ป้องกลับไปบ้าน เห็นพ่อกับแม่ตื่นมานั่งดูข่าวด้วยกันแต่เช้า
จึงเดินเข้าไปหาทั้งสองท่านด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แล้วหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาหรูอย่างเงียบๆ
ผู้เป็นพ่อกับผู้เป็นแม่หันมามองหน้าลูกชายที่สีหน้าดูเศร้าๆ
แล้วพวกเขาก็หันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าสงสัย ผู้เป็นพ่อสบตากับภรรยาแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย
จากนั้นผู้เป็นแม่ก็หันไปมองลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
ว่าลูกชายจอมเพลย์บอยของพวกเขาอยู่ๆทำไมถึงได้ตีหน้าเศร้ากลับมาแบบนี้
" ป้อง ทำไมสีหน้าลูกดูเศร้าแบบนั้นล่ะ มีเรื่องไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า หรือว่าถูกสาวหักอกมา "
ป้องจ้องหน้าแม่ด้วยแววตาเศร้า เขาไม่รู้จะเริ่มบอกพ่อกับแม่ยังไง เพราะท่านรักณัชชามาก เขานั่งเงียบไปสักพักจนคิดได้ว่า
[ ความจริงก็คือความจริงไม่ว่าจะบอกตอนนี้หรือตอนไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ]
เขาพึมพำกับตัวเอง แล้วเขาก็เอ่ยออกมาว่า
" คุณพ่อ คุณแม่ สิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้มันอาจจะทำให้พวกคุณช็อกได้นะ ทำใจดีๆไว้ด้วย "
" ตาป้อง แกจะบอกอะไรก็รีบบอกมาเถอะ
อย่ามาลีลาทำเป็นลำบากใจที่จะพูดกับพ่อกับแม่เลย "
" ครับ คุณพ่อกับคุณแม่พร้อมที่จะฟังแล้วใช่มั้ยครับ "
ผู้เป็นพ่อพยักหน้าเบาๆแล้วเอ่ย
" พูดมาเถอะ "
ป้องก้มหน้าผงกหัวเบาๆ นั่งกุมมือตัวเองแล้วเอ่ยโดยไม่สบตาพ่อกับแม่ว่า
" พี่สะใภ้เสียชีวิตแล้วครับ "
ผู้เป็นพ่อกับแม่ได้ยินดังนั้นก็นิ่งอึ้งไปเลย
จากนั้นผู้เป็นแม่ก็เอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ
อย่างสั่นเครือ
" ตาป้อง แกกำลังล้อพ่อกับแม่เล่นใช่มั้ย แกพูดความจริงมา ว่าแก้ล้อพ่อกับแม่เล่น "
ป้องเงยหน้ามองผู้เป็นแม่แล้วเอ่ยเสียงหนักแน่นด้วยสีหน้าจริงจัง
" ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ พี่สะใภ้เสียชีวิตระหว่างคลอดลูกเมื่อหลายวันก่อน วันนี้พี่ป๊อบไปรับศพเธอเพื่อไปทำพิธีฌาปนกิจครับ "
ผู้เป็นแม่ลุกมานั่งใกล้ลูกชายแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงสั่นด้วยท่าทางดูขาดสติน้ำตาคลอเบ้าค่อยๆซึมไหลออกมา
" แล้วเด็กล่ะ หลานของแม่ล่ะ หลานของแม่เป็นยังไงบ้าง เขาปลอดภัยดีใช่มั้ย "
" ครับ หลานปลอดภัยดี "
ป้องเอ่ยตอบเสียงเศร้า พ่อของเขาถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วเอ่ยอย่างสงบนิ่งว่า
" อนิจจัง สังขารล้วนไม่เที่ยง คุณทำใจเถอะแล้วเราค่อยทำบุญส่งไปให้ลูกสะใภ้นะ
อย่างน้อยเธอก็ยังมีหลานไว้ให้เราดูต่างหน้า เวลาคิดถึงเธอ "
ภรรยาได้ยินดังนั้นก็ยิ่งร้องห่มร้องให้ด้วยความเสียใจอย่างสุดแสนอาลัยและสุดแสนจะเสียดายลูกสะใภ้หนักกว่าเดิม
" ไม่น่าเลย ทำไมฟ้าถึงได้ใจร้ายแบบนี้ ทำไมถึงพรากคนรักของลูกชายฉันไป
พวกเขากำลังจะมีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่นแท้ๆ
ทำไมฟ้าถึงไม่เมตตาพวกเขาเลย แล้วลูกชายฉันจะอยู่ยังไง ฮือๆๆๆ "
แกตัดพ้อด้วยความเสียใจและเป็นห่วงลูกชาย สงสารที่ลูกเพิ่งได้เป็นพ่อคนก็ต้องเสียภรรยาไปแล้ว
แกปวดใจแทนลูกชายมากร้องให้ไม่หยุด
นัยน์ตาเปียกปอนไปด้วยน้ำตา
ป้องคุกเข่าลงพื้นโอบกอดผู้เป็นแม่พร้อมกับเอ่ยปลอบประโลมว่า
" คุณแม่ทำใจเถอะครับ พี่สะใภ้หลับสบายแล้วเราทุกคนที่รักเธอจะต้องเข้มแข็งให้มาก
ช่วยเธอดูแลลูกและสามีเพื่อให้เธอจากไปอย่างสงบแบบหายห่วง
ตอนนี้เราต้องช่วยกันดูแลพี่ป๊อบ คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเขาไม่ให้คิดฟุ้งซ่านครับ "
คุณพ่อป๊อบนั่งลงข้างๆภรรยาแล้วลูบหลังภรรยาเบาๆพร้อมกับเอ่ย
" ป้องพูดถูก เราต้องไม่ทำให้คนที่ไปแล้วมีห่วงข้างหลัง ในเวลานี้เราต้องคอยให้กำลังใจป๊อบนะ "
แล้วป้องก็พยุงแม่ขึ้นมานั่งบนโซฟา เอายาดมมาให้แม่ดมเพื่อให้แม่รู้สึกสดชื่นขึ้น
ป๊อบไปรับศพณัชชาที่โรงพยาบาลเพื่อไปทำพิธีฌาปนกิจด้วยตนเอง แล้วนำศพเคลื่อนย้ายไปที่วัด
ข่าวการเสียชีวิตของณัชชาถูกปิดเงียบไม่ให้สื่อไหนรู้
เพราะพ่อกับแม่ของณัชชากลัวว่า มันจะไปกระทบกับงานในบริษัทของเตชิน
ดังนั้นงานศพณัชชาจึงถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆแม้ว่าป๊อบจะไม่ค่อยพอใจกับการตัดสินใจของพ่อแม่ณัชชาในครั้งนี้
แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบและทำตามที่พวกเขาต้องการเพราะเขาไม่อยากให้ณัชชาที่จากไปรู้สึกไม่ดี
ภายในงานศพมีคนมาน้อยมาก มีคนรู้เฉพาะคนในครอบครัวและคนรู้จักมักคุ้นไม่กี่คน
ป๊อบนั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าโลงศพ จ้องโลงศพของณัชชาอย่างเหม่อลอยโดยไม่สนใจแขกที่มาเลย
พิมกับเตชินเดินเข้ามาในงานพิธีศพ แล้วทำความเคารพศพของณัชชาตามขั้นตอน
จากนั้นพิมก็เดินเข้าไปหาป๊อบ นั่งลงข้างๆเขาแล้วเลื่อนมือไปกุมมือเขาเบาๆพร้อมกับเอ่ยให้กำลังใจว่า
" คุณป๊อบ คุณต้องเข้มแข็งไว้นะ คุณยังมีลูกสาวคนสวย มีพ่อแม่ และมีฉันที่จะอยู่ข้างคุณตลอดไป
คุณต้องใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะ เพื่อให้คุณณัชชาจากไปอย่างสงบและจะได้หายห่วง
นะคะ "
น้ำเสียงอ่อนโยนของพิมทำให้เขามีสติรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขาหันมาทางพิมแล้วโผเข้ามากอดเธอพร้อมกับร้องให้ออกมาเอ่ยเสียงสั่นเครืออย่างไม่แคร์สายตาใคร
" พิม ขอบคุณนะที่คุณไม่เกลียดผม ขอบคุณที่ยังมาให้กำลังใจในวันที่ผมเสียใจมากที่สุด "
" ฉันไม่เคยเกลียดคุณค่ะ จากนี้ขอให้คุณใช้ชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งเพื่อลูกนะคะ "
เขาพักหน้าตอบเบาๆ
ทั้งสองกอดปลอบใจและให้กำลังใจกันต่อหน้าผู้คนที่มาร่วมงาน
เตชินเห็นป๊อบกอดภรรยาตัวเองไม่ยอมปล่อย
ก็ขมวดคิ้วมุ่นแววตาดูมืดมนขึ้นมาทันที
เขาลุกขึ้นยืนจะเพื่อไปลากภรรยากลับมา แต่พ่อของเขาที่นั่งข้างๆกลับรั้งแขนเขาไว้แล้วส่ายหน้าเบาๆ
เขาได้แต่หย่อนกายลงนั่งที่เดิมอย่างไม่สบอารมณ์
แววตาคมกริบจ้องเขม็งไปยังป๊อบกับภรรยาอย่างไม่ละสายตา
ทุกคนที่อยู่ในงานต่างก็แอบอึ้งที่เห็นป๊อบกอดพิมที่เป็นอดีตแฟนเก่า ต่อหน้าภรรยาที่อยู่ในโลง
พวกเขาต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันไม่เหมาะสม แล้วเริ่มแอบซุบซิบกัน
เตชินเห็นผู้คนแอบซุบซิบกันเขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธเคือง
ส่วนพ่อแม่ของณัชชาก็ทำเป็นหูทวนลม เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ นั่งหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับว่าเป็นรูปปั้น
7 คืนผ่านไป พิธีสวดพระอภิธรรมก็สิ้นสุดลง ในเช้าวันต่อมาทุกคนก็มาส่งณัชชากลับสวรรค์กันแต่เช้า
พอถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว โลงศพก็ถูกนำเข้าไปในเตาเผาไม่นานควันก็ลอยโขมงขึ้นสู่ท้องฟ้า
ทุกคนยืนส่งนางฟ้ากลับสวรรค์ด้วยความอาลัย
ป๊อบยังคงร้องให้อย่างหนักหน่วงยากที่จะทำใจได้ เขาจ้องมองควันจนมันจางหายไปในอากาศแล้วเอ่ย
" ณัชชาหากชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้พบเจอกันอีกนะ
แล้วผมจะรักคุณให้มากที่สุด รักคนเดียวและจะรักตลอดไป
นับจากนี้ไปในหัวใจผมมีเพียงคนเดียวแล้ว ผมจะรักมั่นเพียงคุณจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต
คุณไม่ต้องห่วงลูกนะ ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ขอให้คุณอยู่บนสวรรค์อย่างมีความสุขนะที่รัก
"
เขาเอ่ยคำกล่าวลาครั้งสุดท้ายทั้งน้ำตาด้วยหัวใจที่สุดแสนจะหนักหน่วงอย่างอาลัยอาวรณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา