเอง แม่ช่วยหาดีไซเนอร์ให้ดาหน่อย ดาจะทำให้เฮอเซนรู้ว่าคิดผิดที่ไม่เลือกดา”
“จัดไปลูก เงินทุนแม่ทุ่มไม่อั้น”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
ยี่หวาที่พยายามเหลือบมองข้างนอก เมื่อไม่เห็นดาหลาแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ในที่สุดก็ไปสักที เธอจะได้ออกไปจากคลังเก็บของนี้
และเมื่อยี่หวาเดินออกมาแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายก็เริ่มทยอยกันกลับ ร้านเริ่มเปิดให้คนภายนอกเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ทำให้ตอนนี้ภายในร้านแน่นมาก ยี่หวาจึงเดินออกมาจากร้านได้อย่างแนบเนียน และวินาทีต่อมาขาข้างขวาของเธอก็ทรุดเหมือนกับว่ามีอะไรมาเกาะ
พอยี่หวาก้มหน้าลงไปมองก็เห็นเรนจิที่ดูเหมือนว่าจะอารมณ์ไม่ดี เธอจึงรีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นไว้ในอ้อมกอด “คนเก่ง! มาได้ยังไงจ๊ะ แล้วนี่มากับใคร”
“พ่อหลอกผมว่าจะพาออกมาหาหม่ามี๊ แต่พอผมรู้ตัวอีกทีพ่อก็หายไปแล้ว ทิ้งผมให้อยู่กับอาพัฒน์ และผมที่กำลังเดินตามหาพ่อก็มาเจอหม่ามี๊เข้านี่แหละ” เรนจิพูดพร้อมกับทำสีหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรมใส่พิพัฒน์ เลขาของวายุ ก่อนจะหันมาขอความเห็นใจอย่างออดอ้อนจากยี่หวา
ส่วนพิพัฒน์ตอนนี้ได้แต่นิ่ง สีหน้าเห็นได้ชัดว่ากำลังตกตะลึง เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วินาทีเรนจิรีบวิ่งไปกอดขาของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาไม่รอช้ารีบวิ่งตามมาทันที แต่คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะดูสนิทกับคุณชายน้อยอยู่ก่อนแล้ว แถมคุณชายน้อยยังเรียกเธอว่าหม่ามี๊อีก เขาจำได้ว่าแม่ของคุณชายน้อยคือคุณดาหลา แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่!
พิพัฒน์เองก็อยู่กับท่านประธานตลอด ไม่ยักรู้ว่าเขาจะปล่อยให้ลูกชายสนิทกับผู้หญิงคนอื่นด้วย หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนเดียวกับคนที่มาหาท่านประธานที่บริษัทเมื่อคราวก่อน…
ยี่หวาหันไปมองด้านในร้านตามพีรพัฒน์ ก็พบว่ามีทั้งผู้หญิงผู้ชายกำลังถือชุดไว้เต็มมือ ส่วนมือที่ว่างก็ทำการหยิบอีกชุดโดยไม่ลังเลเลย ทั้งที่แต่ละชุดไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น ยิ่งชุดที่เป็นเซ็ทไม่ต่ำกว่าแสน “ไม่คิดเลยว่าจะขายดีขนาดนี้”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ไปทำงานต่อล่ะ เราเองต่อไปก็ระวังตัวหน่อยนะ อย่าลืมว่าตัวเองเป็นใคร” คงจะเตือนเรื่องเรนจิสินะ เพราะถ้าวันหนึ่งเธอเป็นที่รู้จักของประชาชน การทำแบบนี้อาจจะไม่เป็นผลดีสักเท่าไหร่
“รู้แล้วค่ะ” พอพีรพัฒน์เดินไปยี่หวาก็ก้มหน้าลงไปคุยกับเรนจิ “วันนี้คนเก่งอยากไปเที่ยวกับหม่ามี๊ไหม”
เพราะหลายวันที่ผ่านมานี้ยี่หวาแทบจะไม่มีเวลาให้เรนจิเลย ได้เจอก็แค่ตอนนอนเท่านั้น เพราะบูติคใหม่ที่ใกล้เปิด แถมบูติคอีกที่ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว
“ไปครับ เรนอยากไป” เรนจิรีบพยักหน้า อย่างน้อยๆ ก็เป็นการช่วยรักษาแผลใจจากเมื่อครู่ที่โดนพ่อตัวเองทิ้งได้ดีเลย
“งั้นเดี๋ยวหม่ามี๊ขอส่งข้อความไปบอกพ่อเรนก่อนนะ” เพราะอยู่ๆ จะพาลูกชายเขาไปในที่แบบนั้น อย่างน้อยก็ต้องขออนุญาตก่อน
[ยี่หวา : ฉันขอพาเรนไปเที่ยวนะ]
รอเพียงไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาอย่างกับว่ารอข้อความจากเธออยู่ก่อนแล้ว
[วายุ : ไปด้วย]
เอ่อ...เอาจริงดิ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้หญิงคนนี้คือหม่ามี๊ของผม