ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1478

ตอนที่ 1478 หุบเขาสังสารวัฏ

หุบเขาสังสารวัฏตั้งอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ลึกเข้าไปในเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่ตรงนี้ประกอบด้วยภูเขาที่เขียวขจี เทือกเขาที่ตั้งซ้อนกันอยู่ มียอดเขาแต่ละลูกที่คอยอารักขา ให้หุบเขานี้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางของกลุ่มภูเขาเหล่านั้น

หุบเขาลักษณะเช่นนี้ไม่ได้กว้างขวางใหญ่โตนัก ไม่ก็ไม่ได้ลึกและเงียบสักเท่าไร แต่ว่าหุบเขาที่มีลักษณะไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไปแห่งนี้ กลับมีพลังที่ทำให้ผู้คนต้องรู้สึกยำเกรง ท่ามกลางป่าเขาที่เป็นธรรมชาติงดงามตระการตาเป็นแหล่งให้กำเนิดอัจฉริยะบุคคล เหมือนว่าสถานที่ลักษณะเช่นนี้สามารถบ่มฟักสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาได้อย่างนั้น

“ก่อนหน้านี้ ขณะที่มามันไม่ใช่แบบนี้นี่” ขณะยังไม่ทันได้เข้าไปภายในหุบเขานั้น ซูหย่งหวงถึงกับกล่าวด้วยความตกใจ เมื่อเห็นภาพของสถานที่แห่งนั้นจากระยะไกล โดยเป็นภูเขาเขียวขจีและเทือกเขาที่ตั้งซ้อนเรียงรายกันอยู่ มียอดเขาแต่ละลูกที่คอยอารักขา ให้หุบเขานี้ได้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางของกลุ่มภูเขาเหล่านั้น

“มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่ทางเข้าก่อนหน้าที่เจ้าเห็นได้ถูกสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้เท่านั้นเอง ที่เจ้ามองเห็นในเวลานี้ถึงจะเป็นทางเข้าสถานที่แห่งนี้ที่แท้จริง หลี่ชิเย่ยิ้มนิดหนึ่ง และกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย

“แล้วสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่ง?” ซูหย่งหวงเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่เหมือนกัน นางเข้าไปยังสถานที่แห่งนี้ได้โดยอาศัยแผนที่ที่อยู่ในมือ เนื่องจากก่อนหน้านั้น หลี่ชิเย่ได้กำชับเอาไว้ ทำให้นางไม่กล้าเข้าไปลึก เมื่อพบเจอโครงกระดูกของบรรพบุรุษแล้วก็รีบกลับออกมาทันที

แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม เมื่อนางได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนั้นแล้ว นางยังคงรู้สึกได้ถึงความน่าเกรงขามของอำนาจที่สูงส่งนั่น เมื่อเข้าไปอยู่ท่ามกลางสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งแล้ว พลันทำให้ตนรู้สึกว่าเหมือนตกอยู่ท่ามกลางโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างนั้น ท่ามกลางสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งเช่นนี้ ทุกสิ่งล้วนกลับกลายเป็นเล็กจิ๋วไม่มีความหมายอะไร!

“เวลานี้สิ่งที่มีพลังอำนาจสูงส่งได้มีการรวมศูนย์ โดยสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งทั้งหมดไปเฝ้าอยู่ที่หญ้าสังสารวัฏเก้าใบ เนื่องจากหญ้าสังสารวัฏเก้าใบใกล้จะสุกงอมได้ที่แล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “ถ้าหากไม่เป็นเพราะสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งมีการรวมศูนย์อยู่ที่จุดๆ เดียวล่ะก็ คิดจะค้นหาสถานที่นี้ให้เจอใช่จะเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่เช่นนั้นล่ะก็คงไม่มีคนมากมายที่กลับบ้านมือเปล่าแล้ว เคยมีเทพเจ้าแห่งทะเลมาค้นหาสถานที่แห่งนี้ด้วยตนเอง แต่ทว่า ไม่สามารถค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้”

“ถ้าหากไม่เป็นเพราะในมือของเจ้ามีแผนที่แผ่นนั้นที่ราชันเซียนไม่มีวันตายทิ้งเอาไว้ให้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่เจ้าจะพบเจอสถานที่แห่งนี้ได้” หลี่ชิเย่มองดูซูหย่งหวงทีหนึ่งเมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้

เมื่อซูหย่งหวงได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว จึงได้เข้าใจว่าแผนที่ที่อยู่ในมือของตนนั้นล้ำค่าเพียงใด ก่อนหน้านั้น นางเองก็ไม่รู้ว่าแผนที่ที่อยู่ในมือของตนล้ำค่าถึงระดับนี้ แผนที่ที่อยู่ในมือของนางนั้น ครึ่งหนึ่งมาจากบรรพบุรุษพวกเขาทิ้งเอาไว้ให้ อีกครึ่งหนึ่งได้มาจากการขอแลกกับนิกายเซ็น และแผนที่อีกครึ่งหนึ่งที่ได้มาจากนิกายเซ็นนั้น ทางนิกายเซ็นได้มาจากศิษย์สาวคนหนึ่งของสำนักอมตะที่แต่งงานกับคนของนิกายเซ็นแล้วนางได้นำติดตัวมาด้วย

เดิมทีราชันเซียนไม่มีวันตายที่ได้ทิ้งแผนที่แผ่นนี้เอาไว้นั้นตั้งใจจะให้มีทางหนีทีไล่เอาไว้ เสียดายที่สำนักอมตะได้ตกต่ำลง จึงไม่ได้ใช้มัน” หลี่ชิเย่อดจ้องมองพื้นที่ที่อยู่ตรงหน้าแห่งนี้ไม่ได้

“ครั้งนั้น ในเมื่อราชันเซียนไม่มีวันตายรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ ย่อมบ่งบอกว่าเขาเคยมา เมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาจึงไม่นำเอาหญ้าสังสารวัฏเก้าใบกลับไปด้วย?” ซูหย่งหวงถามด้วยความสงสัย

หลี่ชิเย่หัวเราะขึ้นมาส่ายหัวเบาๆ และกล่าวว่า “การมาที่นี่ของราชันเซียนไม่มีวันตายไม่ได้เพื่อต้องการหญ้าสังสารวัฏเก้าใบ อย่างน้อยที่สุด เขาไม่ได้ต้องการกินหญ้าสังสารวัฏเก้าใบแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ เพื่อจะได้อยู่ต่ออีกชาติหนึ่ง ระดับเขาที่ก้าวมาถึงจุดนี้แล้ว เขาจะไม่ไปเดิมพันกับโอกาสเป็นไปได้เพียงหนึ่งในห้าแบบนั้น”

“การมาที่นี่ของราชันเซียนไม่มีวันตายในครั้งนั้น นอกจากต้องการศึกษาค้นคว้าเพื่อการอ้างอิงหญ้าสังสารวัฏเก้าใบแล้ว ยังมีแผนการอื่นๆ อีก ใช่ว่าต้องการนำเอาหญ้าสังสารวัฏเก้าใบไปด้วย”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้แล้ว หลี่ชิเย่ถึงกับหยุดนิดหนึ่ง หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ จึงได้กล่าวต่อไปว่า “อีกอย่าง สิ่งที่มีอำนาจสูงส่งอยู่ตรงนี้ ใช่ว่าคิดอยากจะนำเอาหญ้าสังสารวัฏเก้าใบไปก็นำไปได้อย่างนั้น หากดึงดันเอาไปให้ได้ เมื่อไม่มีสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งเช่นเทือกเขาต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ให้มันได้เจริญเติบโตมันก็จะเหี่ยวเฉาจนตาย ขณะเดียวกัน ต่อให้ราชันเซียนคิดจะนำมันไปก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ สิ่งมีอำนาจสูงส่งที่อยู่ตรงนี้ใช่ว่าจะฝ่าไปได้ง่ายดาย! ต่อให้เป็นราชันเซียนคิดหักหาญฝ่าเข้าไปก็ไม่แน่ว่าจะยินดีกับการที่ต้องแลกกับค่าตอบแทนขนาดนั้น!”

“ราชันเซียนก็ไม่แน่ว่าจะฝ่าได้?” ในใจของซูหย่งหวงถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ราชันเซียนนั้นคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งไร้ผู้เทียบเทียม ในยุคที่ราชันเซียนครองอำนาจ ราชันเซียนคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกร

หลี่ชิเย่กล่าวว่า “ถ้าหากราชันเซียนจะหักหาญลุยเข้าไปให้ได้ โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะต้องสูญเสียไปล่ะก็ย่อมจะทำได้ แต่ ค่าตอบแทนนั้นสูงมากจนสุดจินตนาการได้”

“มันคือสถานที่ใดกันแน่? หรือว่าสถานที่ที่มีสมุนไพรเซียนจะต้องมีสิ่งที่มีอำนาจสูงส่งเช่นนี้อยู่หรือ? ล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่ทรงพลังเช่นนี้คอยอารักขาเอาไว้อย่างนั้นหรือ?” ซูหย่งหวงถึงกับกล่าวด้วยความตระหนก

“ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เป็นความจริงเมื่อสมุนไพรเซียนที่อยู่ในระดับเช่นหญ้าสังสารวัฏเก้าใบแล้ว จะได้รับวาสนาที่ฟ้าดินประทานมาให้คอยคุ้มครอง” หลี่ชิเย่จ้องมองดูหุบเขาที่อยู่ข้างหน้า กล่าวว่า “แต่ว่า ที่ตรงนี้มีข้อแตกต่าง หญ้าสังสารวัฏเก้าใบเองก็ต่างกัน สิ่งที่มีอำนาจสูงส่งที่นี่ในระดับหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า ยกเว้นส่วนน้อยส่วนหนึ่งที่เกิดจากฝีมือมนุษย์แล้ว ที่มากกว่านั้นก็คือ การที่มันได้เจริญเติบโต ณ ที่ตรงนี้ก็ต้องได้รับวาสนาธรรมชาติที่ฟ้าดินประทานมาให้อยู่แล้ว สิ่งที่มีอำนาจสูงส่งที่อยู่ในนี้นับได้ว่า เป็นไปตามธรรมชาติที่แยกไม่ออกอยู่แล้ว!”

“ความหมายของเจ้าก็คือ หญ้าสังสารวัฏเก้าใบเป็นสิ่งที่มีเจ้าของอยู่ หรือเคยมีเจ้าของมาก่อน?” ภายในใจของซูหย่งหวงรู้สึกเต้นกระตุกทีหนึ่ง เมื่อสามารถจับใจความอะไรบางอย่างจากคำพูดของหลี่ชิเย่ได้

เมื่อซูหย่งหวงถามเช่นนี้ หลี่ชิเย่มองหน้านางทีหนึ่งแล้วยิ้มกล่าวว่า “นับว่าเจ้ามีความตั้งใจมากเลยนี่ นับว่ามีคุณสมบัติการเป็นศิษย์ที่ดีโดยแท้”

“เจ้ายกยอตัวเองให้มันน้อยๆ หน่อย!” ซูหย่งหวงเคืองจนต้องกัดฟันเมื่อถูกหลี่ชิเย่หยอกล้อเข้า จ้องมองตาขมึงว่า “เจ้ายังคงเรียกอาจารย์สักคำแต่โดยดีนะ!”

ซูหย่งหวงเองหลังจากกล่าวคำๆ นี้ออกมาแล้วก็รู้สึกไม่มีความมั่นใจเลย เนื่องจากเป็นความจริงที่อาจารย์เช่นนางไม่เหมือนอาจารย์เลยจริงๆ ขณะที่หลี่ชิเย่ที่เป็นศิษย์ก็ไม่เหมือนศิษย์เลย อาจารย์เช่นนางไม่ได้มีสิ่งใดที่จะถ่ายทอดให้กับเขา ตรงกันข้าม หลายสิ่งหลายอย่างล้วนแล้วแต่เป็นหลี่ชิเย่ที่สอนนาง ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์และอาจารย์ของพวกเขาเป็นการกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง

หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา กล่าวว่า “ที่เจ้าพูดมาก็นับว่าถูก ในบางแง่มุมหญ้าสังสารวัฏเก้าใบก็นับเป็นสิ่งที่มีเจ้าของจริง แต่ว่า ในสายตาของข้าแล้ว มันก็คือของที่ไม่มีเจ้าของ”

“เจ้าของหญ้าสังสารวัฏเก้าใบดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดกันแน่?” สิ่งนี้ทำให้ซูหย่งหวงรู้สึกแปลกใจ หญ้าสังสารวัฏเก้าใบที่เจริญเติบโตอยู่ในสถานที่เช่นนี้ ขณะที่สิ่งที่มีอำนาจสูงส่งซึ่งคอยอารักขาตรงนี้แม้แต่ราชันเซียนยังยากที่จะฝ่าไปได้ เช่นนั้นแล้ว ผู้ที่สามารถเป็นเจ้าของหญ้าสังสารวัฏเก้าใบต้องมีความแข็งแกร่งเพียงใด และมีความน่ากลัวเช่นใด

“คนตาย…” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “เจ้าลองคิดดูสิ คนเช่นใดที่ต้องการหญ้าสังสารวัฏเก้าใบ? แน่นอนที่สุด สำหรับคนตายแล้ว หญ้าสังสารวัฏเก้าใบก็มีเอาไว้เผื่อใช้เท่านั้นเอง หากไม่ถึงที่สุดแล้วก็จะไม่ยอมใช้ของสิ่งนี้ ผู้ที่สามารถก้าวมาจนถึงจุดนี้ได้แล้ว ก็จะไม่ไปเดิมพันกับสิ่งที่มีโอกาสเพียงหนึ่งในห้าเท่านั้น”

“ในเมื่อเป็นสิ่งที่มีเจ้าของ เจ้าไปเอามันมา ไม่กลัว…” ซูหย่งหวงอดที่จะพูดออกมาด้วยความกังวล

ความกังวลของนางใช่จะไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะมองจากมุมด้านใดก็ตาม เฉกเช่นผู้เป็นเจ้าของหญ้าสังสารวัฏเก้าใบเช่นนี้ ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในสถานะที่น่ากลัวมากอย่างแน่นอน

“ของที่มีเจ้าของแล้วไง?” หลี่ชิเย่กล่าวตัดบทคำพูดของซูหย่งหวง หัวเราะและกล่าวว่า “ขอเพียงเป็นสิ่งที่ข้าต้องการ ไม่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นของที่มีเจ้าของหรือของที่ไม่มีเจ้าของ ต่อให้เป็นของที่มีเจ้าของจริงๆ ก็ต้องกลายเป็นของที่ไม่มีเจ้าของ!”

ซูหย่งหวงถึงกับอึ้ง คำพูดที่อันธพาลแบบนี้จะออกจากปากตามอารมณ์ของเขาเช่นนี้แหละ เป็นอะไรที่ไร้เหตุผลสิ้นดี แต่ว่า นางไม่เคยคิดว่าหลี่ชิเย่จะพูดกันด้วยเหตุผล เขาอาศัยกำปั้นแทนคำพูดตลอดมา

ระหว่างที่หลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงพูดคุยกันก็ได้เดินทางมาถึงทางเข้าของหุบเขาสังสารวัฏแล้ว บริเวณปากทางเข้ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากออกันอยู่ตรงนั้น และมีผู้บำเพ็ญตนลักษณะต่างๆ กันไปทุกรูปแบบ

ผู้บำเพ็ญตนบางคนได้ปล่อยพลังลมปราณของตนออกมา เพื่อเป็นการอวดเบ่งกำลังของตนอย่างไม่ลังเล เพื่อประกาศให้คนอื่นได้รับรู้ว่าตนเองนั้นมีความแข็งแกร่งเช่นใด แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เก็บงำพลังลมปราณของตนเพื่อปกปิดฐานะที่แท้จริงของตน ส่วนประเภทที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีกจะไม่แสดงตน แต่อาศัยหลบซ่อนอยู่ในที่ลับเพื่อคอยสอดส่องดูอยู่เงียบๆ

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ณ บริเวณทางเข้าหุบเขาสังสารวัฏ กระทั่งมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า มีผู้ที่อยู่ในระดับสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้านั้นได้มาถึงที่ตรงนี้แล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ปรากฎตัวออกมาด้วยการหลบอยู่หลังฉากเท่านั้น

“คนโหดมาแล้ว” ผู้คนจำนวนมากต่างทยอยกันหลบเป็นทางกับการมาถึงของหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวง โดยไม่มีใครกล้าขวางทางของพวกเขา

แต่ว่า บางคนถึงกับรู้สึกโล่งอกขึ้นมากับการมาถึงของหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวง เนื่องจากลำพังแค่คนโหดอันดับหนึ่งก็นับว่าน่ากลัวมากแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาทำให้ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถวนต้องรู้สึกขวัญอ่อนแล้ว หากยังมีเทพธิดาเก็บจันทรา และเทพธิดาเจินหวู่ที่ให้การสนับสนุนเขามาด้วยล่ะก็ เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถแย่งชิงสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะกับเขาได้แล้ว!

บรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ยังดีหน่อย แต่สำหรับผู้ที่ใกล้จะตายอยู่แล้ว สำหรับพวกเขาจะต้องได้ แม้ว่าต้องเผชิญหน้ากับระดับอย่างหลี่ชิเย่ หรือเมิ่งเจิ้นเทียน พวกเขาก็พร้อมที่จะเสี่ยงสักครั้ง จะอย่างไรเสียสำหรับคนที่ใกล้จะตายแล้ว ไม่มีสิ่งใดล้ำค่ายิ่งไปกว่าการได้มีชีวิตอยู่ต่อไป

กล่าวสำหรับ คนที่พร้อมจะเสี่ยงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหลี่ชิเย่ และหรือเมิ่งเจิ้นเทียน พวกเขาก็พร้อมเสี่ยงเต็มที่ และเข้าแย่งสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะอยู่แล้ว

ท่ามกลางเหตุการณ์ที่ไม่ได้มาทั้งเทพธิดาเก็บจันทรา และเทพธิดาเจินหวู่ ทำให้คนบางคนรู้สึกโล่งอกลับๆ อย่างน้อยมันก็ยังมีโอกาสให้พวกเขาอยู่บ้างในการแย่งชิงสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะกับหลี่ชิเย่ แต่หากมาทั้งเทพธิดาเก็บจันทรา และเทพธิดาเจินหวู่ล่ะก็ พวกเขาจะไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อยนิด

“เขายังหนุ่มแน่นมาก ทำไมถึงได้ต้องการสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะนั่น” เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ และซูหย่งหวงมาด้วย มีคนอดที่จะซุบซิบและไม่พอใจอยู่ในใจบ้าง

แน่นอนอยู่แล้ว ผู้ที่ไม่พอใจนั้นจะคือพวกที่เป็นตาเฒ่าที่แก่จนสมควรจะตายอยู่แล้วเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าจะอย่างไรเสีย การที่หลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญตนที่มีอายุน้อย กำลังมีพลังลมปราณที่ทรงพลัง กลับเข้ามาแย่งชิงสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะกับพวกเขา พวกเขาย่อมจะไม่สบอารมณ์ไม่มากก็น้อย

“แม้ว่าเขาจะไม่ต้องการใช้ต้นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ แต่ว่า คนอื่นต้องใช้นี่ ถ้าหากใช้ต้นอายุวัฒนะสักต้น ย่อมสามารถเชิญตัวผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้อยู่แล้ว! อีกอย่าง ผู้บำเพ็ญตนคนไหนกล้าบอกว่าตัวเองจะไม่แก่ตายสักวัน” แต่ก็มีตาเฒ่าบางคนที่ยิ้มๆ และไม่ถือสาหากจะมีหลี่ชิเย่ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาแย่งสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะด้วย

เวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่จ้องมองไปยังหลี่ชิเย่ ยังไม่ทันได้เริ่มต้นแย่งชิงสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ ก็มีคนถือเอาหลี่ชิเย่เป็นศัตรูเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล