เห็นพิมเดินกลับเข้ามาคนเดียว ผู้ช่วยคังจึงรีบออกไปหาเตชินทันที
ป๊อบจ้องหน้าพิมอย่างเงียบๆพิมจึงหันมายิ้มอ่อนให้เขา
แม้ทุกคนจะอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่เอ่ยถาม
แม่มะลิเห็นว่าบรรยากาศมันดูอึมครึมจึงเอ่ยขึ้น
" พิมในเมื่อรับเสร็จแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะนะลูกวันนี้พ่อกับแม่มีเซอร์ไพรส์ให้ลูกด้วยนะ "
ได้ยินดังนั้นพิมก็ยิ้มขึ้นแววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
" จริงเหรอคะ ชักอยากรู้แล้วสิว่าเซอร์ไพรส์ของพ่อกับแม่คืออะไร "
" ถ้างั้นก็กลับบ้านกันเถอะ แต่ว่า ลูกต้องเอาผ้ามาปิดตานะ ระหว่างทางลูกก็หลับพักสายตาเลย "
" หูว...ดูแล้วต้องเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากจริง ถึงกับต้องปิดตาเนี่ย "
แม่มะลิยิ้มแล้วเอ่ย
" แน่นอนจ้า งั้นลูกหลับตาเลยนะ เดี๋ยวแม่จะเอาผ้ามาปิดตาให้ "
" ได้ค่ะ "
จากนั้นแม่มะลิก็นำผ้าสีดำมาปิดตาพิมไว้
แล้วจับมือลูกสาวให้ลุกขึ้นแล้วพาไปขึ้นรถ
ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับไปที่รถของตัวเองให้พ่อแม่ลูกเขาได้อยู่ด้วยกัน
จากนั้นดำรงค์ก็ขับรถพาครอบครัวของพิมกลับไปยังบ้านหลังใหม่
แม่มะลินั่งจับมือลูกสาวตลอดทาง พอกลับไปถึงบ้านหลังใหม่
พ่อคำก็ลงมาเปิดประตูให้แม่มะลิ แล้วแม่มะลิก็พาพิมลงจากรถ
จากนั้นพ่อคำกับแม่มะลิก็จูงมือลูกสาวเดินกลับเข้าไปในบ้านหลังใหม่
ทั้งสองจูงมือลูกสาวไปนั่งลงบนโซฟานุ่มๆ
พิมรู้สึกสงสัยจึงเอ่ยถามขึ้น
" นี่พ่อกับแม่ไม่ได้พาหนูกลับบ้านเหรอคะ "
" ก็ถึงบ้านแล้วไงจ้ะ ลูกเอาผ้าออกสิ "
พิมดึงผ้าปิดตาลงมาที่คอ แล้วเธอก็ค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปยังพ่อกับแม่ของตนเอง
จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบห้อง
ด้วยความประหลาดใจ
เธอเลิกคิ้วขึ้นหันมาถามผู้เป็นพ่อแม่แม่ด้วยความสงสัย
" ที่นี่ที่ไหน ไหนแม่บอกว่าถึงบ้านเราแล้วไงคะ
แล้วนี่มันบ้านใครคะ "
" ลูกชอบมั้ย "
พ่อคำเอ่ยถามพิม พิมจึงตอบไปว่า
" ชอบค่ะ สวยดี "
" ถ้าลูกชอบก็ดีแล้ว นี่เป็นบ้านหลังใหม่ของพวกเรา พ่อกับแม่ซื้อบ้านหลังนี้ไว้เพื่อเซอร์ไพรส์ลูก "
ได้ยินดังนั้นพิมก็ตกใจ เธอจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
" พ่อกับแม่ล้อหนูเล่นหรือเปล่าคะ แล้วบ้านเก่าของเราล่ะคะ "
" พ่อกับแม่ขายไปหมดแล้ว ลูกไม่ต้องห่วงนะเพราะตอนนี้เราได้บ้านหลังใหม่นี้แล้ว "
พ่อคำเอ่ยตอบลูกสาว พิมได้ยินดังนั้นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
" ขะ...ขายแล้ว แล้วพ่อรู้มั้ยคะว่าบ้านหลังนี้ราคาเท่าไหร่ "
เพราะเธอดูแล้วราคาไม่ใช่น้อยๆ แม่มะลิจึงเอ่ยตอบลูกสาวว่า
" ห้าสิบล้าน "
" ห้าสิบล้าน!!! "
พิมเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจสุดขีดจนดวงตาเบิกกว้างเท่าไข่ห่าน
จากนั้นเธอก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวลใจ
" แม่คะพ่อคะ หนูจะเป็นลม หนูว่าคราวนี้เราได้นอนกลางดินกินกลางทรายแน่ๆค่ะ
เพราะเราจะไม่มีบ้านอยู่แล้ว เราจะเอาปัญญาไหนมาจ่ายค่าบ้านคะ ตั้งห้าสิบล้าน
ต่อให้ขายไร่ขายนาขายสวนขายบ้านแล้วก็มีไม่พอให้ซื้อบ้านหลังนี้หรอกค่ะ "
แม่มะลิจึงเอ่ยขึ้นว่า
" แต่เจ้านายของคุณดำรงค์เป็นคนให้พ่อกับแม่ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ยสักบาทเลยนะลูกโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีง่ายๆนะ
อีกอย่างบ้านหลังนี้ออกแบบตามที่ลูกต้องการเลย มีสระว่ายน้ำทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ มีที่ให้ปั่นจักรยาน
อนาคตถ้าลูกแต่งงานมีลูก เย็นๆก็พาลูกเดินเล่นแค่ในบริเวณบ้านเรา ก็มีพื้นที่กว้างพอให้ลูกพา
หลานปั่นจักรยานเล่นแล้ว "
พิมรู้สึกเครียดกับบ้านหลังใหญ่หลังนี้มาก
พ่อคำเห็นสีหน้าลูกสาวดูเครียดๆเขาจึงเอ่ยขึ้น
" ลูกไม่ต้องห่วงนะ เจ้านายของคุณดำรงค์เขาใจดีอยู่
เขาซื้อบ้านเก่าของพวกเรากับไร่นาและสวนของเราตั้งยี่สิบล้านบาท
ตอนนี้หนี้เราก็เหลือแค่สามสิบล้าน พ่อกับแม่จะค่อยๆทยอยคืนเขาเป็นรายปี
เห็นว่าจะให้พ่อกับแม่ทำสวนเหมือนเดิมพอได้เงินก็ค่อยมาคืนเขา "
ในเมื่อพ่อกับแม่อยากได้บ้านหลังนี้ถึงกับขายบ้านเก่าทิ้ง เธอก็ได้แต่จำใจร่วมทุกข์ร่วมสุขแล้วเอ่ยว่า
" ค่ะ ช่างเป็นเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ในเมื่อพ่อกับแม่ตัดสินใจแบบนี้แล้ว หนูก็จะช่วยผ่อนอีกแรงค่ะ "
ดำรงค์ได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นเอกสารข้อตกลงสัญญากู้ยืมเงิน
" นี่คือข้อตกลงในการยืมเงินครับ
ก่อนหน้านี้ คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูพิมได้ดูแล้ว
ก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งหรือเห็นต่างอะไร หนูพิมลองอ่านดูสักหน่อยมั้ยครับ "
พิมหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน เธอก็ไม่พอใจทันที
ในสัญญาระบุว่า
1. ในการกู้ยืมเงินผู้กู้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยใดๆ
2. ในระหว่างที่ยังใช้หนี้ไม่หมด ผู้ให้กู้สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้กู้ได้ทุกเรื่องตามที่ผู้ให้กู้ต้องการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา