ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1493

ในขณะนี้ เมิ่งเจิ้นเทียนใช้ข้อศอกดันตัวเคลื่อนย้ายร่างกายถอยไปเรื่อยๆ ในเวลานี้ ภายในใจของเมิ่งเจิ้นเทียนตลบอบอวลไปด้วยความหวาดกลัว เวลานี้ตัวเขาที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจในตนเองถึงกับความมั่นใจพังทลายลง ตัวเขาที่ไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ ตลอดมา เวลานี้กลับรู้สึกกลัวภายในใจขึ้นมา

นาทีนี้ เมิ่งเจิ้นเทียนกระทั่งรู้สึกสิ้นหวังแล้ว สิบสามลัคนาทำให้เมิ่งเจิ้นเทียนต้องสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง ผลงานเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถแซงล้ำหน้าได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าในอนาคตเขาจะมีความแข็งแกร่งปานใดก็ตาม สิบสามลัคนาก็เหมือนดั่งมารร้ายที่คอยสยบอยู่กลางใจของเขา ทำให้เขาหายใจไม่ออกตลอดไป

เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่ได้พูดเอาไว้ว่า การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ตาย เกรงว่าคงต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเงาทมิฬของหลี่ชิเย่ตลอดไป และเข้าจะต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวตลอดไป

เวลานี้ ภายในใจของทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกสั่นเทาทุกคนรู้สึกถึงความอึคอัด ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามก็ต้องมีความหวาดกลัวสายหนึ่งที่ตลบอบอวลอยู่ ทุกคนต่างรู้ดีว่า เมิ่งเจิ้นเทียนได้ตกอยู่ในฐานะจนตรอกแล้ว

“อาจารย์ รีบหนีไป” นาทีนี้ ขุนพลชุดขาวพลันลุยเข้ามาและเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าของหลี่ชิเย่

“ไป่เอ๋อร์…” ในใจของเมิ่งเจิ้นเทียนถึงกับสั่นเทาทีหนึ่ง และร้องเสียงดังออกมา เมื่อเห็นขุนพลชุดขาวที่เข้ามาขวางอยู่ข้างหน้า

“หนีไป…” ขุนพลชุดขาวร้องด้วยเสียงอันดังออกมา ขณะที่พลังลมปราณถูกปล่อยออกมาอย่างรุนแรง เขาได้ปล่อยพลังลมปราณออกมาทั้งหมดโดยไม่ได้เก็บงำเอาไว้เลยแม้แต่น้อย ร้องกล่าวออกไปว่า “ขอเพียงขุนเขายังอยู่ ใยต้องกลัวไม่มีฟืน ขอเพียงมีชีวิตอยู่ก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้! ” พลันที่กล่าวขาดคำ “ตูม” เสียงดังสนั่น เลือดวัฒนะถูกนำมาเผาผลาญ

เวลานี้ ขุนพลชุดขาวได้ทำการเผาผลาญพลังลมปราณ เลือดวัฒนะของเขาทั้งหมดในทันที แม้แต่สัจธรรมของตนก็นำมาทำการเผาผลาญด้วย เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ถูกเผาในเวลาเดียวกันนี้ เสียง “ตูม” ดังขึ้นมาอีกครั้ง ด้านหน้าของขุนพลชุดขาวปรากฎเป็นทวนยาวเล่มหนึ่ง เป็นทวนยาวที่มีสีแดงดั่งโลหิต

ภายในใจของเมิ่งเจิ้นเทียนรู้สึกเย็นวาบบ เขารู้แล้วว่าศิษย์ของตนกำลังทำอะไร จึงกัดฟันก้าวเท้าเข้าไปยังหุบเขาหิมะ หันหลังวิ่งหนีไปทันที ฉับพลันกระโดดข้ามไปยังอาณาจักรถัดไป

เหมือนดั่งที่ขุนพลชุดขาวได้พูดเอาไว้ ขอเพียงขุนเขายังอยู่ ใยต้องกลัวไม่มีฟืน ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ก็สามารถเริ่มต้นได้ใหม่

“ตูม…” เพลงทวนที่ก้าวข้ามโบราณกาลมา เพลงทวนที่หลอมรวมพลังที่แดงดั่งโลหิตไว้บนทวน ทวนที่สืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างของขุนพลชุดขาวเอาไว้ ในนั้นกอปรด้วยพลังลมปราณทั้งหมด เลือดวัฒนะทั้งหมด พลังชีวติทั้งหมด พลังสัจธรรมทั้งหมดของขุนพลชุดขาวเอาไว้

ย่อมไม่ต้องสงสัย ขุนพลชุดขาวได้ทำการรีดทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนมีอยู่จนแห้ง แล้วให้ทุกสิ่งทุกอย่างมารวมอยู่ที่ทวนเล่มนี้ นี่จะเป็นทวนสุดท้ายในชีวิตของเขา และเป็นหนึ่งทวนที่ทรงอานุภาพมากที่สุดในชีวิตของเขา!

เวลานี้ ขุนพลชุดขาวที่เดิมมีลักษณะเป็นบุรุษวัยกลางคนกลับกลายเป็นผู้ที่มีผมเผ้าขาวโพลน เพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็ได้กลายเป็นผู้เฒ่าที่มีอายุแปดสิบอย่างนั้น กระทั่งดูเป็นคนหลังค่อมไปแล้วในทันที

ทุกคนรู้สึกเย็นวาบบในใจ เมื่อเห็นขุนพลชุดขาวที่ฉับพลันกลายเป็นผมเผ้าขาวโพลน ทุกคนรู้ว่าสิ่งนี้บ่งบอกถึงสิ่งใด นี่คือการฆ่าตัวตาย!

การที่ขุนพลชุดขาวเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างของตน ไม่ว่าจะเป็นพลังลมปราณ เลือดวัฒนะ พลังชีวิต กระทั่งสัจธรรมของตน ต่อให้เขาสามารถชนะการศึกในครั้งนี้ได้เขาก็ต้องตาย เนื่องจากทุกอย่างของเขาได้ถูกรีดจนแห้งไปแล้ว

“หลี่ชิเย่ ถามทวนที่อยู่ในมือของข้าก่อน! ” ขุนพลชุดขาวที่มีผมเผ้าขาวโพลน มือถือทวนที่แดงเหมือนดั่งโลหิต แม้ว่าเขาจะดูหลังค่อมไป แต่ว่ายังคงมีปณิธานการต่อสู้ที่รุนแรง ยังคงมุ่งไปข้างหน้าอย่างห้าวหาญ ไม่มีคำว่าหวาดกลัว ไม่มีเกรงกลัว

“น่าชื่นชมในความกล้าหาญ เสียดาย เป็นการเอาไข่ไปกระทบหิน” หลี่ชิเย่ที่ยังคงอยู่ในสภาพของข้าคือสวรรค์ที่แท้จริง กล่าวท่าทีเรียบเฉยออกมา

“นี่แหละคือการอาศัยไข่ไปกระทบกับหิน! ” คำรามเสียงยาวออกมา “แว้งค์” ทวนยาวในมือที่ทลายฟ้า ทวนนี้ไปแล้วไปลับ มุ่งไปข้างหน้าอย่างหาญกล้า

เพลงทวนกระบวนท่านี้ มีแต่รุกไม่มีรับ ขุนพลชุดขาวเปิดจุดอ่อนบนตัว ทวนกับร่างของเขาพุ่งไปด้วยกัน โดยที่กระบวนท่านี้ได้พกเอาการโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรที่สุดในชีวิตกับการเข้าสังหารหลี่ชิเย่

ทวนนี้เป็นการสืบสานทุกสิ่งทุกอย่างของขุนพลชุดขาวเอาไว้ กล่าวสำหรับเขาแล้ว ชนะก็ดี แพ้ก็ช่าง ทั้งหมดล้วนไม่มีความสำคัญอีกแล้ว สิ่งที่เขาทำลงไปเพียงแค่ต้องการสร้างโอกาสให้อาจารย์ของเขาได้หนีไปเท่านั้น

หนึ่งทวนทลายฟ้า เป็นหนึ่งทวนที่เปี่ยมด้วยความเศร้าสลดและฮึกเหินเหลือเกิน ช่างมั่นคงอะไรอย่างนั้น ช่างเปี่ยมด้วยปณิธานที่สูงส่งเหลือเกิน ขุนพลชุดขาวที่ร่างกายและทวนต้องก้าวไปด้วยกัน สองมือของเขากำทวนยาวเอาไว้แน่น กระทั่งเห็นเป็นเส้นเลือดที่นูนขึ้นมา ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ทวนนี้ของเขาจะต้องขวางหลี่ชิเย่เอาไว้ให้ได้ สายตาของเขามั่นคงยิ่งนัก ปราศจากความยินดีและความเศร้าโศก!

“ปัง…” หลี่ชิเย่ ได้ปล่อยหมัดออกมาแล้ว หมัดนี้ได้ซัดเข้าใส่ปลายแหลมของทวนเข้าอย่างจัง ภายใต้การบดขยี้ด้วยหมัดๆ นี้ของหลี่ชิเย่ ทำให้ทวนยาวของขุนพลชุดขาวเริ่มโค้งงอ

“ฆ่า…” ขุนพลชุดขาวคำรามเสียงดังออกมา โดยไม่ได้หวาดหวั่นแม้แต่น้อย เลือดที่ไหลย้อมชุดของเขาจนแดงฉาน แต่ทว่า เขายังคงยืนหยัดในทวนเล่มนี้อย่างบ้าคลั่งต่อไป แม้ว่าทวนยาวเล่มนั้นที่อยู่ในมือโค้งงอจนแทบจะพับครึ่งอยู่แล้ว แต่เขายังคงต้านเอาไว้อย่างสุดแรงเกิด

รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าสู้ไม่ได้ แต่ เขายังไม่ยอมปล่อยมือและไม่ท้อถอยแม้แต่น้อย สายตาของเขาช่างมั่นคงอะไรอย่างนั้น เขาเผชิญหน้ากับความตายอย่างไม่สะทกสะท่าน นาทีนี้ ความตายกล่าวสำหรับเขาไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว ภายในใจของเขายึดติดอยู่กับความเชื่อที่มั่นคงว่า…ขวางหลี่ชิเย่เอาไว้ให้ได้!

“ปัง…” เสียงที่ดังขึ้น เหมือนดั่งที่หลี่ชิเย่ได้พูดเอาไว้อย่างนั้น สิ่งที่ทำเป็นเพียงอาศัยไข่ไปกระทบหินเท่านั้น ต่อให้ขุนพลชุดขาวอาศัยที่สุดแห่งการโจมตี ต่อให้กระบวนท่านี้ได้เค้นทุกสิ่งทุกอย่างมารวมเอาไว้กับทวนนี้ แต่ว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้าคือสวรรค์ที่แท้จริงของหลี่ชิเย่แล้ว ก็ไม่สามารถต้านหลี่ชิเย่เอาไว้ได้

ภายใต้หมัดนี้ ในที่สุดทวนยาวถูกทำลาย และหมัดนี้เลยไปซัดใส่หน้าอกของขุนพลชุดขาว เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น นับว่าหลี่ชิเย่ได้ยั้งมือเอาไว้แค่แตะตัวแล้วหยุด ไม่ได้ทะลุทะลวงหน้าอกของขุนพลชุดขาวแต่อย่างใด

ความจริงแล้ว ไม่ว่าหมัดนี้จะทะลวงอกของขุนพลชุดขาวหรือไม่ก็ตาม ผลที่ออกมายังคงเหมือนเดิม ต่อให้หลี่ชิเย่ไม่สังหารขุนพลชุดขาว ตัวขุนพลชุดขาวเองก็ไม่อาจหลีกหนีความตายไปได้พ้น เพราะเพลงทวนสุดท้ายนี้ได้รีดเค้นทุกสิ่งทุกอย่างของเขาจนแห้ง เขาไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้อีกแล้ว การที่เขายังคงยืนอยู่ได้นั้น เป็นเพราะจิตที่ยึดติดทำให้เขาสามารถยืนหยัดเอาไว้ได้

ร่างของขุนพลชุดขาวร่วงจากท้องฟ้า จังหวะที่ร่างกายของเขาร่วงลงพื้นนั้นเขาได้หลับตาลงช้าๆ แม้ว่าเขาไม่สามารถขวางหลี่ชิเย่เอาไว้ได้ แต่ทว่า เขาได้สร้างโอกาสให้อาจารย์ของเขาได้หลบหนีไป เพียงเท่านี้กล่าวสำหรับเขาก็นับว่านอนตายตาหลับได้แล้ว

หลายคนรู้สึกซาบซึ้งในใจ มองดูร่างของขุนพลชุดขาวที่ร่วงหล่นจากท้องฟ้า เวลานี้กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว แพ้ชนะไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ความเป็นความตายก็ไม่มีความหมาย ที่สำคัญคือ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่มุ่งไปข้างหน้าของขุนพลชุดขาว ทำให้ทุกคนต้องเคารพและเลื่อมใส

“ปัง” ร่างกายของขุนพลชุดขาวกระแทกกับพื้นอย่างแรง ดวงตาทั้งสองของเขาปิดสนิท เวลานี้ เขาตายด้วยท่าทีที่สงบเหลือเกิน ไม่มีความคับแค้นใจแม้แต่น้อย ไม่มีความไม่เต็มใจแม้แต่นิดเดียว

“นับเป็นชายชาตรีคนหนึ่ง” มองดูศพของขุนพลชุดขาวแล้ว หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “สามารถมีศิษย์เช่นนี้ได้ คู่ควรให้ผู้ที่เป็นอาจารย์ต้องภาคภูมิใจในตัวเขา! ”

เวลานี้ ทุกคนถึงกับต้องมองดูศพของขุนพลชุดขาว ในขณะนี้หลายคนรู้สึกเย็นวาบบในใจ โดยเฉพาะยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสต้องทอดถอนใจ และส่งเสียงสะอื้นเบาๆ ออกมา

กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนรุ่นอาวุโสจำนวนมากแล้ว ถ้าหากชั่วชีวิตของตนสามารถสอนลูกศิษย์แบบนี้ได้สักคนล่ะก็ นับว่าชาตินี้ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกแล้ว ไม่ว่าใครก็ตาม หากสามารถสั่งสอนศิษย์แบบนี้ขึ้นมาได้ สมควรถือเป็นความภูมิใจของตนไปได้ตลอดชีวิตแล้ว!

“ฝังศพของเขาเสีย” หลี่ชิเย่ที่มองดูศพของขุนพลชุดขาว จากนั้นพาซูหย่งหวงเข้าไปภายในหุบเขาหิมะ กระโดดเข้าไปยังอาณาจักรอีกแห่งหนึ่ง

ผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากทยอยกันตามเข้าไปภายในหุบเขาหิมะ เมื่อเห็นหลี่ชิเย่กระโดดเข้าไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง ต่างทยอยกันติดตามเข้าไป

แต่ก็มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเผ่าวิญญาณเทพบางคนที่ยังคงรั้งอยู่ที่ตรงนี้ พวกเขาได้จัดการฝังศพของขุนพลชุดขาว ณ ที่ตรงนั้นและแกะสลักป้ายชื่อศิลาปักเอาไว้กับหลุมฝังศพของเขา

ไม่มีใครรู้ว่าเมิ่งเจิ้นเทียนจะมีวันที่ได้กลับมาเพื่อเก็บศพของศิษย์ตนหรือไม่ และไม่มีใครรู้ว่า ในอนาคตจะมีวันที่ศิษย์ของเสินเมิ่งเทียนจะมาเก็บศพให้กับขุนพลชุดขาวหรือไม่

หลังจากที่ได้กระโดดเข้าไปในอาณาจักรถัดไปแล้ว สิ่งที่ทุกคนมองเห็นคือสนามหญ้าที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก โดยเป็นพื้นที่ที่เขียวชอุ่มไปทั่ว ทอดสายตามองออกไปจะเห็นเป็นหญ้าสีเขียวทุกพื้นที่ เป็นทุ่งหญ้าที่เปี่ยมด้วยความหอมสดชื่นของดอกไม้ต้นหญ้า เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าในลักษณะเช่นนี้แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จะทำให้รู้สึกมีกำลังวังชาเพิ่มพูนเป็นร้อยเท่า และทำให้จิตใจรู้สึกสบาย

หลังจากที่เมิ่งเจิ้นเทียนเข้าไปยังทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แห่งนี้ได้แล้ว เขาได้วิ่งไปข้างหน้าสุดแรงเกิด แม้ว่าจะต้องลากสังขารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ทว่า เวลานี้เขาไม่สามารถคำนึงสิ่งเหล่านี้ได้อีกแล้ว เขาอาศัยความเร็วสูงสุดที่มีและอาศัยพลังอย่างสุดแรงเกิดวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง เพราะข้างหน้าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว

หลี่ชิเย่เหินฟ้าไล่ติดตามไป โดยอาศัยความเร็วที่รวดเร็วมากเช่นกัน แต่ว่า ไม่ได้สำแดงจนถึงขีดสุด เขาไม่เร่งรีบจะต้องตามให้ทันเมิ่งเจิ้นเทียนในทันที

“ดูท่ายังคงมีคนที่อดกลั้นเอาไว้ไม่ยอมลงมือนะเนี่ย ไม่รู้ว่าพวกเจ้ายังจะมีลูกไม้อะไรอีก” หลี่ชิเย่ไล่ล่าสังหารเมิ่งเจิ้นเทียนไปพลาง หัวเราะกล่าวไปพลาง

เสียงของหลี่ชิเย่ส่งต่อไปได้ไกลมาก ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่สามารถได้ยิน สำหรับเมิ่งเจิ้นเทียนที่วิ่งหนีอยู่ข้างหน้ายิ่งได้ยินคำพูดนี้ได้อย่างชัดเจน

แต่ทว่า เมิ่งเจิ้นเทียนไม่ตอบและไม่เปล่งเสียงออกมาเลยสักแอะ วิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต ไม่กล้ารั้งรอแม้แต่น้อยนิด

บรรดายอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่ไล่ติดตามเข้ามาเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว พวกเขาต่างรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวยิ่งนัก ก่อนหน้านั้นจะมีผู้ใดคาดคิดว่า เมิ่งเจิ้นเทียนจะถูกคนเขาไล่ล่าสังหารจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอย่างนี้ได้

เรื่องเช่นนี้ ไม่เคยมีใครกล้าจินตนาการมาก่อน เกรงว่าก่อนหน้านั้นมีแต่ผู้คนที่คิดว่า คงมีเพียงเมิ่งเจิ้นเทียนเท่านั้นที่เป็นฝ่ายไล่ล่าสังหารผู้อื่นจนวิ่งหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ ไม่มีวันที่ใครจะมาไล่ล่าเขาจนต้องวิ่งหนีหนีหัวซุกหัวซุนอย่างนี้

แต่ทว่า มาวันนี้ เมิ่งเจิ้นเทียนกลับถูกหลี่ชิเย่ไล่ล่าสังหารจนต้องวิ่งหนีหนีหัวซุกหัวซุนอย่างนี้ ทำให้ผู้เคนจำนวนมากต้องทอดถอนใจออกมา และทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเผ่าวิญญาณเทพจำนวนไม่น้อยที่ต้องรู้สึกน่าเศร้าในใจ

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พวกเขายังคงมั่นใจในตัวของเมิ่งเจิ้นเทียนมาก พวกเขากระทั่งเข้าใจว่าเมิ่งเจิ้นเทียนสามารถสังหารหลี่ชิเย่ได้ แต่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า มาวันนี้เมิ่งเจิ้นเทียนต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ถูกหลี่ชิเย่ตามล่าสังหารจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน

แต่ทว่า ในระหว่างการตามล่าและวิ่งหนีนั้น ได้สร้างความแปลกใจให้กับบางคน พวกขององค์ชายแห่งความชั่วร้าย ไปไหนกันหมด เพราะอะไรพวกขององค์ชายแห่งความชั่วร้ายยังคงไม่ปรากฎตัวออกมาให้ความช่วยเหลือต่อเมิ่งเจิ้นเทียนที่กำลังถูกหลี่ชิเย่ตามล่าหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ในขณะนี้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล