พิมนอนบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่ม เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงกริ่ง
แววตาฉายแววหวาดผวาชัดเจน
เธอรวบรวมสติ ค่อยๆลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง
เพื่อไปเปิดประตูหน้าบ้านตามความเคยชิน
แต่เธอลืมนึกไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะแม่บ้านแล้ว
เมื่อเธอยื่นมือไปเปิดประตูบ้าน ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกซะก่อน
นาวินพยุงตัวเตชินประคองกลับเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล
พิมเห็นดังนั้นเธอก็ถอยหลังไปทันที
เพราะสัญชาตญาณของเธอบอกว่า ไม่ควรเข้าใกล้เตชิน
เธอจึงเอ่ยกับนาวินว่า
" รบกวนคุณนาวินช่วยพาเขาไปนอนในห้องหน่อยนะคะ "
นาวินเห็นว่าพิมดูกลัวๆ เว้นระยะห่างกับเตชิน
เขาก็ไม่อยากทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตกใจและลำบากใจ จึงเอ่ยตอบว่า
" ได้ครับ "
แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้นพร้อมกับผลักนาวินออกไปจากตัวเขา
" นาย ครับ อะไร ฉันจะกลับขึ้นไปพร้อมพิม นายกลับบ้านไปเลย ไป "
นาวินเริ่มสงสัย ในคำพูดของเตชิน
[ ทำไมเตชินพูดอย่างกับว่าอยู่ห้องเดียวกันกับพิมเลยวะ คงไม่ใช่หรอก เราคงคิดมากไปเอง ]
นาวินสลัดความคิดออกไป เมื่อถูกไล่ให้กลับ เขาก็กลับออกไป พิมจึงเดินไปส่งเขา
จากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับเข้ามาในบ้านอย่าง
กล้าๆกลัวๆ
เตชินนั่งรอพิมออกไปส่งนาวินบนโซฟา พอเห็นเธอเดินกลับเข้ามา จึงเอ่ยขึ้น
" คุณช่วยประคองผมขึ้นห้องหน่อย "
พิมไม่เข้าใกล้เตชินและยังปฏิเสธที่จะพาเขาขึ้นห้องแบบอ้อมๆ
" คุณตัวใหญ่ขนาดนั้นแถมยังเมาตัวอ่อนปวกเปียกอีก ฉันประคองคุณไม่ไหวหรอก
คืนนี้คุณนอนบนโซฟาในห้องนี้ก่อนมั้ย รอให้คุณสร่างเมาแล้ว ค่อยเดินกลับขึ้นห้อง "
เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น
" คุณกลัวผมจะทำอะไรคุณหรือไง "
พิมยืนนิ่ง มองต่ำอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยออกมาตรงๆว่า
" ใช่ค่ะ "
เตชินเดินเข้าไปจับมือเธอแล้วเอ่ย
" ผมบอกแล้วไง ว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณอีก จนกว่าคุณจะเต็มใจ ยอมผมเอง "
คำพูดและน้ำเสียงของเขาไม่เหมือนคนเมาจนทำให้พิมตกใจ
เธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" นี่คุณไม่ได้เมาเหรอ "
เตชินจึงอุ้มพิมขึ้นมาแล้วเดินขึ้บบันไดไปพร้อมกับเอ่ย
" ต่อให้ผมเมามากแค่ไหน ผมก็อุ้มคุณได้สบาย ถ้าไม่อยากตก ห้ามดิ้นเข้าใจมั้ย "
จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง ค่อยๆวางพิมให้นั่งลงบนเตียง
แล้วเอ่ยเสียงแผ่วทุ้มและอ่อนโยนที่สุด
" คุณนอนเถอะ ไม่ต้องกังวลว่าผมจะขืนใจคุณ ผมจะไปอาบน้ำแล้ว
ถ้าคุณไม่อยากให้ผมนอนด้วย ผมจะไปนอนโซฟาในห้องทำงานเอา "
เอ่ยจบเข้าก็ไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไป
อาบน้ำทันที
ได้ยินดังนั้นพิมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
จากนั้นเธอก็ไปหยิบผ้าห่มกับหมอนและหมอนข้าง
เอาไปวางไว้ให้เขาบนโซฟา ในห้องทำงานของเขา
ซึ่งห้องทำงานกับห้องนอนของเตชินนั้นเชื่อมติดกัน
มีเพียงกระจกใสๆกั้นอยู่ สามารถมองเห็นกันและกันได้ถ้าไม่ปิดม่าน
จากนั้นเธอก็กลับมานอนลงบนเตียงพยายามหลับตา แกล้งทำเป็นหลับ
แต่หูกลับตั้งใจฟังเสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัว
ในห้องน้ำตลอด
เพราะเธอไม่เชื่อคำพูดของเตชินแล้ว
เตชินอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดช่วงล่างไว้
แล้วยืนเช็ดผม สายตาจับจ้องบนตัวคนที่นอนอยู่บนเตียง
เขารู้ว่าพิมแกล้งหลับ จากนั้นเขาก็หันไปมองยังห้องทำงาน เห็นผ้าห่มกับหมอนวางอยู่
จึงเดินไปเป่าผม และเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนอน
จากนั้นก็เดินเข้ามาหาพิมที่นอนหันหลังให้
เขาจึงเข้าไปโอบกอดเธอเบาๆแล้วก้มลงไปจูบหน้าผากเธออย่างนุ่มนวล
พิมที่แกล้งหลับเกือบจะตัวแข็งทื่อแล้ว แต่เธอก็แกล้งหลับต่อไป
จากนั้นเตชินก็เอ่ยขึ้น
" หลับฝันดีนะ อย่ากังวลไปเลย ผมจะไม่บังคับฝืนใจคุณแล้ว "
เอ่ยจบเขายื่นมือไปปิดไฟที่หัวเตียงให้พิม
แล้วลุกออกจากเตียง
เดินไปนอนบนโซฟาในห้องทำงาน
เมื่อในห้องมืดสนิทลง พิมลุกขึ้นมานั่ง ค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา
มองไปยังห้องทำงานที่เตชินนอนอยู่แล้วพึมพำออกมาในใจ
[ ใจหายใจคว่ำหมด หลับฝันดีกับผีสิ คำพูดนายมันเชื่อได้ที่ไหนล่ะ ]
ในวันรุ่งขึ้น พิมตื่นแต่เช้า เธอรู้สึกไม่สดชื่น ดวงตาไม่สดใสเหมือนเคย และลืมตาแทบไม่ขึ้น
เธอจึงไปล้างหน้า แปรงฟัน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย
จากนั้นก็เดินเธอออกจากห้อง แล้วลงไปชั้นล่าง
" คุณจำที่ผมบอกไม่ได้แล้วเหรอ ช่วงนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณไปไหนมาไหนคนเดียว
และไม่อนุญาตให้คุณเจอเพื่อนผู้ชาย คุณอยากไปไหนขอให้บอก ผมจะไปส่ง
ถ้าผมไม่ว่าหรือไม่อยู่ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยคังในการรับส่งคุณ "
พิมถอนหายใจออกมา เธอโมโหตัวเองที่โลภจนถูกขังอยู่ในกรงทองและขาดอิสระแบบนี้
เธอมองเตชินอย่างเงียบๆโดยที่ไม่เอ่ยอะไร
เธอเริ่มสงสัยแล้วว่า
ใบทะเบียนสมรสเขาก็ได้แล้ว แล้วทำไมยังต้องควบคุมเธอ ราวกับกลัวเธอจะหนีไป
ที่น่าสงสัยที่สุดคือ ทำไมถึงห้ามไม่ให้เธอพบเฉพาะเพื่อนผู้ชาย
และยังมีการระบุชัดเจนว่าช่วงนี้ เธอจึงเอ่ยถามขึ้น
" คุณบอกว่าช่วงนี้ ไม่ให้ฉันไปไหนมาไหน
คนเดียวไม่ให้พบเพื่อนผู้ชาย
งั้นแสดงว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปคุณก็จะปล่อยฉันเป็นอิสระใช่มั้ย "
เตชินรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังวิเคราะห์คำพูดของเขาอยู่ เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า
" อิสระของคุณเป็นยังไง ตอนนี้คุณไม่มีอิสระตรงไหนล่ะ คุณก็ใช้ชีวิตได้ปกติ
เพิ่มเติมก็แค่ การที่คุณไปไหนมีคนไปเป็นเพื่อน กับไม่ให้คุณพบเพศตรงข้ามก็เท่านั้นเอง "
พิมจ้องเข้าไปในดวงตาเตชินแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังตรงไปตรงมา
" ทำไมถึงไม่ให้ฉันเจอเพื่อนผู้ชาย คุณกลัวอะไร "
พอถามคำถามนี้ออกไป เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ บวกกับเตชินพยายามจะมีอะไรกับเธอตลอด
เมื่อเอาทั้งสามเรื่องมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
เธอรู้สึกตระหนกขึ้นมาในใจทันที
แล้วเอ่ยถามต่อไปว่า
" คุณคงไม่กลัวว่าฉันจะไปท้องกับผู้ชายคนอื่นหรอกใช่มั้ย ถึงไม่ให้ฉันพบเพื่อนผู้ช่วย "
เตชินยิ้มแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหมายเป็นนัยชัดจน
" คุณฉลาดขนาดนั้น คุณคิดว่าไงล่ะ ? "
ได้ยินดังนั้นก็ทำให้เธอมั่นใจและชัดเจนในคำตอบเป็นนัยของเขา
เธอมองเขาด้วยแววตาสงบนิ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
" คุณเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกงสมกับเป็นผู้บริหารระดับสูงจริงๆ
บทเรียนของฉันในครั้งนี้แพงจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่า
จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้ หยั่งถึง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะฉันโลภและโง่เอง "
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันตัวเอง น้ำตาคลอหน่วย โมโหตัวเองที่ซื่อเกินไป
จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปข้างบน ร้องให้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ
และหลากหลายความรู้สึกจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาหมด
ที่เสียท่าขายตัวเองให้เตชินแลกเงินและยังต้องอุ้มท้องเด็กโดยไม่เต็มใจ
นอกจากเสียใจแล้ว ก็มีความรู้สึกตระหนกนี้แหละที่ชัดเจน
เธอไม่อยากทำเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิต แล้วเธอจะทำยังไง ในเมื่อเธออยู่ในเงื้อมมือเขาแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา