พอถึงเขตประเทศไทยท้องฟ้าก็สว่างพอดี เครื่องบินก็ร่อนลงจอดเมื่อถึงสนามบิน
ประตูเครื่องบินเปิดผู้โดยสารเริ่มทยอยกันลุกออกจากที่นั่ง
หยิบกระเป๋าสัมภาระเล็กน้อยมาไว้กับตัวแล้วเดินออกไป
พิมกับเตชินออกจากเครื่องบินแล้วเดินไปรอเอากระเป๋าที่โหลดไว้
พอเห็นกระเป๋า พิมก็เดินไปหยิบออกมาไม่นานของเตชินก็เลื่อนมาถึงเช่นกัน
ทั้งสองหยิบกระเป๋าออกมานั่งคุยกันตรงที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร เตชินก็เอ่ยถามขึ้น
" พิมที่เราใช้ชีวิตกันที่นั่นในฐานะสามีภรรยาตลอดสิบห้าวันมานี้
มันไม่ทำให้คุณอยากจะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันเลยเหรอ "
พิมมองเตชินด้วยแววตาแน่วแน่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำอย่างเย็นชา
" ฉันคิดว่าฉันให้คำตอบคุณแล้วนะคะ
การกระทำของฉันในคืนวันสุดท้าย
เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดแล้ว
คุณไม่ได้ฉลาดน้อยหนิคุณจะไม่รู้ได้ยังไง "
" คุณจะไม่ให้โอกาสผมได้ปรับปรุงตัวเพื่อคุณเลยเหรอ "
พิมนั่งหน้านิ่งแล้วเอ่ยด้วยถ้อยคำเย็นชา
" โอกาสฉันเคยให้คุณแล้วค่ะ แต่คุณไม่รักษามันไว้เอง อีกอย่างมันทำให้ฉันรู้ว่า
ตัวตนและนิสัยที่แท้จริงของคุณ ฉันอยู่ด้วยไม่ได้จริงๆค่ะ "
เตชินจ้องหน้าพิมโดยไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง พิมก็ยังยืนยันคำเดิม
ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจเลย
จากนั้นพิมก็ลุกขึ้นเดินลากกระเป๋าออกไป
เตชินได้แต่จ้องมองแผ่นหลังของเธออย่างอาลัยด้วยความรู้สึกใจหาย
ไม่คิดว่าพิมจะใจแข็งดังหินผาถึงเพียงนี้ แต่ใจหนึ่งยิ่งพิมเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งรู้สึกดีใจ
หากเขาทำให้เธอยอมรับได้อีกครั้งก็ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตเขาที่ชนะใจคนอย่างเธอได้
แล้วเขาก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างใจเย็น แววตาเผยความเจ้าเล่ห์ชัดเจน
ทางด้านพ่อคำกับแม่มะลิกำลังเดินทางไปทำเรื่องซื้อบ้านโดยมีดำรงค์คอยให้คำปรึกษา
ให้ยืมเงินแบบไม่คิดดอกเบี้ย
พอออกจากที่ทำการราชการพ่อคำก็ยกมือขอบคุณดำรงค์พร้อมกับเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ
" ขอบคุณคุณดำรงค์มากๆเลยครับที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวเราบุญคุณนี้ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ "
ดำรงค์จับมือพ่อคำแล้วเอ่ยอย่างเกรงๆว่า
" บุญคุณอะไรกัน คนกันเองช่วยกันได้ก็ช่วย หากชีวิตความเป็นอยู่คุณดีขึ้นผมก็ยินดีด้วย "
พอพูดมาถึงตรงนี้เขารู้สึกละอายใจเลยเอ่ยว่า
" เอ่อ ความจริงเงินที่ผมให้คุณยืมซื้อบ้านไม่ใช่เงินผมหรอกแต่เป็นเงินของเจ้านายผมอีกทีน่ะ
แต่คุณไม่ต้องกังวลนะเขาเป็นคนใจบุญชอบชอบช่วยเหลือและสนับสนุนให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นครับ "
พ่อคำกับแม่มะลิได้ยินดังนั้นก็ตกใจ กลัวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง
" เจ้านายเหรอ? "
แม่มะลิมองหน้าดำรงค์แล้วเอ่ยถามขึ้น ดำรงค์รู้สึกเหงื่อออกเล็กน้อย
แต่เขาได้รับคำสั่งมาว่าหลังจากที่ทำเรื่องซื้อขายกันเสร็จแล้วค่อยๆบอกความจริงให้พ่อคำกับแม่มะลิ
" เจ้านายของคุณเป็นใคร ทำไมถึงให้พวกเรายืมเงินโดยไม่คิดดอกครับ "
พ่อคำเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย ดำรงค์จึงเอ่ยว่า
" เขาไม่ให้ผมเปิดเผยตัวตนเขาน่ะ แต่เจ้านายผมชื่นชอบหนูพิมมาก
คงจะเพราะเหตุนี้ละมั้งถึงได้ช่วยออกเงินสดซื้อบ้านให้คุณ "
ได้ยินดังนั้นพ่อคำกับแม่มะลิมองหน้ากันด้วยสีหน้ากังวล ดำรงค์เลยเอ่ยว่า
" คุณสองคนไม่ต้องกังวลหรอก เจ้านายผมเป็นคนดีเขาไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน "
" ครับ "
" ว่าแต่คุณพร้อมจะย้ายเข้าไปอยู่เมื่อไหร่ครับ "
" บ้านนี้ผมตั้งใจซื้อเป็นของขวัญให้ลูกพิม
คงต้องรอลูกพิมเรียนจบก่อนแล้วค่อยย้ายเข้าไปอยู่ครับ "
พ่อคำเอ่ยตอบ
" ครับเช่นนั้นก็ตามนี้เลยนะ สายแล้วเราไปหาอะไรกินกันดีมั้ย "
" ครับ/ค่ะ "
พ่อคำกับแม่มะลิพยักหน้าเอ่ยตอบแล้วเดินไปขึ้นรถของนายดำรงค์แล้วพวกเขาก็ขับออกไป
ห้าเดือนต่อมา......
พิมก็เรียนจบปริญญาโท ทุกคนต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอทั้งเพื่อนฝูงและญาติสนิท
ป๊อบเดินมาหาพิมด้วยชุดสูทสีฟ้าพร้อมกับช่อดอกไม้เงินสดในมือ
เพราะเขารู้ว่าพิมไม่ชอบดอกไม้สดเธอเสียดายความสวยที่อยู่ไม่นานของดอกไม้
" ยินดีด้วยนะครับพิม ในที่สุดคุณก็เรียนจบแล้ว "
พิมยิ้มให้ป๊อบแล้วเอ่ยขึ้น
" ขอบคุณค่ะ วันนี้คุณดูหล่อเป็นพิเศษเลยนะคะ "
พิมเอ่ยชมป๊อบออกมาตรงๆ ทำเอาป๊อบถึงกับเขินแทบไปไม่เป็น จากนั้นป๊อบก็เอ่ยว่า
" ถ้าหล่องั้นก็ช่วยเปิดใจให้ผมได้เข้าไปอยู่ในหัวใจคุณบ้างสิครับ "
พิมยิ้มหวานสบตากับเขาอย่างลึกซึ้ง ใช่แล้ว ตอนนี้นอกจากเขาแล้วเธอมองไม่เห็นใครที่ดีเท่าเขาแล้ว
เธอตัดสินใจแล้วว่าหลังเรียนจบจะลองเปิดใจศึกษาดูใจกันกับเขาแล้วแต่งงานกับเขา
ขณะที่ทั้งสองยืนสบตากัน เตชินเดินเข้ามาพร้อมกับช่อดอกไม้ราคาแพงในมือ
เป็นช่อดอกทิวลิปสีแดงรอบๆทิวลิปแดงเป็นดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้มกับสีแดงอ่อน
ทิวลิปสีแดงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่แท้จริงหมายถึงความรักที่สมบูรณ์แบบ
ส่วนดอกคาร์เนชั่นเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดเพื่อความรักและความหลงไหล
สีแดงเข้มสื่อถึงความรักความเสน่หาส่วนสีแดงอ่อนหมายถึงการแสดงความยินดี
เขายื่นดอกไม้ไปให้พิมแล้วเอ่ย
" ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตพิมด้วยความรักและความจริงใจอย่างสุดหัวใจครับ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา