ป๊อบลงจากดอย มาถึงในเมืองเวลาก็ปาไปบ่ายโมงแล้ว
เมื่อคลื่นโทรศัพท์ขึ้น เขาก็รีบกดโทรไปหาณัชชาด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
ขณะที่เขารอณัชชารับสายเขาก็คิดทบทวนอะไรๆอีกครั้ง
เขาในตอนนี้รู้แค่ว่า พิมคือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก ส่วนณัชชาคือแม่ของลูกที่เขาควรจะรับผิดอบและแต่งงานด้วย
ตั้งแต่วันที่เขากลับมาเจอพิมอีกครั้ง ความคิดที่จะแต่งงานกับณัชชาก็หายไป
ความรักที่มีให้พิม ความรู้สึกต่างๆที่กำลังเจือจาง
ก็กลับมาเข้มข้นชัดเจนขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับถูกลงสีใหม่ให้สดขึ้น
แต่ในวันที่เขาเห็นพิมร้องให้อย่างปวดใจ
เพราะเตชิน เขาก็รู้ทันทีว่าในหัวใจพิมมีเตชินแล้ว
เขาถึงรู้ว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว เขาไม่สามารถแย่งพิมคืนมาได้ ถึงได้ เขาก็คงไม่มีความสุขเพราะไม่ได้หัวใจเธอคืนมา
ถึงจะรู้อย่างนั้นแล้ว แต่พิมก็ยังคงอยู่ในหัวใจเขาไม่สามารถลบออกได้และไม่มีวันที่จะกลับมาบรรจบกันในสถานะเดิมได้อีกเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกผิดหรือเสียใจ ที่ไม่สามารถรักณัชชาได้หมดหัวใจแล้วตัดพิมออกจากใจได้
บางอย่างเขาพูดออกมาไม่ได้ ได้แต่พึมพำกับตัวเองในใจว่า
[ จะมีใครเข้าใจบ้างว่าการจะตัดใครออกไปจากหัวใจสักคน มันยากเย็นแค่ไหน
มันไม่ง่ายเลยที่จะตัดและไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นหมดหัวใจ ลูกพ่อขอโทษนะ ]
นอกจากณัชชาแล้วคนที่เขารู้สึกผิดด้วยมากที่สุดคือลูกที่อยู่ในท้อง
แต่ใจเจ้ากรรมเขามันก็ยังคงรักมั่นคงเพียงพิมคนเดียว
ในเมื่อเขายังตัดใจจากพิมไม่ได้ เขาก็ไม่ควรเอาณัชชาเข้ามาในชีวิตให้เธอปวดใจ
วันนี้เขาอยากขอเวลา อธิบายให้ณัชชาเข้าใจ เดิมทีเขาตั้งใจจะง้อเธอ
แต่วันนี้เขารู้แล้วว่าควรจะพูดให้ชัดเจน ไม่อยากให้ณัชชาที่กำลังจะเป็นแม่ของลูกเขา
เป็นเพียงคนคั่นเวลาหรือเข้ามาในตอนที่ใจเขายังมีคนอื่นอยู่แบบนี้
ทางด้านณัชชาเธอกำลังนั่งบนเก้าอี้ฟังเพลงสบายๆอยู่หลังบ้านที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่
เมื่อเห็นว่าบนหน้าจอโทรศัพท์ โชว์เบอร์ของป๊อบที่กำลังโทรเข้ามา
เธอก็ไม่สนใจเอนหลังพิงต้นไม้แล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ
ส่วนป๊อบก็ไม่ละความพยายามโทรหาณัชชาต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่ถอดใจแม้เธอจะไม่รับสายเขา
ส่วนณัชชาก็ไม่สนใจเสียงโทรเข้า ไม่กดตัดสาย ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
ปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่อย่างงั้น ตัวเองก็หลับตาฟังเสียงโทรเข้าอย่างสบายอารมณ์
ป๊อบที่อยู่ในรถก็เริ่มอารมณ์ไม่ดีขึ้นมานิดๆที่ณัชชาไม่รับสาย
ตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่เคยมีใครไม่รับสายเขาแบบนี้มาก่อน แม้แต่พิมก็ไม่เคยทำกับเขาแบบนี้
อารมณ์เขาหงุดหงิด ขุ่นเคืองจนกำกำปั้นชกลงเบาะข้างแรงๆพร้อมกับเอ่ยพึมพำออกมาด้วยแววตาสุขุม น้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
" ณัชชา คุณจะเล่นตัวเกินไปแล้วนะ หรือคุณคิดจะทำอะไรของคุณกันแน่ ได้ ในเมื่อไม่อยากรับ ผมก็ไม่โทรไปแล้ว "
จากนั้นเขาก็นั่งเงียบไม่โทรไปหาณัชชาอีก ไม่นานรถก็ขับเข้าไปในสนามบิน จอดลงตรงจุดรับส่งผู้โดยสาร
เขาเปิดประตูลงจากรถแล้วเข้าเช็คอิน ไม่นานเครื่องก็ออก
ขณะที่นั่งบนเครื่องในหัวเขาคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอย่างเงียบๆอีกครั้ง
ส่วนณัชชาเมื่อเห็นว่าป๊อบไม่โทรมาแล้ว เธอก็เปิดเพลงพร้อมกับหลับตาลงฟังเสียงเพลงเบาๆกลางสวนต่ออย่างสบายใจ
ผู้เป็นพ่อกับแม่แอบมองลูกสาวอย่างเงียบๆแล้วผู้เป็นแม่ก็หันมาเอ่ยกับสามีว่า
" คุณดูลูกเราสิ ตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่นั่งฟังเพลงในสวน ยังจะปากแข็งบอกว่าไม่เป็นไรอีก อาการนี้อาการคนอกหักชัดๆ "
" คุณลูกเราโตแล้ว เขาทำอะไรย่อมรู้ดีแก่ใจ ปล่อยให้ลูกตัดสินใจเองเถอะ อย่าไปรบกวนจิตใจลูกเลย "
" แต่ฉันเป็นห่วงหลานในท้องนี่คะกลัวหลานจะคิดมากไปด้วย "
พ่อของณัชชาโอบไหล่ภรรยาแล้วเอ่ย
" หลานไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก เราเข้าไปในบ้านกันเถอะ คุณไม่ต้องห่วงลูกหรอก
ผมว่าไม่นานทางคุณป๊อบเขาก็คงจะโทรมาง้อลูกสาวเราแหละ
ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขาเถอะ เราเป็นพ่อแม่อย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่า "
" แต่นั่นลูกสาวเรานะ เขากำลังทุกข์ใจอยู่
เราจะไม่เข้าไปปลอบหน่อยเหรอ "
พ่อของณัชชามองหน้าภรรยาแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนว่า
" ผมว่าตอนนี้ลูกไม่ต้องการเราสองคนหรอก ให้ลูกอยู่เงียบๆคิดอะไรเพลินๆคนเดียวน่ะดีแล้ว เข้าบ้านกันเถอะ "
แม่ของณัชชาเดินกลับเข้าบ้านไปตามคำขอของสามีแต่สายตาก็ยังคงมองลูกด้วยความเป็นห่วง
สองวันต่อมา ป้องเข้ามาในบริษัท ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องของตัวเอง
ก็เจอเข้ากับประธานหลิวที่นั่งบนเก้าอี้แล้วหมุนเก้าอี้หันมามองเขา
ประธานหลิวมองป้องที่กำลังเดินเข้ามาทางเธอแล้วไปนั่งเก้าอี้ขทำงานของตัวเอง เธอจ้องหน้าเขาแล้วเอ่ยเอ่ย
" อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณป้อง "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา