หลังจากที่พวกเพื่อนๆของผมมันสั่งเครื่องดื่มเสร็จ ผมก็เดินมาที่เคาว์เตอร์ที่ตอนนี้มีไมโลยืนรับออเดอร์อยู่ ผมจึงส่งเมนูออเดอร์ไปให้เธอ
"มอลค่าหวานน้อย เพราะเบื่อชีวิตติดหวานแล้ว"
"ลาเต้หวานพอดี อย่าหวานมากล่ะ กูไม่อยากเป็นเบาหวาน"
"คาปูชิโนหวานน้อยเน้นมัน ชีวิตไม่ติดหวานแต่ชอบความมันส์"
"แอปเปิ้ลปั่น ชีวิตนี่ยกให้เธอคนเดียว"
หลังจากที่ไมโลรับออเดอร์จากผม ก่อนจะทวนเมนูที่ผมเขียนเสร็จ และเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม จนผมสงสัยว่าผมเขียนอะไรผิด
"มีอะไรหรือเปล่าครับ??" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยที่ไมโลถึงมองหน้าผมแปลกๆ
"ป่าว...จะไปไหนก็ไปเถอะ!!"
หลังจากที่ไมโลไล่ให้ผมไป ผมก็เดินกลับมานั่งร่วมกับพวกเพื่อนๆของผม แต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่า มันต้องมีอะไรแน่ เพราะสายตาที่ไมโลมองมันบอกว่าอะไรสักอย่าง
"เป็นอะไรของมึงว่ะ???" เสียงของไอ้ฟิวเวอร์พูดขึ้น หลังจากที่ผมเดินมานั่งลงข้างๆมัน
"กูแค่สงสัยว่ะ!!??" ผมหันกลับไปตอบคำถามของไอ้ฟิวเวอร์
"สงสัย??...มึงสงสัยอะไร ไหนบอกกะผมมาสิ่.." ไอ้สเวนที่นั่งรอเมียมันคุยกับสาวๆ ก็หันมาถามผมอีกคน
"ก็ตอนที่พวกมึงสั่งและกูก็รับออเดอร์ พอเดินไปที่เคาว์เตอร์ที่พนักงานยืนอยู่ เขาก็ทวนเมนูที่กูเขียนและก็มองหน้ากู"
"เขาอาจจะชอบมึงหรือเปล่า...??" ไอ้แม็ททิวถามและอธิบายตามที่ผมเล่า
"สายตามันไม่ได้บอกว่าชอบกูเลยอ่ะ!!??" ผมจึงหันไปตอบไอ้แม็ททิวมัน สายตาแบบไม่ใช่ว่าชอบผม แต่แบบมันเอือระอามากกว่า
"แล้วมึงเขียนว่าอะไร!!??" ไอ้ฟิวเวอร์ถามผมจึงส่งกระดาษจดออเดอร์ส่งไปให้มันดู และพอมันอ่านเสร็จก็เงยหน้ามามองผม สายตาแบบเดียวกับไมโลที่มองผมเลย
ไอ้ฟิวเวอร์มันก็ส่งกระดาษออเดอร์ไปให้ ไอ้สเวนและไอ้แม็ททิว ปิดท้ายด้วยไอ้เปเปอร์ ก่อนที่มันจะขย่ำทิ้ง
"เฮ้อออ กูล่ะหนักใจจริง!!" เสียงไอ้ฟิวเวอร์พูดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง
"กูไม่น่ามีเพื่อนแบบมึงเลยว่ะ ไอ้คาเรน!!" ตามมาด้วยเสียงของไอ้สเวนที่ส่งสายตาหนักใจและอยากจะเลิกคบกับผม
"ไอ้โง่!!" ปิดท้ายด้วยเสียงของไอ้เปเปอร์ ที่ด่าผมว่า โง่ มันทำให้ผมงงเข้าไปอีกว่าพวกมันเป็นเหี้ยอะไร
"พวกมึงด่ากูทำไมว่ะ!!??" ผมถามพวกมันสามคนอย่างไม่เข้าใจ ที่อยู่ดีๆก็หันมาด่าผมกันซะงั้น
"ใครเขาให้มึงเขียนแบบนี้ว่ะ!!" ไอ้ฟิวเวอร์หันไปอธิบายให้ผมเข้าใจ แต่คำพูดของมันไม่ได้ทำให้ผมเข้าใจได้เลย แต่มันกลับยิ่งงงเข้าไปอีก
"แล้วกูเขียนผิดตรงไหนว่ะ!!??" พอผมลองคิดดูและนึกได้ว่าส่งกระดาษรับออเดอร์ไปให้พวกมันดู
"มึงอ่ะเขียนไม่ผิดหรอ...." เสียงไอ้แม็ททิวพฟุดขึ้นบ้าง
"เห็นไหม!!" ผมตอบก่อนจะยักคิ้วกวนประสาทพวกมันทีละตัว บอกแล้วว่า ผมไม่ผิด
"แต่มึงก็ไม่ต้องเขียนทุกคำพูดของพวกกูก็ได้ ไอ้ควาย!!!" เสียงสเวนพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ นอกจากคุณเพื่อนมันจะไม่สำนึกว่าตัวเองผิดแล้ว ยังทำท่ากวนเบือนล่างมาก
"แล้วพวกมึงจะพูดทำมะเขืออะไรว่ะ!!" ผมหันไปว่าพวกมึงอย่างไม่สำนึก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความผิดของผมก็ตาม แต่ถ้ามันไม่พูดออกแล้วสั่งดีๆตั้งแต่แรกก็จบ
"นี่พวกกูผิดหรอ!!??" เสียงประสานตอบพอกันของพวกเพื่อนผมและชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง เป็นการบอกว่า กูผิดใช่ไหม
"รู้ตัวก็ดี!!"
ผัวะ!! ผัวะ!!
"โอ้ยยยยย....เจ็บๆๆ...โอ้ยยยย" หลังจากผมพูดเสร็จฝ่ามือของพวกมันก็มาลงที่หัวผมคนละที จึงผมสะดุ้งแล้วร้องออกมาอย่างเจ็บ มือหรือตีนว่ะ!! มือโคตรหนักเลย
"นี่!! สเวนหยุดแกล้งพี่คาเรนนะ!! กูบอกให้หยุดไง!!" ฮาโมนี่ที่ตอนแรกนั่งคุยกับพวกเพื่อนของเธอ แต่เพราะเสียงร้องของผมมันทำให้เธอหันมามอง และรีบลุกขึ้นยืนเดินตรงเข้ามาห้ามผัวของเธอที่ทำร้ายร่างกายอันบอบบางของผม
"หยุดๆๆๆ พี่แม็ททิวหยุดนะ ถ้าไม่หยุดหนูให้นอนนอกห้อง!!" ตามมาด้วยเสียงของน้องแอปเปิ้ลที่ดังตามหลังมาและยังหันมาสั่งไอ้แม็ททิวให้หยุดและขู่มันด้วย
"ไม่เอาครับ...ถ้าพี่ไม่ได้นอนกอดเมีย พี่คงตายแน่!!" แม็ททิวที่กำลังช่วยเพื่อนรุมตบหัวไอ้คาเรนก็ต้องชะงักมือ และหันกลับไปร้องออดครางจนคนมองอย่างพวกผม อย่างจะอ้วกกับความเวอร์วังของมัน
"อ้วกกกกกกกกกก!!!!" เสียงอาเจียนของพวกผมร้องขึ้นเสียงดังแบบไม่นัดหมาย จนคนที่ถูกล้อเลียนถึงกลับหันมามองตาดุและชี้หน้า
"เป็นเหี้ยอะไร!!! แพ้ท้องแทนเมียกันหรอว่ะ ไอ้พวกเชี้ยยย!!"
"เมียกูยังไม่ท้อง แค่หมั่นไส้มึงเฉยๆ!!"
"กูยังไม่มีเมียว่ะ!!"
"กูก็ยังไม่มีเหมือนกันว่ะ!!"
"ส่วนกูกำลังจะมี" ผมพูดเสร็จก็เหลือบตาไปมองทางส้มหวานที่ตอนนี้ก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ อ๊า!! คนอะไรก็ไม่รู้ ยิ่งมองยิ่งชอบ ยิ่งมองยิ่งโดน
"เก็บความหื่นหน่อย ไอ้โรคจิต!!" สเวนที่เห็นใบหน้าหื่นปมโรคจิตแต่ดูไปทางโรคจิตมากกว่า
"ยิ้มได้เหี้ยมากอ่ะ!!" ตามมาด้วยเสียงของแม็ททิวที่มองรอยยิ้มของเพื่อนตัวเองอย่างขนลุก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: POTTY3 ลิขิตรัก [END]