แล้ววางพิมนั่งลงบนเตียง จากนั้นก็สบตาภรรยาคนสวยแล้วเอ่ยเสียงนุ่ม
" เรามาทำลูกคนที่สองกัน "
ดวงตาพิมเบิกกว้างจ้องเขม็งเขาแล้วเอ่ยเสียงแข็ง
" คุณ พูดให้มันดีๆหน่อยนะ "
เตชินยิ้มทะเล้นแล้วเอ่ย
" ผมพูดไม่ดีตรงไหน เราเป็นสามีภรรยากันพูดเรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติมั้ย ถ้าไม่พูดสิ ถึงจะผิดปกติ "
" ถ้าคุณยังไม่หยุดพูดก็เชิญกลับไปเลยนะ "
เตชินเห็นว่าภรรยาตัวเองเอ่ยด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง
เขาจึงอุ้มภรรยาขึ้นมานั่งบนตักแล้วโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง จูบท้ายทอยเธอเบาๆ
จากนั้นก็ซบหน้าลงกลางแผ่นหลังภรรยา
แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนอย่างออดอ้อน
" ที่รักคุณรู้มั้ยว่าผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน ตั้งแต่คุณหนีออกจากบ้านผมไม่เคยได้หลับสนิทเลยสักคืน
ผมกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายกับคุณ กลัวว่าคุณจะไม่ให้อภัยผมอีก และกลัวจะเสียคุณกับลูกไปตลอด
ต่อไป ถ้ามีอะไรไม่สบายใจคุณอย่าเงียบเหมือนครั้งนี้อีกนะ มีอะไรให้ถามผมตรงๆ
ผมเองเวลามีอะไรก็จะรีบอธิบายให้คุณฟังจะไม่ทำเหมือนครั้งนี้อีกแล้วเหมือนกัน
เรามีลูกด้วยกันแล้วเป็นครอบครัวเล็กๆมีอะไรต้องหันหน้ามาคุยกัน
ไม่เอาต่างคนต่างเงียบแล้วจบลงด้วยการหนีแบบนี้แล้วนะครับ ได้มั้ย "
พิมฟังที่เตชินพูด เธอคิดว่าเขาก็พูดถูก สามีภรรยามีอะไรควรจะพูดคุยกันตรงๆ
ก่อนที่จะตัดสินใจหนีหรือเลิกราหย่าขาดกัน
การหย่าควรเป็นเรื่องสุดท้ายที่ต้องคิด
เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงเอ่ยตอบเขาว่า
" ได้สิ แต่ตอนนี้คุณปล่อยฉันก่อน ฉันจะไปทำอาหารเช้าให้ลูก "
เตชินได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกดีใจมาก แล้วเขาก็พลิกภรรยาลงมาอยู่ใต้ร่างพร้อมกับคร่อมทับตัวเธอไว้ แล้วเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
พิมที่รู้ทันความเจ้าเล่ห์ของเขาแล้ว จึงขู่ด้วยสายตาพร้อมกับเอ่ยเสียงดุ
" นี่คุณ ฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่องเหรอ เช้าแล้วเดี๋ยวลูกจะหิว "
เขาสบตากับภรรยาที่อยู่ใต้ร่างแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า
" ผมก็หิว ขอผมกินคุณก่อนนะ ที่รัก "
เอ่ยจบเขาไม่รอช้าอีกต่อไป รีบก้มหน้าลงประกบริมฝีปาก จูบภรรยาที่อยู่ใต้ร่างอย่างดูดดื่มด้วยความหิวกระหาย ราวกับจะชดเชยช่วงที่ผ่านมา
" อื้อ...อือ...อื้ม... "
พิมพยายามผลักเขาออก ส่งเสียงอู้อี้ออกมาตามลำคอ แต่สามีผู้หิวโหยในตัวเธอกลับไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอพูดสักคำ
พอผละริมฝีปากออกก็เลื่อนริมฝีปากไปสัมผัสใบหูที่เป็นจุดอ่อนไหว
ทำให้เธอที่อยู่ใต้ร่างสั่นไหวไม่กล้าที่จะปฏิเสธเขาอีก
เขาไล้เลียใบหูเรียวสวยไปสักพักจากนั้นก็ค่อยๆขยับเลื่อนใบหน้าลงมาจูบตามซอกคอ ลำคอและไหปลาร้า
มือหนาข้างหนึ่งลูบไล้น่องขาเรียวสวย อีกข้างเคล้าคลึงทรวงอกนุ่มนิ่มด้วยความลุ่มหลง จนทำให้เจ้าของเรือนร่างอรชรครางออกมาเบาๆ
เขาเล้าโลมเรือนร่างขาวใสที่มีความเนียนนุ่มน่าสัมผัสอย่างเมามัน
จากนั้นก็ค่อยๆถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทิ้งแล้วรุกล้ำแทรกเข้าไปในตัวเธอ พันธนาการเรือนร่างงามไว้ในอ้อมแขน
ถ่ายทอดบทสวาทอย่างเร่าร้อนบนเตียงใหญ่ ขยับเรือนกายไม่หยุดหย่อน ราวกับหิวกระหายเรือนร่างสวยมานานปี
กิจกรรมบนเตียงที่สุดแสนจะเร่าร้อนของทั้งสองดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดสิ้นสุดเมื่อเขาได้อย่างที่ต้องการ
เขาก้มลงจูบหน้าผากภรรยาที่อยู่ใต้ร่างอย่างทะนุถนอมแล้วนอนลงข้างๆเธอ
พร้อมดึงเธอเข้าโอบไว้ในอ้อมกอดแล้วเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน
" เหนื่อยมั้ยที่รัก "
พิมที่อยู่ในอ้อมกอดไม่เอ่ยตอบอะไรเอาแต่หลับตาพริ้มพักเหนื่อย หายใจเข้าออกเป็นจังหวะจนอกกระเพื่อมขึ้นลง
เตชินรู้ว่าภรรยาเหนื่อยมาก เขาจึงเอ่ยว่า
" ขอโทษนะที่รัก ผมควบคุมตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ
อืม งั้น คุณนอนพักเถอะ ส่วนอาหารเช้าลูก เดี๋ยวผมไปทำให้เอง "
พิมหลับตาพยักหน้าเบาๆ เตชินจัดหมอนให้ภรรยาหนุนแล้วเขาก็ก้มลงจูบริมฝีปากเธอเบาๆก่อนจะลุกไปอาบน้ำ ทำกับข้าวให้ลูก
ชั่วโมงต่อมานวลที่พาเคอร์ฟิวออกไปเดินเล่นก็จูงมือเคอร์ฟิวน้อยเดินกลับมาที่บ้าน
เห็นเตชินยืนทำกับข้าว ยุ่งอยู่ในครัว
เธอจึงเอ่ยกับเคอร์ฟิวว่า
" สุดหล่อครับ เดี๋ยวพี่นวลจะพาสุดหล่อไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวโอเคมั้ยครับ "
" เคค๊าบ "
เคอร์ฟิวน้อยเอ่ยตอบเสียงใสมองหน้าพี่นวลด้วยแววตาใสแป๋วอย่างเชื่อฟัง นวลยิ้มแล้วพาเคอร์ฟิวขึ้นไปอาบน้ำบนบ้าน
เตชินที่อยู่ในครัวตั้งใจทำข้าวผัดไข่ให้ทุกคนทานแล้วทำไข่ลวกให้ภรรยาไว้ 2 ฟอง
เพราะพิมไม่ชอบทานไข่สุก จากนั้นเขาก็ทอดไข่ดาวบนเตาอีกตัวแล้ววางไข่ดาวที่ทอดเสร็จแล้วเรียงใส่จานไว้อย่างสวยงาม
เมื่อทำข้าวผัดเสร็จ เขาก็เดินขึ้นไปบนบ้านแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้อง
พิมที่กำลังอาบน้ำในห้องน้ำอยู่เดินออกมาเห็นสามีนั่งรอบนเก้าอี้เธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" คุณทำกับข้าวเสร็จแล้วเหรอ "
" อื้อ เสร็จแล้ว "
เขาผงกหัวตอบ พิมจึงเอ่ยถามต่อพร้อมกับเช็ดผมไปด้วยว่า
" ทำอะไรกิน ทำไมเร็วจัง "
" ข้าวผัดไข่ เป็นเมนูเดียวที่ผมทำเป็นและอร่อย "
เขาพูดพร้อมกับเดินเข้าไปหาภรรยาที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปกปิดเรือนร่างแล้วเอ่ยถามเธอว่า
" คุณหายเหนื่อยแล้วเหรอ "
พิมเงยหน้ามองเขาแล้วเอ่ยถามออกไปว่า
" ถ้าฉันบอกว่า ยังไม่หายเหนื่อยล่ะ "
" อืม...ถ้าคุณยังไม่หายเหนื่อยก็รีบทานข้าวแล้วกลับมานอนพักซะ ผมจะเลี้ยงลูกเอง "
เอ่ยจบเขาก็แย่งผ้าเช็ดผมจากมือเธอ เธอมองหน้าเขาแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงแข็ง
" คุณจะทำอะไรอีก "
เธอกลัวว่าเขาจะจับเธอเล่นบทเลิฟซีนอีกรอบ เขารู้ทันความคิดเธอ จึงยิ้มออกมาแล้วเอ่ย
" ดูคุณสิ กลัวอะไร ผมเป็นสามีคุณนะ "
เขาเอ่ยพร้อมกับจับไหล่เธอบังคับให้เธอนั่งบนเก้าอี้แล้วเอ่ยต่อว่า
" คุณนั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมจะเช็ดผมให้ "
เธอได้แต่นั่งลงบนเก้าอี้ตามที่เขาสั่ง นั่งนิ่งๆให้เขาเช็ดผมให้
เคอร์ฟิวน้อยที่อยู่ในห้องน้ำอีกห้อง พอพี่นวลอาบน้ำสระผมเสร็จ
ก็จัดการใส่แพมเพิส เลือกเสื้อผ้าที่เคอร์ฟิวใส่แล้วดูหล่อดูน่ารัก แล้วมาสวมใส่ให้หนุ่มหล่อ
ระหว่างที่แต่งตัวกันอยู่เคอร์ฟิวก็เอ่ยขึ้นว่า
" พี่นวลค๊าบ...ฟิว จะหาพ่อพ่อ "
" ได้ครับ พี่นวลรู้แล้ว แต่ว่าสุดหล่อต้องแต่งตัวให้หล่อๆก่อนเข้าใจมั้ยครับ "
" ...ใจค๊าบ "
" หือ เก่งที่สุด เคอร์ฟิวน้อยของพี่นวลหล่อที่สุดเลยครับ "
นวลรักเคอร์ฟิวมากรักเหมือนลูกเหมือนเป็นแก้วตาดวงใจเลยเธอชอบแต่งตัวให้เคอร์ฟิวดูหล่อดูน่ารักเสมอ
เพื่อให้ผู้คนที่พบเห็นเคอร์ฟิว ตกหลุมรักและเอ็นดูเคอร์ฟิวน้อยของเธอ
พอแต่งตัวเสร็จเคอร์ฟิวก็ออกจากห้องไปเปิดประตูห้องของพ่อกับแม่
พิมกับเตชินกำลังจะออกจากห้องไปหาลูกชายพอดี แต่ดันเห็นลูกชายเปิดประตูเข้ามาซะก่อน
เตชินจึงอุ้มลูกชายขึ้นมาแล้วเอ่ย
" โอ้ เคอร์ฟิวน้อยของพ่อพ่อหล่อจังเลยครับ "
เขาเอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกชาย เดินออกไปแลงลงบันไดไป
พิมมองสองพ่อลูกด้วยรอยยิ้มแล้วมองมายังนวลที่ยืนข้างๆแล้วเอ่ย
" ไปทานข้าวเช้ากันค่ะ พี่นวล "
" ค่ะ "
แล้วเธอกับนวลก็ตามเตชินลงไปใต้ถุงบ้าน เตชินวางลูกชายนั่งบนเก้าอี้เด็กแล้วป้อนข้าวให้ลูกชายด้วยตนเอง
พิมตักข้าวใส่จานจนครบจำนวนคน ส่วนนวลก็ทำหน้าที่ยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร
จากนั้นพิมก็เอ่ยกับนวลที่นั่งมองเตชินป้อนข้าวเคอร์ฟิวน้อยด้วยความกังวลว่า
" พี่นวลทานข้าวเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงเคอร์ฟิวหรอก ให้พ่อเขาป้อนไปเถอะ "
พิมรู้ว่านวลกลัวเตชินป้อนไม่เป็น
" ค่ะ "
นวลเอ่ยตอบรับด้วยรอยยิ้มแล้วก้มหน้าทานข้าวผัดที่พิมตักให้
ทั้งสี่คนนั่งทานข้าวกันอย่างอบอุ่นบรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา