ตอนที่ 1481 ขุนพลชุดขาว
ผู้ที่ขวางทางเข้าหุบเขาหิมะเป็นบุรุษวัยกลางคนคนหนึ่ง เขาสวมชุดขาวทั้งชุด นั่งอยู่ตรงปากทางเข้าหุบเขาหิมะ
บนตัวของบุรุษวัยกลางคนผู้นี้ไม่ได้แผ่กลิ่นอายที่สะเทือนฟ้าดินออกมา ชุดขาวที่เขาสวมใส่อยู่นั้นดูสะอาดเรียบง่ายยิ่งนัก ด้วยชุดขาวที่สะอาดเรียบง่ายนี้แหละทำให้ตัวของเขาดูแตกต่างไป เหมือนว่าชุดที่เขาสวมใส่อยู่นั้นไม่ใช่ชุดขาว แต่เป็นชุดของนักรบ!
เวลานี้ ไม่ใช่ชุดขาวที่ไปขับให้คุณสมบัติประจำตัวของเขาให้เด่นขึ้น แต่เป็นคุณสมบัติประจำตัวของเขาที่ไปแต่งแต้มชุดชาวของเขา ทำให้เขากลายเป็นเหมือนขุนพลที่อยู่ในชุดของนักรบ!
บุรุษวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดขาวผู้นี้นั่งอยู่ตรงปากทางเข้า บนตักมีทวนวางขวางอยู่ ด้วยทวนเล่มนี้แหละที่ทำให้เหมือนมีเทือกเขาลูกหนึ่งที่กั้นขวางปากทางเข้าหุบเขาหิมะเอาไว้ ไม่มีใครกล้าก้าวล้ำแม้เพียงครึ่งก้าว
บุรุษวัยกลางคนชุดขาวผู้นี้คือพวกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เขาเป็นศิษย์ของเมิ่งเจิ้นเทียน และเป็นศิษย์เอกของเมิ่งเจิ้นเทียน เขาติดตามเมิ่งเจิ้นเทียนตั้งแต่อายุยังอ่อนมาก ผ่านอุปสรรคผ่านร้อนผ่านหนาวกับเมิ่งเจิ้นเทียนมานับไม่ถ้วน และเป็นผู้ที่ประจักษ์ในเกียรติยศตลอดชีวิตของเมิ่งเจิ้นเทียน! ดังนั้น เมิ่งเจิ้นเทียนจึงได้ให้ความสำคัญในตัวของเขาเป็นอันมาก เขาเป็นผู้นำให้กับกองทัพของเมิ่งเจิ้นเทียน โดยรับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการให้กับกองทัพของเมิ่งเจิ้นเทียน!
บุรุษวัยกลางคนผู้นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นขุนพลชุดขาว เขาไม่เพียงติดตามเมิ่งเจิ้นเทียนตั้งแต่ยังมีอายุน้อยมากและเมิ่งเจิ้นเทียนเองก็ให้ความสำคัญในตัวเขาเท่านั้น ความจริงแล้ว เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ที้สูงมาก ในขณะที่เมิ่งเจิ้นเทียนกำลังมีอำนาจสยบทั่วหล้านั้น เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแผ่นดินเช่นกัน
มีการเล่าลือกันว่า ขุนพลชุดขาวในเวลานี้ได้ก้าวเข้าสู่จักรพรรดิเทพชั้นจักรพรรดิเทพยอดสัจธรรมแล้ว นับเป็นจุดสูงสุดของจักรพรรดิเทพทั่วไปแล้ว เมื่อก้าวมาถึงระดับนี้หากต้องการก้าวไปอีกขั้น จะต้องทลายพันธนาการของสัจธรรมให้ได้ หากสามารถก้าวข้ามมาจนถึงจุดนี้ก็จะอยู่ในระดับจักรพรรดิเทพชั้นจักรพรรดิเทพโลกา
เมื่อไรที่ก้าวขึ้นสู่ชั้นของจักรพรรดิเทพโลกา เท่ากับบ่งบอกว่าได้ก้าวข้ามวิบากเต๋าของระดับจักรพรรดิเทพแล้ว แม้ว่าจะยังคงได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิเทพเหมือนกัน แต่ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ชั้นจักรพรรดิเทพยอดสัจธรรมกับชั้นจักรพรรดิเทพโลกานั้นมีช่วงห่างอยู่มากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวไปถึงชั้นจักรพรรดิเทพยอดสัจธรรมก็หมายความว่า จะมีโอกาสได้ไล่ทันรอยเท้าของราชันเซียน!
ในแดนวิญญาณสวรรค์ได้เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าหากขุนพลชุดขาวเลือกที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางสวรรค์วิถีล่ะก็ ไม่แน่นัก วันหนึ่งข้างหน้าเขาอาจสามารถไล่ตามทันเมิ่งเจิ้นเทียนที่เป็นอาจารย์ของเขา กระทั่งมีโอกาสแย่งชิงชะตาฟ้ากับเมิ่งเจิ้นเทียนซึ่งเป็นอาจารย์ของเขา
แต่ว่า มีข่าวเล่าลือกันว่า ขุนพลชุดขาวมีความจงรักภักดีต่อเมิ่งเจิ้นเทียนที่เป็นอาจารย์ของเขาเป็นอันมาก เมื่ออาจารย์ของเขายังไม่ได้เป็นราชันเซียน เขาจึงเลือกที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางโลกาวิถี เขาคือผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือที่อยู่ข้างกายเมิ่งเจิ้นเทียนที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม ขอเพียงเมิ่งเจิ้นเทียนต้องการใช้เขา เขาก็จะปรากฎกายขึ้นอย่างทันท่วงที!
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขุนพลชุดขาวคอยให้การคุ้มกันเมิ่งเจิ้นเทียนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เมิ่งเจิ้นเทียนอยู่บนโลกมนุษย์ หรือว่าจะเป็นช่วงที่ผนึกฝังร่างผิดยุค เขาก็คอยเป็นเสาหลักค้ำให้กับเมิ่งเจิ้นเทียนมาโดยตลอด อีกทั้งปรกติแล้ว น้อยครั่งที่ขุนพลชุดขาวจะอยู่ห่างตัวเมิ่งเจิ้นเทียน แต่ทว่า มาวันนี้เขากลับมาปรากฏตัวอยู่ที่ตรงนี้ นับว่ามีความหมายที่ไม่ธรรมดา!
มาวันนี้ ขุนพลชุดขาวนั่งอยู่ตรงปากทางเข้าหุบเขาหิมะ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดได้ผ่านเข้าไป แม้ว่าทุกคนต่างต้องการติดตามเข้าไป และต้องการกระโดดข้ามไปยังอาณาจักรถัดไป แต่ ทุกคนต้องจนด้วยเกล้าเมื่อมีขุนพลชุดขาวขวางอยู่ตรงนี้
ไม่ว่าใครก็ตาม หากคิดจะหักหาญฝาเข้าไปก็ต้องประเมินตัวเองให้ดีเสียก่อน เพราะมีการเล่าลือกันมานานแล้วว่า ขุนพลชุดขาวอยู่ในระดับจักรพรรดิเทพชั้นสัจธรรม การที่จะเป็นศัตรูกับจักรพรรดิเทพชั้นสัจธรรมก็ต้องดูว่าตนเองนั้นมีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น ขุนพลชุดขาวไม่ได้แทนตัวเขาเองคนเดียว การที่เขามาขวางทางอยู่ที่ตรงนี้ลำพังคนเดียวนั่นย่อมบ่งบอกว่า เขาต้องได้รับอนุญาตจากเมิ่งเจิ้นเทียน กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นคำสั่งของเมิ่งเจิ้นเทียน
สิ่งนี้ย่อมเป็นการบ่งบอกว่า เบื้องหลังของขุนพลชุดขาวมียอดฝีมือเช่นเมิ่งเจิ้นเทียน องค์ชายแห่งความชั่วร้าย และจักรพรรดิหอยสังข์ แล้วจะมีใครหาญกล้าเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่ระดับเช่นนี้?
จากการที่มีขุนพลชุดขาวมาขวางทางเข้าไปยังหุบเขาหิมะนี้เอง ทำให้ทุกคนสามารถคาดเดาได้ว่า หากกระโดดข้ามไปยังอาณาจักรแห่งนี้ได้แล้ว เกรงว่าคงเป็นสุดทางของหุบเขาสังสารวัฏแล้ว และสามารถเข้าถึงสถานที่ที่สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะขึ้นอยู่
ทุกคนต่างเข้าใจได้ว่า การที่สามารถเข้าถึงสถานที่ที่สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะขึ้นอยู่นั้นหมายถึงอะไร ไม่ว่าใคร็ตามย่อมต้องการสิ่งนี้อย่างยิ่งเพราะมันคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากแล้ว ต่อให้ไม่สามารถได้สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะมาครอบครอง ขอเพียงได้รับใบๆ หนึ่งของสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะ หรือหรือดินกองหนึ่งจากบริเวณที่สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะขึ้นอยู่ ไม่แน่นักอาจได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ไปชั่วชีวิตก็เป็นไปได้
เวลานี้ การที้ขุนพลชุดขาวมาขวางทางเข้าเอาไว้เช่นนี้ ย่อมเป็นการบ่งชี้ว่าพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนต้องการฮุบสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว แม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจอย่างยิ่งกับการกระทำของพวกเมิ่งเจิ้นเทียน แต่ทว่า ก็จนด้วยเกล้า
แต่ว่า การมาถึงของหลี่ชิเย่พลันทำให้ผู้บำเพ็ญตนที่ถูกขวางให้หยุดอยู่กับปากทางเข้าหุบเขามองเห็นความหวังในทันที และรู้สึกได้ว่าโอกาสได้มาถึงแล้ว
ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่า คนโหดอันดับหนึ่งกับเมิ่งเจิ้นเทียนคือศัตรูคู่อาฆาต การที่ขุนพลชุดขาวกล้าขวางทางเข้าเอาไว้เช่นนี้ เขาต้องสังหารขุนพลชุดขาวอย่างแน่นอน เพื่อบุกเข้าไปด้านในนั้น
ดังนั้น ในเวลานี้ทุกคนต่างหลีกเป็นทางเพื่อให้หลี่ชิเย่ได้เข้าไป บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่ถูกขวางให้อยู่ที่ตรงนี้ต่างลิงโลดที่จะได้เห็นคนโหดอันดับหนึ่งสังหารขุนพลชุดขาวเสีย จากนั้น จะได้ตาทกันเข้าไปด้านใน
กล่าวสำหรับยอดผีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว ต่อให้ไม่สามารถได้สมุนไพรเซียนอายุวัฒนะมาครอบครองก็ตาม แต่ กระหายได้เห็นเป็นบุญตาก็ยังดี ชาตินี้ขอเพียงมีโอกาสได้เห็นสมุนไพรเซียนอายุวัฒนะสักแวบหนึ่ง ก็เป็นต้นทุนเพียงพอที่จะใช้ในวงสนทนาได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...