ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1477

ตอนที่ 1477 การติดตามไปตามสายลม

สังสารวัฏ สิ่งนี้ย่อมหมายถึงการมีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกชาติหนึ่ง ปัญหาเรื่องการถือกำเนิดขึ้นใหม่เป็นปัญหาที่มีการสืบค้นจากระดับที่ปราศจากผู้ต่อกรไม่รู้จำนวนเท่าไรมาแล้ว และไม่รู้ว่ามีราชันเซียนจำนวนเท่าไรที่เคยครุ่นคิดกันมาแล้ว

แต่ว่า เรื่องของการมีอายุวัฒนะ เรื่องของสังสารวัฏใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย ภายใต้สถานการณ์ด้วยการอาศัยวิธีการปรกติแล้ว ต่อให้ราชันเซียนเองก็ยากจะมีอายุวัฒนะได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องของสังสารวัฏ

เนื่องเพราะต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบนี้เองที่ทำให้ราชันเซียนจำนวนมากที่ต้องการตามหามัน ต้องการได้ต้นสมุนไพรเซียนแบบนี้เพื่อการค้นคว้า และเพราะอย่างนี้นี่เอง จึงได้มีราชันเซียน เทพเจ้าแห่งทะเล และปรมาจารย์พฤกษาจำนวนไม่น้อยที่เคยมาที่เทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ต้องการตามหาต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบที่อยู่ในตำนานต้นนี้

แต่ทว่า ต่อให้เคยมีราชันเซียน หรือเทพเจ้าแห่งทะเลที่สามารถค้นพบต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบ แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดก็ต้องกลับบ้านมือเปล่า เพราะว่าต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบยังไม่โตเต็มที่ ต่อให้สามารถได้สิ่งนี้มาก็ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ มันเป็นได้เพียงหญ้าแห้งต้นหนึ่งเท่านั้น

หลังจากผ่านการรอคอยมาอย่างยาวนาน ในที่สุด ต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบก็ได้สุกงอมเต็มที่แล้วในชาตินี้

“ในแดนวิญญาณสวรรค์ยังคงมีผู้ที่แก่จนสมควรจะตายได้อยู่แล้ว ทั้งยังอยู่ในสภาพที่เดินไม่ไหวอยู่อีกหลายคน” ถานไถรว่อหนานเอ่ยอย่างเชื่องช้าว่า “พวกที่แก่จนสมควรจะตายแล้วเหล่านี้จะไม่ยอมกลับสู่ยุทธภพง่ายๆ คิดจะให้ผู้ที่แก่จนสมควรจะตายเหล่านี้ออกมาได้ เกรงว่าหากไม่อาศัยต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบแล้วคงทำไม่ได้ เกรงว่าพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนคงมุ่งหวังในสิ่งนี้ตั้งแต่ต้นแล้ว

“คนเยอะสิคึกคักดี” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ข้ายังกลัวว่าคนจะน้อย ถ้าหากพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนไม่มา ดูจะยุ่งยากอยู่เล็กน้อยสำหรับข้าเหมือนกัน แต่ว่า ในเมื่อมาก็ดีแล้ว ทั้งเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้ายพวกเขายังหนุ่มแน่นมาก พลังลมปราณเต็มเปี่ยม พลังชีวิตก็คึกคักมีชีวิตชีวา!”

เมื่อถานไถรว่อหนานได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่แล้ว ถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา ยามที่คุณชายของนางพูดคำๆ นี้ออกมา นางก็เข้าใจแล้วว่าคุณชายของนางต้องการจะทำอะไรแล้ว

“งานยิ่งใหญ่เช่นนี้ งั้นข้าไม่เข้าร่วมแล้วล่ะ” ถานไถรว่อหนานยิ้มกล่าวว่า “หากข้าไปร่วม ไม่แน่นักพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนอาจจะลังเล เป็นการทำให้เจ้าต้องเสียงาน ไหนๆ แล้วก็ถือโอกาสเช่นนี้ ให้โอกาสพวกเขาสักครั้งก็แล้วกัน ไม่แน่นักพวกเขาอาจจะรู้สึกว่ากำไพ่ตายอยู่ในมือ เป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์อยู่”

“ข้าก็หวังว่าพวกเขาจะคิดแบบนี้” หลี่ชิเย่ถึงกับเผยรอยยิ้มที่เข้มมากออกมา

ถานไถรว่อหนานเองก็หัวเราะขึ้นมา นางติดตามหลี่ชิเย่นานถึงเพียงนี้ นางย่อมรู้ดีว่าหลี่ชิเย่กำลังวางแผนให้ร้ายอะไรอยู่ แต่ว่า ผู้ที่น่าสงสารก็คงมีเพียงพวกเมิ่งเจิ้นเทียนเท่านั้น ก่อนหน้านั้นไม่นาน ได้เคยมีประเภทที่ดำรงไว้ซึ่งยโสโอหังมากจำนวนเท่าไรที่เข้าใจว่าตัวเองถือไพ่ตายอยู่ในมือ คิดว่าตัวเองสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แต่ว่า ท้ายสุดแล้วก็ต้องถูกอีกาทมิฬที่ซ่อนอยู่หลังฉากกินจนไม่เหลือกระทั่งกระดูก

ถ้าหากเป็นผู้ที่รู้เรื่องการดำรงอยู่ของอีกาทมิฬอย่างแท้จริง และรู้ถึงความน่ากลัวของอีกาทมิฬแล้ว ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดก็คือยอมอ่อนข้อและหลบออกไปเสีย ปลีกตัวออกจากยุทธภพไม่ยอมต่อกรด้วย

นับตั้งแต่อเวจีถูกกำจัดไปแล้ว บนโลกใบนี้ยากจะมีใครสามารถขัดขวางทางเดินของเขาได้อีก ไม่ว่าใครก็ตามหากหาญกล้าขวางทางของเขา ล้วนแล้วแต่ถูกฆ่าโดยไม่มีการละเว้น!

“ถ้าหากเจ้าต้องการ ข้าจะเก็บใบของหญ้าสังสารวัฏเก้าใบเอาไว้ให้เจ้าใบหนึ่ง” หลังจากที่ทั้งสองคนได้นิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ที่จ้องมองถานไถรว่อหนานได้เอ่ยขึ้นช้าๆ ด้วยท่าทีที่จริงจังมาก

“ไม่ ข้าไม่ต้องการมีของสิ่งนี้อยู่ในมือ” ถานไถรว่อหนานส่ายหน้าเบาๆ

หลี่ชิเย่กล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ต้องการ แต่ มันสามารถให้เจ้าได้เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ หากจำเป็นขึ้นมาจริงๆ เจ้าก็ยังมีโอกาสกลับมาเริ่มต้นได้ใหม่”

ถานไถรว่อหนานถึงกับนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ นางมองดูหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “ไม่ ข้าไม่ต้องการเดิมพันให้มีโอกาสกลับมาอีกครั้ง ข้ารู้สึกว่าจะสำเร็จก็ดี ล้มเหลวก็ช่าง ข้าก็จะไปเผชิญหน้ากับมัน มิฉะนั้นล่ะก็ ภารกิจเช่นนี้จะกลายเป็นภารกิจที่ยาวนานมาก ยาวนานจนข้าเองก็ไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงในปีไหนเดือนไหน…”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แล้ว ถานไถรว่อหนานถึงกับทอดถอนใจออกมาเบาๆ รู้สึกเศร้าอาดูรอยู่บ้าง กล่าวว่า “ชาตินี้ของข้านับว่าผ่านเรื่องน่าตื่นเต้นมาแล้ว และเคยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว สิ่งที่ข้าจะต้องเผชิญก็คือภารกิจสุดท้าย อะไรที่สมควรจะสิ้นสุดก็ให้มันสิ้นสุดไปเถอะ ชนะก็ดี พ่ายแพ้ก็ช่าง ทั้งหมดข้าได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ชนะหรือแพ้ให้สวรรค์เป็นผู้ตัดสินก็แล้วกัน…”

หลี่ชิเย่กุมมือของนางเอาไว้ นิ้วทั้งห้าสอดประสานด้วยกัน เขาสามารถเข้าใจสถึงสภาพจิตใจของนางได้

“ข้าเทียบไม่ได้กับคุณชาย” หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ถานไถรว่อหนานถึงกับยิ้มเจื่อนๆ ออกมากล่าวว่า “บางทีพรสวรรค์ข้าอาจจะสูงมาก หรือบางทีข้ามีความเฉลียวฉลาด แต่ ท้ายที่สุดแล้ว คนที่เปี่ยมด้วยสติปัญญายังคงเป็นคุณชาย ท่ามกลางกาลเวลาที่แสนจะยาวนานนี้ รับศึกมาครั้งแล้วครั้งเล่า การสืบเสาะมาครั้งแล้วครั้งเล่า แม้พ่ายแพ้ก็ไม่หมดกำลังใจ ชนะก็ไม่หยิ่งยโส…”

“…ท่ามกลางกาลเวลาที่ยาวนาน ร่างเงาของคุณชายป้วนเปี้ยนอยู่กับกาลเวลาอยู่เสมอ คุณชายยังคงยืนหยัดต่อไปท่ามกลางหนทางที่สุดแสนจะยาวไกลสายนี้มาครั้งแล้วครั้งเล่า จากเก้าแดนไปถึงเหนือเก้าแดน แล้วจากเหนือเก้าแดนกลับมาที่เก้าแดนอีกครั้ง จัดตั้งใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า สั่งสมมาครั้งแล้วครั้งเล่า วางแผนครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ก็ยังคงยืนหยัดอยู่อย่างนั้น”

เมื่อถานไถรว่อหนานกล่าวถึงตรงนี้แล้ว ถึงกับต้องทอดถอนใจยาวๆ ออกมา ท่าทีขมขื่นอยู่ในที หัวเราะแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ได้มีจิตที่มั่นคงอย่างคุณชาย ท่ามกลางกาลเวลาอันยาวนานเช่นนี้ไม่แน่ว่าข้าสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ส่งญาติพี่น้องไปคนแล้วคนเล่า ญาติพี่น้องที่อยู่ข้างกายต้องจากไปทีละคนๆ เหลื่อเพียงตนเองคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเดินไปอย่างโดดเดี่ยว มีเพียงตนเองเท่านั้นที่ยังคงลังเลอยู่ ไม่แน่นัก ถึงตอนนั้นข้ายังไม่ทันยืนหยัดต่อไปก็เสียสติไปแล้ว”

หลี่ชิเย่ถึงกับทอดถอนใจออกมาเบาๆ เช่นกัน กาลเวลาที่แสนจะยาวนาน มันช่างห่างไกล ห่างไกลเหลือเกิน

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าภูมิใจในตัวของคุณชายมาโดยตลอด” ถานไถรว่อหนานเองก็สอดประสานนิ้วกับหลี่ชิเย่จนแน่น เผยรอยยิ้มออกมา และกล่าวว่า “เรื่องของต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบนั้น คุณชายไม่จำเป็นต้องให้มันสิ้นเปลืองไปกับตัวของข้า ควรใช้กับที่ที่สมควรใช้มัน”

“สังสารวัฏ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา กล่าวว่า “เกรงว่าชาตินี้ข้าเองก็ไม่เคยคิดอยากจะกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกครั้ง กาลเวลามันยาวนานและไกลเกินไปแล้ว บางที ข้าเองก็มีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้ว วัดกับมันเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน สำเร็จก็ดี ล้มเหลวก็ช่าง บางทีชาตินี้ข้าก็ไม่ได้คิดที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกหากว่าล้มเหลว อย่างดีที่สุดก็อาจจะเหลือทางหนีทีไล่เอาไว้”

“ข้าเชื่อคุณชาย” ถานไถรว่อหนานยิ้มกล่าวว่า “ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว ข้าเชื่อว่าคุณชายก็ต้องเป็นคนที่ได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย ต่อให้ล้มเหลว ข้าเชื่อว่าคุณชายก็็สามารถยืนหยัดต่อไปได้ และมีทางออกที่จะกลับมาได้อีกครั้ง ยังคงมีทางหนีทีไล่ที่สามารถกวาดทำลายสิ้นศัตรูที่แข็งแกร่งได้!”

“ต่อให้มีทางออกจริง ข้าก็จะไม่ไปเดิมพันกับต้นสมุนไพรเซียนหญ้าสังสารวัฏเก้าใบที่มีโอกาสเพียงหนึ่งในห้านั่น” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา

ถานไถรว่อหนานถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาเช่นกัน แม้ว่าคุณชายจะหัวเราะอยู่ตลอด แต่ทว่า ในส่วนลึกๆ ของจิตใจเขากลับหัวเราะน้อยมาก น้อยครั้งนักที่มีการหัวเราะเต็มที่อย่างจริงๆ จังๆ เสียที

สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้พาซูหย่งหวงไปจากเกาะเจินหวู่ เพื่อเดินทางไปยังหุบเขาวัฏจักร

ระหว่างทางที่พวกหลี่ชิเย่เดินทางไปยังหุบเขาวัฏจักรนั้น บรรดาผู้บำเพ็ญตนจากทั่วทุกสารทิศของแดนวิญญาณสวรรค์ต่างเดินทางเข้าไปยังเสินจื่อโจวที่เชื่อมต่อไปยังเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่ขาดสาย ในบรรดายอดฝีมือที่เข้าไปยังเสินจื่อโจวอย่างไม่ขาดสายเหล่านี้มีอยู่เจ็ดส่วนที่เป็นผู้เฒ่าที่มีผมเผ้าขาวโพลน กระทั่งมีเป็นจำนวนมากเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษที่หายใจรวยรินอยู่

พวกเขาต่างมาด้วยเรื่องของต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ พวกเขาคือผู้ที่อยู่ในสภาพหายใจรวยรินใกล้จะตายอยู่แล้ว ไม่มีใครต้องการต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะเพื่อนำมาต่อชีวิตมากไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว

“ในเมื่อไม่ใช่สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ แล้วทำไมถึงได้มีข่าวเกี่ยวกับสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะถูกปล่อยออกมาเช่นนี้ล่ะ หรือว่ามีคนจงใจให้มีการเข้าใจผิด?” ซูหย่งหวงรู้สึกได้กลิ่นไม่สู้จะดีเมื่อเห็นบรรดาปฐมบรรพบุรุษที่หายใจรวยรินจำนวนมากที่เข้ามายังเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ โดยทื่ทั้งหมดล้วนมาด้วยเรื่องของสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะทั้งสิ้น กล่าวว่า “หรือว่านี่เป็นแผนการร้าย?”

“มันก็ไม่ใช่แผนการร้ายอะไรหรอก” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เพียงแต่ มันก็เป็นความจริงที่ทำให้เข้าใจผิด เกรงว่าแรกทีเดียวเมิ่งเจิ้นเทียนเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ทว่า องค์ชายแห่งความชั่วร้ายนั้นจะต้องรู้ไม่มากก็น้อย จะอย่างไรเสียเขาก็คือเจ้าถิ่น”

“เกรงว่าเรื่องนี้ทางเทพเจ้าโบราณน้ำลึกคงเป็นผู้ปล่อยข่าวออกมาก่อน ในเสินจื่อโจวคงมีแต่เทพเจ้าโบราณน้ำลึกเท่านั้นที่สามารถกระจายข่าวได้เร็วถึงเพียงนี้” หลี่ชิเย่กล่าวว่า “เกรงว่าไม่ว่าจะเป็นเมิ่งเจิ้นเทียนก็ดี องค์ชายแห่งความชั่วร้ายก็ช่าง พวกเขาคงต้องการทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดจริงๆ”

“พวกเขาทำเช่นนี้มีจุดประสงค์อันใดรึ?”

“กรณีของเมิ่งเจิ้นเทียนน่าจะคาดเดาได้ง่าย เขาต้องการครอบครองชะตาฟ้า เขามีความได้เปรียบที่สูงมากในแดนวิญญาณสวรรค์ ถ้าหากเทพธิดาเก็บจันทราไม่แย่งชิงชะตาฟ้า โดยรวมแล้วเขาสามารถทำกร่างได้ที่แดนวิญญาณสวรรค์ ไม่มีใครสามารถแย่งชิงกับเขาได้ แต่ หากคิดจะแย่งชิงชะตาฟ้ากับดาวรุ่งอื่นๆ ของเก้าแดนรึ อาศัยลำพังตัวเขาคงไม่ไหว เพราะว่าจะอย่างไรเสียเบื้องหลังของดาวรุ่งทุกคนย่อมมีผู้สนับสนุนอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ และมีสำนักที่แข็งแกร่งมากคอยหนุนหลังอยู่…”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา กล่าวว่า “จะอย่างไรเสีย การแย่งชิงชะตาฟ้านั้นมีความสำคัญมาก สำเร็จหรือไม่นั้นเกี่ยวพันถึงเกียรติยศเจริญรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอยทั้งชาติ ดังนั้น ในสงครามแย่งชิงชะตาฟ้านั้น มักจะมีเพียงดาวรุ่งต้องออกโรงเองเท่านั้น ยังจะต้องมีทรัพยากรและผู้คุ้มครองจำนวนมากมาสสยบฝ่ายศัตรู ลำพังเมิ่งเจิ้นเทียนคนเดียวแม้จะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถดูแลทั้งเก้าแดนได้ เขาจำเป็นต้องมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้มาเป็นผู้คุ้มครองและเฝ้าดูสถานการณ์…”

เมิ่งเจิ้นเทียนคิดจะอาศัยสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะมาดึงดูดผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้มาเป็นผู้คุ้มครองให้เขา” ซูหย่งหวงเองก็เข้าใจถึงความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใน

“จะพูดแบบนี้ก็ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ แม้ว่าผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้จะไม่เข้าสู่สมรภูมิรบให้กับเขา แต่ว่า เขาคาดหวังให้ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นนี้คอยเฝ้ากองบัญชาการให้กับเขา มิฉะนั้นล่ะก็ ยังไม่ทันได้รบแต่กองบัญชาการในแนวหลังกลับถูกผู้อื่นทำลายไป จะทำให้ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เป็นฝ่ายถูกกระทำ แน่นอน ประเภทที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้ใช่จะเชิญตัวได้ง่ายดายนัก พวกเขาไม่สนใจพวกของวิเศษอะไรอยู่แล้ว ตาเฒ่าอย่างพวกเขาสิ่งเดียวที่กลัวคือความตาย ถ้าหากมีสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะล่ะก็ ยังจะมีสิ่งใดที่สามารถดึงดูดตาเฒ่าได้มากไปกว่านี้เล่า?”

เมื่อซูหย่งหวงได้ฟังคำจากหลี่ชิเย่แล้วก็เข้าใจ ขณะเดียวกันก็เข้าใจถึงความโหดร้ายทารุณของศึกแย่งชิงชะตาฟ้า ต่อให้ผู้ที่อยู่ในระดับเมิ่งเจิ้นเทียน หากคิดจะแย่งชิงชะตาฟ้าจริง ต่อให้ตัวเขาเองมีกำลังเข้มแข็งมากกว่านี้ ก็มีวันที่ต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล