ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า
เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จ
เขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว
หยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น
หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)
แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม
จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
พอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้ม
จากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้อง
พอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้อง
นำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า
" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "
จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
ก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิม
อย่างนุ่มนวล
จากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอม
แต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืน
มัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอ
ในเวลาที่เธอเผลอหลับ
แต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่
แท้จริงแล้วแค่เป็นเมนส์ เธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว
แต่คนโกหกมันจะเผลอลืมเรื่องที่โกหกอยู่เสมอ
เธอไม่ยอมหลับเอาแต่ลืมตาและอดหลับอดนอนทั้งคืน
ในตอนเช้าเธอรู้สึกง่วงและรู้สึกว่าร่างกาย
อ่อนล้า อ่อนเพลียนจนฝืนต่อไปไม่ไหวแล้ว
พอเตชินตื่น แล้วออกจากห้องไป เธอถึงปล่อยตัวเองให้หลับอย่างสบายใจ
ด้วยความที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืน พอหลับก็หลับลึก หลับสนิทไปทันที
คำพูดของเตชินไม่ทำให้เธอได้ยินเลยสักนิด
แม้กระทั่งเตชินจูบหน้าผาก จูบปากเธอ
เธอก็ไม่รู้สึกตัว
จากนั้นเตชินก็เอ่ยเสียงทุ้มเจือความทะนุถนอมแฝงความเอาใจใส่
ฝ่ามือหนาสัมผัสใบหน้าเรียวสวย ขาวเนียน
ดุจไข่มุกเบาๆ
" ผมไปทำงานก่อนนะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวที่ผมเตรียมไว้ให้ล่ะ "
เอ่ยจบเขาก็ลงจากเตียง แล้วไปหยิบเสื้อสูทมาสวมใส่
โดยที่ไม่รู้ว่าพิมหลับไปถึงเลมานอนประเทศอาหลับแล้ว
เขากำลังจะออกจากห้อง ก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงเดินเข้าไปในห้องทำงาน
แล้วหยิบปากกา มาเขียนข้อความลงบนโน๊ต แล้วมาแปะไว้บนถาด
จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไป ส่วนพิมหลับลึกจนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ที่บริษัท ณัชชาเดินมาที่ห้องของเตชิน
แล้วยกมือเคาะประตูเบาๆ
จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง เตชินที่นั่งทำงานบนเก้าอี้ผู้บริหาร
ด้วยท่าทางสุขุม เคร่งขรึม อย่างสง่าผ่ายเผยให้ความรู้สึกน่าเกรงขามต่อผู้พบเห็น
ใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาทรงสวยเย็นชา
ริมฝีปากได้รูป
ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง คนที่เข้ามายืนอยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาก็เอ่ยถามขึ้นอย่างสุขุม
" มีอะไรหรือเปล่า "
ณัชชาเดินเข้ามานั่งลงบนเก้า แล้วยื่นใบลาออกให้เตชิน จากนั้นก็เอ่ยว่า
" ฉันมาคิดทบทวนดีๆแล้ว คิดว่าตัวเองควรจะออกไปท่องโลกกว้าง
หาประสบการณ์ใหม่ๆ
จึงขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานค่ะ "
เตชินมองณัชชาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยถามขึ้น
" คงไม่ใช่เพราะโกรธพี่ จนอยากลาออกใช่มั้ย "
ณัชชายิ้มแล้วเอ่ยปฏิเสธว่า
" ไม่ใช่แน่นอนค่ะ กลับกันคำพูดของพี่เตชิน
ทำให้ณัชชาคิดได้
และรู้ตัว ว่าแท้จริงแล้ว ที่ผ่านมา ณัชชาแยกแยะความรู้สึกรัก กับความรู้สึกอยากครอบครองไม่ออก
ณัชชาเคยชินกับการที่มีพี่ดูแลเอาใจใส่ พอโตขึ้นด้วยความที่เราไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ
ก็เริ่มกลัวจะไม่ได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากพี่อีก
และรู้แค่ว่าจะต้องแต่งงานกับพี่เท่านั้น ถึงจะได้อยู่กับพี่
และได้รับความรักความเอาใจใส่จากพี่เหมือนเดิม
แต่กลับไม่รู้เลย ว่านั่น ยิ่งทำให้ความเป็นพี่น้องของเราหายไปและไม่เหมือน
เป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่เคยมีมานาน
ตอนนี้ณัชชารู้แล้ว ว่าการที่คนเราจะแต่งงานกันและอยู่กันอย่างมีความสุขนั้น
จะต้องเกิดจากความรักของคนสองคนที่มีให้กันและกัน
ณัชชาอยากจะออกไปเปิดหูเปิดตา และคิดว่า
ถึงเวลาแล้ว
ที่ณัชชาจะต้องออกไปตามหาคนๆนั้นที่จะเข้ามาเป็นคู่ชีวิตในอนาคตค่ะ "
ได้ฟังคำพูดของณัชชา เตชินเผยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ออกมาด้วยความดีใจ ที่ณัชชาคิดได้แบบนี้
เขาจึงเอ่ยออกมาด้วยความดีใจว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ป่วนหัวใจท่านประธานเย็นชา