.....หนึ่งเดือนต่อมา.....
หลังจากที่ส่งณัชชากลับสวรรค์แล้ว พิมก็เริ่มมาหาป๊อบบ่อยขึ้น
บางครั้งก็กลับไปถึงบ้านมืดค่ำ จนเตชินเริ่มไม่ชอบใจกับการกระทำของเธอ
วันนี้เป็นอีกวันที่เตชินทำงานมาเหนื่อยๆกลับมาจากบริษัทเข้าบ้านแล้วไม่เห็นหน้าภรรยา
เขารู้สึกหงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดีอย่างมากแล้วถามหาภรรยากับป้าใจเหมือนเช่นทุกวันว่า
" คุณพิมไปไหน "
" มะ ไม่ ไม่ทราบค่ะ "
ป้าใจอ้ำอึ้งที่จะตอบสุดท้ายก็เลี่ยงที่จะพูดความจริงเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก เพราะกลัวสองสามีภรรยาจะทะเลาะกัน
เตชินเห็นท่าทางของป้าใจ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าพิมไปไหน
เพราะมีที่เดียวที่ภรรยาเขาจะไป นั่นคือบ้านของแฟนเก่า ที่เพิ่งเสียภรรยาไป
" โธ่เว้ย! "
เขาสบถออกมาอย่างฉุนเฉียว ถอดเสื้อสูททิ้งลงพื้นอย่างโมโหแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา
ในห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์คุกรุ่นรอเวลาปะทุและระเบิดออกมา
เคอร์ฟิวอาบน้ำเสร็จพี่เลี้ยงก็จูงมือเขาเดินลงบันไดมา
พอเขาเห็นพ่อในห้องนั่งเล่นกำลังจะวิ่งเข้าไปหาพ่อ ป้าใจก็มาจับเขาไว้แล้วเอ่ย
" คุณชายน้อยคะ ป้าทำของอร่อยๆให้ทานด้วยนะ เราไปที่ห้องครัวกันดีกว่าค่ะ
คุณพ่อเพิ่งจะทำงานมาเหนื่อยๆ
ยังไม่ได้อาบน้ำเลยรอให้คุณพ่อไปอาบน้ำเสร็จก่อนแล้วค่อยเข้าไปหานะคะ "
เคอร์ฟิวมองหน้าป้าใจด้วยแววตาใสแป๋วแล้วเอ่ยตอบรับอย่างเชื่อฟัง
" ได้ครับ "
ป้าใจยิ้มแล้วเอ่ยชม
" คุณชายน้อยเป็นเด็กดีที่สุดเลยครับ "
แล้วป้าใจก็จูงมือเคอร์ฟิวน้อยสุดหล่อเข้าไปในห้องครัว
สุดหล่อนั่งทานข้าวเย็นโดยมีป้าใจกับพี่เลี้ยงนั่งเป็นเพื่อน
ไม่นานรถของพิมก็ขับเข้ามาจอดในโรงจดรถ เธอเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้าน
เห็นสามีนั่งหน้าเคร่งขรึมดูก็รู้ว่ากำลังโมโห เธอเดินเข้าไปหาเขาแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยท่าทีปกติ
" คุณกลับมานานแล้วเหรอคะ งั้นเดี๋ยวฉันไปเปิดน้ำอุ่นๆให้คุณแช่นะคะ จะได้สบายตัวแล้วลงมาทานข้าวพร้อมกัน "
เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินขึ้นไปบนห้องทันที
เตชินลุกจากโซฟาตามภรรยาขึ้นไปบนห้อง
เมื่อเข้ามาในห้องและปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
เขาก็รีบไปคว้าแขนพิมมาจับไว้
กระชากให้เธอหันมาทางเขาแล้วกัดฟันเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
" วันนี้คุณไปไหนมาอีก "
พิมจ้องหน้าสามีแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่าสามีเป็นอะไรแล้วเธอก็เอ่ยตอบออกไปอย่างหน้าซื่อๆ
" คุณเป็นอะไร ฉันแค่ไปช่วยคุณป๊อบเลี้ยงลูกเองนะคะ "
ยิ่งเธอทำหน้าใสซื่อ ก็ยิ่งเพิ่มระดับความโกรธของเตชินเขาจึงเอ่ยถามออกมาว่า
" พิม คุณคิดว่าคุณเป็นใครห๊ะ ถึงได้ไปบ้านเขาทุกวันโดยไม่สนใจลูกของตัวเองเลย
คุณละทิ้งหน้าที่ความเป็นแม่มาเป็นเดือน เพราะลูกคนอื่นเนี่ยนะ มันสมควรแล้วเหรอ
คุณคิดว่าไม่มีคุณแล้วพวกเขาจะเลี้ยงลูกเองไม่ได้เหรอ คุณสำคัญตัวผิดไปหรือเปล่า
บ้านเขารวยขนาดนั้นแค่พี่เลี้ยงคนเดียวคุณคิดว่าพวกเขาทั้งสองตระกูลจะไม่มีปัญญาจ้างเลยเหรอ
คุณคิดว่าตัวเองเป็นญาติฝ่ายไหนของพวกเขากันห๊ะ ถึงได้ไปมาหาสู่ทุกวันแบบนี้
หรือคุณไม่ได้ไปเพื่อเด็กอย่างเดียวแต่ไปเพื่อจุดถ่านไฟเก่าแล้วเล่นบทชู้รักกับพ่อของเด็ก ใช่มั้ย! "
เตชินตะคอกออกมาเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราดด้วยความเดือดดาล
" เพี๊ยะ!!! "
พิมได้ยินดังนั้นจึงง้างมือตบไปที่หน้าเขาสุดแรงจนหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยนิ้วมือของเธอ
เตชินอึ้งจ้องหน้าพิมอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยเสียดสีต่อไปว่า
" ทำไม รับไม่ได้เหรอที่ผมพูดความจริง "
พิมกำมือแน่นจ้องหน้าเตชินด้วยความโกรธจัดแล้วเอ่ยตอบเขาไปอย่างประชดประชันว่า
" ใช่ฉันรับไม่ได้ ที่คุณพูดความจริง พอใจหรือยัง "
เอ่ยจบเธอก็ผลักเขาออกไป เตชินได้ยินดังนั้นก็ถึงกับมืดแป็ดด้าน
ไปไม่เป็น ทำใจไม่ได้ที่ภรรยาของเขากำลังไปติดผู้ชายคนอื่น
เขาช็อกและรับไม่ได้ที่เธอยอมรับออกมาตรงๆแบบนี้
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ไม่พูดคุยกันอีกเลย แยกห้องนอนกันคนละห้อง ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันความสัมพันธ์ห่างเหินมากขึ้นทุกวัน
แม้จะอยู่บ้านหลังเดียวกันแต่กลับไม่ได้เจอหน้ากันเลย เหมือนอยู่กันคนละโลก อยู่คนละช่วงเวลา
ส่วนคนที่น่าสงสารที่สุด คือ เคอร์ฟิวน้อย ทุกวันเขาต้องนั่งทานข้าวคนเดียวอย่างหงอยเหงา
มีเพียงพี่เลี้ยงกับป้าใจที่อยู่เคียงข้าง ส่วนหน้าที่หลักของเขาคือไปโรงเรียน
ในแต่ละวันเขาแทบไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลย เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกัน
เพราะแบบนี้ เขาไม่อยากไปรบหรือกวนใจพ่อแม่จึงเลือกที่จะอยู่ในส่วนของตัวเอง เชื่อฟังป้านิ่ม
เพราะป้านิ่มเป็นอีกหนึ่งคนที่รักและหวังดีกับเขาจริงๆ
เดือนเก่าผ่านไป เดือนใหม่เข้ามา ช่วงเวลาหนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก
ผ่านมาเป็นเดือนแล้วที่ความสัมพันธ์ของเตชิณกับพิมสั่นคลอส่อเค้าว่าขาเตียงจะหัก ต่างคนต่างเย็นชาใส่กัน
และในวันนี้เป็นเช้าวันใหม่ของเดือนใหม่ เป็นอีกวันที่พิมมาช่วยป๊อบเลี้ยงลูก
ความสัมพันธ์ของทั้งสองดีขึ้นเรื่อยๆใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที
เธอช่วยเขากล่อมลูกน้อย จนลูกเขาหลับไปเด็กน้อยหลับปุ๋ยในเปลนอน
ทั้งสองนั่งมองเด็กทารกน้อยในเปลอย่างเงียบๆ
แล้วพิมก็ค่อยๆเลื่อนสายตาหันไปจ้องหน้าป๊อบที่กำลังมองหน้าลูกสาวอยู่ด้วยแววตาลึกซึ้ง
ป๊อบหันมาสบตากับเธออย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อน
" มีอะไรหรือเปล่าพิม "
พิมยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยเสียงค่อย
" ฉันรู้สึกว่าตอนนี้คุณดูเปลี่ยนไปมากเลยนะคะ "
เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยถาม
" เปลี่ยนยังไง "
" คุณไม่ได้มองฉันด้วยแววตาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่กลับเป็นฉันที่อยากมองคุณด้วยแววตาแบบนั้น
ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ยิ่งคุณไม่สนใจฉัน ฉันก็ยิ่งอยากจะกลับมาหาคุณ
อยากเจอคุณทุกวัน แม้รู้ว่ามันผิดแต่ก็ไม่อาจหักห้ามใจได้ สุดท้ายก็ต้องมาหาคุณจนได้ "
พิมสารภาพความในใจออกมา ป๊อบอึ้งไปเขาสบตากับพิม
แล้วเอ่ยถามอย่างไม่อยากเข้าใจความหมาย
ที่พิมกำลังสื่อ
" คุณหมายความว่าไง "
" ฉันยังอยากกลับมาอยู่กับคุณค่ะ ยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งรู้สึกอบอุ่น อยากกลับมาเป็นเหมือนอย่างในอดีต เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย "
ป๊อบหรี่สายตาลงแล้วเอ่ย
" แต่คุณมีสามีที่จดทะเบียนกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วนะ "
พิมสบตากับเขาแล้วจับมือเขาพร้อมกับเอ่ยอย่างจริงจังด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ว่า
" หากคุณตกลงที่จะกลับมาคบกันเหมือนในอดีต ฉันจะขอหย่ากับเขาค่ะ "
ป๊อบคาดไม่ถึงว่าวันหนึ่งคนที่ทิ้งเขาไปอย่างเลือดเย็นจะหวนกลับมาหาเขาอีกครั้ง แล้วเขาก็เอ่ยถามขึ้นว่า
" คุณไม่รักเขาแล้วเหรอ แล้วลูกชายคุณล่ะ คุณไม่สงสารลูกเหรอที่จะทิ้งพ่อเขามาอยู่กับผมแบบนี้น่ะ "
" อย่างที่ฉันเคยพูดค่ะ เรื่องของความรู้สึก เรื่องของหัวใจมันบังคับกันไม่ได้หรอก ฉันเชื่อว่าลูกจะเข้าใจเมื่อเขาโตขึ้น "
ป๊อบหลับตาลงช้าๆแล้วลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง พิมก็ลุกตามเขาไป
พอมาอยู่นอกห้องแล้วป๊อบก็หันมาเอ่ยกับพิมว่า
" พิม คุณอย่าทำแบบนี้เลย "
สีหน้าพิมดูผิดหวังแววตาดูเศร้าไปในทันทีที่ได้ยินป๊อบพูดแบบนี้ออกมา แล้วเธอก็เอ่ยว่า
" ฉันรู้ค่ะ ว่าสิ่งที่ฉันคิดมันผิดศิล5 ข้อ3 แต่ฉันรักคุณนะ ฉันอยากกลับมาอยู่กับคุณจริงๆ "
" พิม คุณเปลี่ยนไปมากเลยนะ เปลี่ยนไปจนผมแทบไม่รู้จักคุณ
คุณรู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา คุณรู้ตัวมั้ยว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำ เขาเรียกว่านอกใจ
การคบชู้ ผิดศิลธรรมเช่นนี้ พิมคนก่อนที่ผมเคยรักจะไม่ทำเรื่องไม่ถูกต้องแบบนี้
และผมก็ไม่อยากจะเป็นชู้กับคุณ คุณกลับไปซะเถอะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก "
เขาเอ่ยปฏิเสธเสียงเข้มอย่างเย็นชา ทำให้พิมเสียใจจนน้ำตาเอ่อล้นออกมาเป็นสาย
แต่เธอก็ยังไม่ถอดใจเอ่ยถามต่ออย่างไม่ยอมแพ้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งน้ำตา
" งั้นคุณบอกฉันหน่อยว่าคุณไม่ได้หวั่นไหวกับฉันเลย บอกฉันมาว่าคุณไม่ได้รักฉันแล้ว คุณบอกฉันมา "
เขาเบือนหน้าหันไปทางอื่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเย็นชาโดยไม่เอ่ยอะไร พิมเห็นเขาเงียบเธอจึงเอ่ยต่อว่า
" เห็นมั้ย คุณไม่กล้าพูดมันออกมา แสดงว่าคุณยังรักฉันอยู่ ในเมื่อเราต่างคนต่างก็รักกันอยู่ ทำไมเราไม่กลับมาอยู่ด้วยกัน ทำตามใจตัวเองล่ะ "
ป๊อบได้ยินดังนั้นก็หันมาจ้องหน้าพิมอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยความรู้สึกรำคาญ
" ใช่! พิม ผมเคยรักคุณมาก เคยรักคุณจนโงหัวไม่ขึ้น แต่วันนี้ คุณฟังผมให้ดีนะ
ผมมูฟออนแล้ว ผมไม่ได้รักคุณแล้วได้ยินมั้ย
คนเดียวที่ผมรัก คือณัชชา ในหัวใจผมตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นและจะมีเพียงเธอตลอดไป "
ได้ยินดังนั้นน้ำตาของพิมไหลพรั่งพรูออกมาหนักกว่าเดิม
เธอจ้องหน้าเขาด้วยแววตาเจ็บปวดเสียใจแล้วเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้
" แต่เธอตายไปแล้ว เธอตายได้เป็นเดือนแล้ว เธอไม่สามารถกลับมาอยู่กับคุณได้อีกแล้ว
แล้วคุณจะรักเธอไปเพื่ออะไร คุณจะจมอยู่กับความรู้สึกที่มีให้คนที่ตายไปแล้วทำไม? "
เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า
" เป็นคำถามที่ดี คุณฟังผมให้ดีนะ ซื่อสัตย์กับความรู้สึกที่มีต่อเธอ เพราะผมรักเธอ
และเพื่อทำตามหัวใจตัวเองไง เพราะในหัวใจผมมีแต่เธอ ผมรักเธอไปแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจไปรักใครอีก
ต่อให้จิตวิญญาณเธอดับสลายเป็นผุยผง ผมก็จะรักเธอเพียงคนเดียว "
พิมเอานิ้วมือมาปาดน้ำตาแล้วหยุดร้องให้แล้วเอ่ยว่า
" ฉันอิจฉาคุณณัชชาจริงๆ ในเมื่อคุณไม่ได้รักฉันแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่มาที่บ้านคุณอีก
ขอให้คุณรักและซื่อสัตย์ต่อคุณณัชชาแบบนี้ตลอดไปนะคะ ลาก่อน "
เอ่ยจบเธอก็เดินออกจากบ้านของป๊อบ
แล้ววิ่งไปขึ้นรถขับออกไปทันที
ป๊อบที่ยืนอยู่ตรงระเบียง บนชั้นสองของบ้าน มองรถของพิมขับออกไปด้วยแววตาเศร้าแล้วพึมพำในใจว่า
[ พิมผมยังคงรักคุณนะ แต่รักในฐานะเดิมแล้ว แต่เป็นรักในฐานะน้องสาว รักในฐานะเพื่อนเท่านั้น
ในเมื่อคุณเป็นแบบนี้ ผมคงต้องพูดเพียงคำว่า
ลาก่อนกับคุณเท่านั้น
หากวันใดคุณมีสติและรู้ตัวดีแล้ว หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันนะ ]
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา