ตอนที่ 1495 โอบล้อม
ในขณะนี้ ทุกคนถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ และกลั้นลมหายใจเอาไว้ รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่ามีหลุมพรางรออยู่ แต่หลี่ชิเย่ยังคงรับคำท้า ด้วยท่วงท่าลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องเลื่อมใสอยู่สามส่วน แม้แต่ผู้ที่มีความรู้สึกไม่ดีต่อหลี่ชิเย่ยังรู้สึกเลื่อมใสด้วยความจริงใจ
“บุรุษควรเป็นเยี่ยงนี้ ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด มุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนเผ่าวิญญาณเทพผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น ก่อนหน้านั้น ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตน ที่มีชาติกำเนิดมาจากเผ่าวิญญาณเทพ และเป็นผู้ให้การสนับสนุนต่อเมิ่งเจิ้นเทียน และมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อหลี่ชิเย่รุนแรง แต่ทว่า ในเวลานี้เขาที่อยู่ในฐานะผู้สนับสนุนต่อเมิ่งเจิ้นเทียนถึงกับเลื่อมใสในตัวของหลี่ชิเย่
ชาตินี้ หากหลี่ชิเย่ไม่ตาย ตำแหน่งราชันเซียนจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา” ระดับอ๋องเฒ่าผู้มีชาติกำเนิดมาจากเผ่าวิญญาณเทพถึงกับพูดทอดถอนใจออกมาว่า “เขามีสุดยอดระดับอยู่ครอบครอง ยิ่งมีจิตใจที่แกร่งดั่งภูผา มีความกล้าหาญที่ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ราชันเซียนจะต้องมี”
ราชันเซียนจะดีหรือเลวนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ยากจะตัดสินชี้ขาด แต่ทว่า ในระหว่างที่มีการวิจารณ์ถึงคุณสมบัติของราชันเซียนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจิตใจ เป็นจิตที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ราชันเซียนจะต้องมี ส่วนที่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลวนั้น เป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ทุกคนก็จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป มีเพียงจิตที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้เท่านั้น จึงเป็นมาตรฐานคุณสมบัติที่ทุกคนให้การยอมรับมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หลี่ชิเย่ก็ได้เดินเข้าไปแล้ว เขาจ้องมองดูเมิ่งเจิ้นเทียน จากนั้นมองรอบรอบๆ ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ออกมากันเถอะ ฝีมือการพรางตัวนับว่าไม่เลวนัก แต่ ไม่สามารถปิดบังตาทั้งสองข้างของข้าไปได้”
“แว้งค์” ในชั่วพริบตาเดียวกันนี้เอง ปรากฏเป็นกองทัพนับหมื่นนับพันขึ้นมา ตำแหน่งกองทัพนับหมื่นนับพันที่ปรากฎขึ้นมากะทันหันคือทางหนีของหลี่ชิเย่ ดังนั้น เมื่อกองทัพนับหมื่นนับพันนี้ปรากฎตัวออกมา เท่ากับได้ตัดขาดทางหนีของหลี่ชิเย่ไป และโอบล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้อย่างแน่นหนา
เวลานี้ จู่ลู่ องค์ชายแห่งความชั่วร้าย จักรพรรดิหอยสังข์ สามผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รับความเคารพสูงสุดได้ปรากฎตัวออกมาพร้อมกัน ด้านหลังของพวกเขาล้วนแล้วแต่ได้นำเอากองทัพที่สุดเข้มแข็งมาด้วยกันทั้งสิ้น
ในเวลานี้ พวกเมิ่งเจิ้นเทียนทั้งสี่คนได้นำมาสี่กองทัพ ทำการควบคุมเอาไว้ทั้งสี่ด้าน ปิดฟ้ากั้นดินเอาไว้ในฉับพลัน ตัดขาดทางหนีของหลี่ชิเย่เอาไว้โดยสิ้นเชิง
พลังลมปราณของกองทัพทั้งสี่ที่รุนแรง ทรงไว้ซึ่งกำลังอำนาจยิ่งนัก กลิ่นอายการฆ่าพลันตลบอบอวลไปทั่วทั้งบริเวณ ภายใต้กลิ่นอายการฆ่าที่น่ากลัวเช่นนี้ ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่ยืนดูอยู่ในบริเวณห่างไกลถึงกับสะท้านขึ้นภายในใจ
“ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นกองทัพที่แข็งแกร่งมากที่สุดของเทพเจ้าโบราณน้ำลึก จู่ลู่ และสำนักแตรสังข์ เกรงว่ากองทัพชั้นเยี่ยมของเทพเจ้าโบราณน้ำลึกล้วนแล้วแต่รวมตัวอยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าแล้วถึงกับรู้สึกเสียวสันหลังวาบบ
“การต่อสู้ชี้ขาดในระดับนี้ เกรงว่ากองทัพคงไม่มีประโยชน์กระมัง” มีผู้ที่มองดูกองทัพใหญ่ที่นำโดยพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนทั้งสี่คนแล้ว เอ่ยขึ้นมาด้วยความสงสัย
“มันก็ไม่แน่” อ๋องเฒ่าที่มีความรู้และประสบการณ์กว้างขวางมองดูการจัดวางตำแหน่งของพวกเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว กล่าวว่า “ถ้าหากจัดวางกำลังกันอย่างกระจัดกระจายล่ะก็ การต่อสู้ในระดับเช่นนี้ประโยชน์ของกองทัพจะมีน้อยมาก แต่ หากสามารถสำแดงได้เต็มที่มันก็ไม่แน่นัก กองทัพชนาดใหญ่ก็เปรียบเหมือนการมีพลังลมปราณที่น่าเกรงขามยิ่ง และเป็นการบ่งบอกถึงการมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งจนยากที่จะจินตนาการได้
หลี่ชิเย่กวาดตามองไปรอบๆ มองดูองค์ชายแห่งความชั่วร้าย และพวกจักรพรรดิหอยสังข์ จากนั้น สายตาตกอยู่ที่ตัวของเมิ่งเจิ้นเทียน แล้วยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “บอกตามตรงนะ ข้ารุ้สึกเสียดายแทนศิษย์ของเจ้าจริงๆ ตาแก่เหล่านี้อยู่ที่นั่นตลอด แต่ พวกเขากลับพรางตัวไม่ยอมปรากฎออกมาและไม่ยอมลงมือ พวกเขาแค่เกรงว่าจะแหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้นเอง แต่ว่า เจ้ากลับปล่อยให้ศิษย์ของเจ้าต้องตาย บางที เจ้าเองก็คาดการณ์เรื่องนี้เอาไว้แล้วก็เป็นได้ กล่าวสำหรับเจ้าแล้ว การเสียสละของศิษย์เจ้าถือเป็นเรื่องที่ยังอยู่ในขอบเขตที่สมเหตุสมผลกระมัง”
สีหน้าของเมิ่งเจิ้นเทียนแปรเปลี่ยนไปมาก ชั่วพริบตาเดียวกันนี้ ตาดำของเขาถึงกับหดตัว ความจริงแล้ว เขาเองก็รู้ถึงเหตุผลข้อนี้เป็นอย่างดี กับการที่พวกขององค์ชายแห่งความชั่วร้ายที่อยู่ที่นั่นตลอดแต่ก็ไม่ยอมลงมือ
กล่าวสำหรับเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว การล่อให้หลี่ชิเย่มาที่นี่เป็นมาตรการสุดท้ายของพวกเขา กระทั่งกับดักหลุมพรางนี้ไม่ได้เตรียมเอาไว้เพื่อหลี่ชิเย่ แต่มีไว้สำหรับหลี่ชิเย่และเทพธิดาเก็บจันทรา กับเทพธิดาเจินหวู่
หากไม่ถึงที่สุดพวกเขาจะไม่เดินแต้มนี้ กล่าวสำหรับพวกของเมิ่งเจิ้นเทียนแล้ว หากเมิ่งเจิ้นเทียนสามารถลงมือแล้วสังหารหลี่ชิเย่ได้ย่อมเป็นการดีที่สุด หากหลี่ชิเย่เป็นฝ่ายชนะ หรือว่ามีเทพธิดาเก็บจันทราคอยให้การช่วยเหลือล่ะก็ พวกเขาก็จะล่อให้หลี่ชิเย่มาที่นี่ ให้เข้ามาอยู่ในหลุมพรางนี้ เพื่อเล่นงานหลี่ชิเย่กระทั่งเทพธิดาเก็บจันทราถึงตาย!
พวกขององค์ชายแห่งความชั่วร้ายอยู่ในที่ลับตาตลอด เว้นเสียแต่ว่าเมิ่งเจิ้นเทียนหนีไม่รอดจริงๆ มิฉะนั้นแล้ว พวกเขาก็จะไม่ลงมือเด็ดขาด พวกเขาจะหลบซ่อนตัวอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะล่อให้พวกของหลี่ชิเย่และเทพธิดาเก็บจันทราเข้าไปอยู่กับดักหลุมพรางเสียก่อน
คำพูดของหลี่ชิเย่เป็นการจี้แทงใจดำของเมิ่งเจิ้นเทียนเข้าอย่างจัง การกระทำของพวกเขาเป็นการเสียสละขุนพลชุดขาวไป ขุนพลชุดขาวไม่ได้มีฐานะเป็นเพียงศิษย์เอกของเขาเท่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขุนพลชุดขาวมีความจงรักภักดีกับเขาเสมอมา สร้างผลงานเอาไว้มากมาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็ให้ความสำคัญและโปรดปราณในตัวขุนพลชุดขาวมาโดยตลอด เรียกได้ว่าได้ถ่ายทอดสุดยอดวิชาทั้งหมดที่ตนมีให้กับขุนพลชุดขาว กระทั่งมองขุนพลชุดขาวเป็นบุตรของตนเอง
แต่ว่า มาวันนี้ขุนพลชุดขาวกลับต้องมาตายในสนามรบเพื่อเขา หากมองในมุมมองของเหตุและะผลแล้ว การเสียสละเช่นนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่สมควร แต่ว่า จะอย่างไรเสียก็เป็นศิษย์เอกของเขา!
เมิ่งเจิ้นเทียนสุดลมหายใจเข้าลึกๆ รีบเร่งสะกดจิตใจของตนเอาไว้ให้มั่น นัยน์ตาทั้งสองของเขาเย็นชา กล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ข้าจะแก้แค้นให้กับศิษย์ของข้าที่ตายไปแน่! ”
ขณะที่เฉากั๋วเจี้ยนตาย เขาไม่ได้พูดคำๆ นี้ออกมา หลังจากที่ขุนพลชุดขาวตายเขาพูดคำลักษณะเช่นนี้ออกมา เขามีความตั้งใจที่จะแก้แค้นให้กับขุนพลชุดขาวจริง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
น่าอ่าน...