ฉันที่นั่งทำงานอยู่ก็ได้ยินเสียงอีรีซี่และส้มจี๊ดกำลังยืนทะเลาะกันอยู่ เธอนั่งกอดอกมองดูว่าอีรีซี่จะจัดการกับส้มจี๊ดอย่างไร
ฉันนั่งมองพวกมันเถียงกันด่ากัน จึงตอนนี้คนในร้านหันมามองกันหมด ส่วนนายคาเรนอะไรนั้นก็ยืนอยู่ข้างๆ
ฉันมองพวกมันก็ถอนหายใจและลุกขึ้นยืนเดินเข้าไปห้อีรีซี่ กูคิดว่าจะได้นั่งทำงานเงียบๆซะแล้ว สงสัยต้องจัดการเองแล้ว
ฉันเดินตรงเข้าไปหาอีรีซี่และส้มจี๊ด พอยังเดินเข้าไปไม่ถึงนายคาเรนนั้นก็ส่งเงินมาให้อีรีซี่และเดินออกไปจากร้าน
"นาย!!!" ฉันตรงไปหาอีรีซี่และมันก็หันมาส่งเงินที่นายนั้นเป็นคนจ่าย ฉันก็รับเงินจากอีรีซี่แต่เงินที่นายนั้นมันจ่ายมาแค่ 100 บาท
ไอ้บ้า!!! จ่ายก็ยังไม่ครบ มึงยังมีหน้ามาบอกว่าไปต้องทอนอีก อีเวรเอย!!!
"ส้มจี๊ด จ่ายมาอีก 20 บาท" ฉันจึงหันไปทวงเงินกับส้มจี๊ดอีก 20 บาทเพราะนายนั้นมันจ่ายยังไม่ครบ
"พี่ส้มหวานพี่ทำแบบนี้ได้ไง หนูเป็นน้องพี่นะแค่กินฟรีร้านพี่มันไม่เจ๊งหรอ" เสียงส้มจี๊ดดังขึ้นอย่างไม่พอใจ ที่ฉันหันไปทวงเงิน
"มันก็ไม่ได้ทำให้ร้านกูเจ๊งได้ แต่มึงเข้ามาเป็นลูกค้า และของที่มึงทานดื่มกันกูก็ต้องซื้อเข้ามาทำไหม อย่างพูดมากจ่ายมา" ฉันบอกและอธิบายกูเปิดร้านไม่ใช้สถานเคราะห์นะ
ของทุกอย่างภายในร้านและไหนจะต้องจ่ายค่าแรงพวกพนักงาน ทุกอย่างมันเป็นเงินเป็นทองหมด
"แค่ 20 บาทพี่ก็ออกเองดิ่" ยัยส้มจี๊ดตอบและทำท่าจะเดินออกจากร้านไป คิดว่ากูจะยอมให้เดินออกไปง่ายๆหรอว่ะ
"ทำไมแค่ 20 บาทมึงไม่จ่าย ที่มึงซื้อของแบรนด์เนมกระเป๋า รองเท้าเป็นหมื่นมึงยังจ่ายได้" ฉันเดินตรงไปจับแขนส้มจี๊ดให้หยุดเดินและกระซากแขนมันให้หันกลับมา
ส้มจี๊ดก็หันกลับมามองหน้าฉันอย่างไม่สบอารมณ์และพยายามบิดแขนออกจากมือฉัน ฉันจึงออกแรงบีดแขนจนส้มจี๊ดร้องเสียงดัง
"โอ้ยย!!! เจ็บนะพี่ส้มหวาน!!!???"
"จ่ายมา!!!"
"โอ้ยยย!!! เอาไป" ยัยส้มจี๊ดเปิดกระเป๋าแบรนด์เนมและหยิบเงินส่งมาให้ฉัน ฉันจึงยอมปล่อยมืออกจากแขนมัน
"ก็แค่นั้น!!" ฉันก็รับเงินจากส้มจี๊ดและปล่อยมือออกจากแขนยัยส้มจี๊ดเป็นอิสระและมันก็เดินตูดบิดออกจากร้าน
"ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เชิญนั่งทานนั่งดื่มกันต่อได้เลยค่ะ" ฉันหันไปบอกลูกค้าทุกคนที่ตอนนี้หันมามองพวกฉัน
ฉันจึงขอโทษขอโพยและก็เดินกลับมาทำงานต่อที่โต๊ะและอีรีซี่ก็เดินตามฉันมานั่ง ฉันก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
"อีเถื่อน!! กูมีอะไรจะเม้าเว้ย!!" พอมันนั่งลงอีรีซี่ก็พูดด้วยน้ำเสียงแบบคนอย่างจะเม้าคันปากอย่างพูดออกมา
"มีอะไรอีก!!??" ฉันเงยหน้าขึ้นมองอีรีซี่และเห็นมันนั่งยิ้มกรุ้งกริ่ง คือมึงยิ้มแบบนี้หรืออะไรว่ะ
"ตอนแรกกูก็ไม่อยากจะพูดจริงๆนะเว้ย" อีรีซี่พูดไปยิ้มไปและนั่งบิดไปบิดทำเหมือนคนไม่อยากจะพูดแต่จริงๆอยากพูดซิบ
"นั้นก็ไม่ต้องพูด" ฉันที่ได้ยินอีรีซี่บอกและก็ไม่สนใจว่าตอนนี้มันทำหน้าทำตาแบบไหน
"อีเหี้ย!! มึงสนใจกูนิดนึงดิ่" อีรีซี่โวยวายที่ฉันไม่สนใจมัน จึงมันปิดโน๊ตบุ๊คตรงหน้าฉันลงทันที
"อะไรอีกว่ะ!!??" ฉันที่ก้มหน้าก้มตาทำงานก็ต้องเงยขึ้นมองหน้าอีรีซี่ที่มองมาอย่างไม่พอใจ
"มึงไม่อยากรู้หรอว่ากูจะบอกอะไร??" อีรีซี่ถามอย่างสงสัยที่ฉันตอบอย่างไม่ค่อยใส่ใจเรื่องที่มันอยากจะบอกเลย
"อยาก!! แต่มึงบอกว่าไม่อยากจะพูดกูก็เลยไม่อยากล่ะ" ฉันก็บอกตามความจริง อยากรู้นะว่ามึงจะพูดอะไรแต่ตอนนี้ไม่อยากล่ะ มันเสือกเล่นลิ้ม
"อีดอก!! มึงก็ง้อกูนิดนึงดิ่ ไม่ได้รึไงว่ะ!!??" อีรีซี่โวยวายเสียงดังที่ฉันไม่ยอมง้อยอมถามมันเลยที่มันอยากจะพูด
"จำเป็น??" ฉันนั่งกอดอกถามมันอย่างไม่เข้าใจ คือก็ต้องง้อต้องถามมึงใช่ไหมอีกระเทย
"เออ!! กูจะบอกมึงเรื่องยัยส้มจี๊ดกับพี่คาเรนผัวกู" อีรีซี่ยอมแพ้และยอมบอกเรื่องที่มึงคันปากอยากจะพูดเต็มทน
"ทำไม?? และนายนั้นมันไปเป็นผัวมึงตอนไหน!!??" ฉันถามอยากสงสัยว่าเกี่ยวอะไรกับส้มจี๊ดและนายนั้นด้วย
"ก็ยัยน้องสาวมึงมันขี้มโนไง" อีรีซี่บอกและฉันก็มองมันอยากงง ตกลงว่าสองคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วทำไมยัยส้มจี๊ดถึงพูดแบบนั้น
"แล้วไง เข้าเรื่องเถอะ!!" ฉันรีบบอกให้อีรีซี่มันเข้าเรื่องซะทีจะอ้อมล้อมโลดไปเพื่ออะไร คือมันไม่ตื่นเต้นแล้วพูดให้มันดูน่าสนใจ
"ที่ยัยส้มจี๊ดมันบอกว่าเป็นแฟนกับพี่คาเรนผัวกู กูมองปราดเดียวกูก็รู้ล่ะ" อีรีซี่บอกอยากภาคภูมิใจที่มองออกว่าสองคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกันนายนั้นไม่ได้เป็นแฟนกับยัยส้มจี๊ด
"เหมือนมึงเลย" ฉันบอกอีรีซี่ ว่าที่มึงว่ายัยส้มจี๊ดมโนเป็นแฟนแต่มึงก็มโนว่าเขาเป็นผัวมึง
"อีชะนีเถื่อน อีดอก นั้นปากมึงหรออีเหี้ย กัดกูอีกแล้ว!!!" อีรีซี่และยกมือทำท่าจะตบฉันก่อนจะนั่งกอดอกทำหน้าบูดบึ้ง
"หมดเรื่องจะคุยจะเม้ายัง!!??" ฉันกอดอกถามอีรีซี่ที่ตอนนี้นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: POTTY3 ลิขิตรัก [END]