หลินโย่วหชิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แต่ว่า... เมื่อก่อนเขาพาแต่หลินเอินเอินไปออกงานด้วย เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน แบบนี้ถึงจะมีประโยชน์ต่อโป๋ซื่อ กรุ๊ป เขาจะพาหนูไปด้วยเหรอคะ”
โจวหย่าลี่ยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน”
“อืม?”
เธอดึงหลินโย่วหชิงนั่งลง “เมื่อก่อนหลินเอินเอินเป็นใคร? แต่ตอนนี้คุณพ่อของหนูแย่งทรัพย์สินของพวกเขามาหมดแล้ว หลินเอินเอินไม่เหลืออะไรแล้ว ตอนนี้หนูคือคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลิน เข้าใจไหม”
“แต่ถ้าเป็นแบบนี้... หานยิ่งไม่พาหนูไปด้วยนะคะ แบบนั้นมันคงทำให้ตระกูลโป๋ดูเลวร้ายเกินไป พ่อของหลินเอินเอินล้มละลาย ตระกูลโป๋ก็ไม่ต้องการเธอ”
“เหอะ สังคมสมัยนี้ มีเงินก็คือราชา ตอนนี้คุณพ่อของหนูอาจจะยังสู้ตระกูลโป๋ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ตอนนั้นคุณท่านโป๋ตอบตกลงแต่งงานกับหลินเอินเอิน ก็เพราะเห็นแก่ความสามารถของตระกูลหลินไม่ใช่เหรอ ร่วมมือกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่มากขึ้น ตอนนี้เธอล้มละลายแล้ว หนูคิดว่ายังไง”
เห็นหลินโย่วหชิงครุ่นคิด โจวหย่าลี่ก็พูดอีกว่า “เมื่อก่อนที่โป๋มู่หานมาเยี่ยมหนู เขามาอย่างลับๆตลอด แต่ตอนนี้เขาเข้าออกบ่อยขนาดนี้ ก็ไม่เห็นคุณท่านโป๋จะว่าอะไร ยิ่งไม่ได้กําชับอะไรเรา อย่างนั้นก็หมายความว่าเขาเห็นด้วยกับพวกหนูสองคนไม่ใช่เหรอ”
ตอนแรกคุณท่านโป๋เคยบอกพวกเขาว่าต้องระวังชื่อเสียงของทั้งสองฝ่าย
หลินโย่วหชิงครุ่นคิด แต่สุดท้ายก็พูดว่า “คุณแม่พูดถูกค่ะ หนูจะไปบอกหาน”
พวกเขาเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนี้ แต่อีกด้านหนึ่งกลับแตกต่าง
ในตอนนี้เอง ในห้องทํางานของประธานโป๋ซื่อ กรุ๊ป มีกลิ่นอายที่ราวกับกลิ่นควันของดินปืน
ปัง!
เจียงโหรวตบโต๊ะอย่างแรง แล้วพูดด้วยความโมโหว่า “อะไรนะ พวกเธอสองคนจะหย่ากัน!!!”
เธอตบโต๊ะด้วยความโมโหอีกครั้ง “ฉันไม่สนใจผลประโยชน์ไร้สาระของคุณ คุณหาเงินมากมายขนาดนั้น คุณจะมีชีวิตได้ใช้มันเหรอ คนที่มีอายุป่านนี้แล้ว ยังคิดถึงแต่ผลประโยชน์? ฉันไม่เห็นด้วยเด็ดขาด”
โป๋มู่หานขมวดคิ้ว เขาเหลือบของโป๋ซงด้วยสายตาที่บอกว่า ทําไมเขาต้องพาคุณย่ามาด้วย
โป๋ซงก็หงุดหงิด เขากินอิ่มเกินไปถึงได้พาเธอมาด้วย
แต่ว่า
เห็นพวกเขาสองคนทะเลาะกันบ่อยๆ แต่พวกเขารักกันมาก
โป๋มู่หานเหลือบมองเจียงโหรว “คุณย่า ตอนนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการเธอ แต่หลินเอินเอินต่างหากที่อยากหย่ากับผม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิเสธรักสามีขี้อ้อน