ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1499

ตอนที่ 1499 ตะลุมบอนสังหาร

“ตูม…” หลี่ชิเย่ซัดหมัดออกไปหนึ่งหมัด สามารถจินตนาการได้ถึงอานุภาพของสิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่งได้ ความจริงแล้ว ทุกคนต่างก็เคยได้เห็นพลานุภาพของหมัดนี้มาก่อนหน้าแล้ว หมัดเดียวที่ซัดจนเมิ่งเจิ้นเทียนกระเด็นกระดอนไป

ภายใต้หมัดๆ นี้มิติพังทลาย ผู้คนจำนวนมากเมื่อรับรู้ถึงอานุภาพของหมัดนี้แล้ว ถึงกับสะท้านภายในใจขึ้นมา ทั้งๆ ที่หมัดนี้ไม่ได้ซัดใส่บนตัวของตนเอง แต่ทว่า ผู้คนจำนวนมากกลับมีความรู้สึกว่าตนเองนั้นกลายเป็นเถ้าธุลีภายใต้หมัดๆ นี้ไป!

“ปัง…” ไม่ได้มีภาพของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยถูกหมัดของหลี่ชิเย่ซัดจนปลิวกระเด็นไปดั่งที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้ แต่เป็นฝ่ามือของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้ตบผัวะลงมา ทำให้หลี่ชิเย่จมธรณีไปโดยพลัน กระทั่งพื้นปฐพีถูกตบจนยุบ

ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกงงงัน เมื่อได้เห็นร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยอาศัยหนึ่งฝ่ามือตบจนหลี่ชิเย่จมหายเข้าไปใต้พื้นดิน ทุกคนต่างก็ประจักษ์มากับตาแล้วถึงความปราศจากผู้ต่อกรของหลี่ชิเย่ เวลานี้หมัดเดียวทลายฟ้าของหลี่ชิเย่กลับถูกตบจนจมหายเข้าไปใต้ดินด้วยฝ่ามือเดียว ความแข็งแกร่งของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้ออกจะน่ากลัวเกินไปแล้วกระมัง

ภายในใจของผู้คนจำนวนมากรู้สึกขนลุกขนพอง เมื่อมองเห็นฝ่ามือที่กดทับอยู่กับพื้นดินตรงนั้น ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ที่อยู่ใต้ฝ่ามือนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง นาทีนี้ทุกคนเข้าใจถึงความหมายของสุดยอดค่ายกลนี้แล้ว มิน่าล่ะ องค์ชายแห่งความชั่วร้ายจึงได้พูดว่า ภายใต้สุดยอดค่ายกลนี้แล้ว ต่อให้ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรกับราชันเซียนซึ่งหน้าได้มาเอง พวกเขาก็ไม่หวั่นเช่นกัน

“จบสิ้นกันแล้วรึ? ” ผู้คนจำนวนมากรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว และพึมพำออกมาเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกฝ่ามือเดียวตบจนจมหายเข้าไปใต้พื้นดิน ภายใต้หนึ่งฝ่ามือลักษณะเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน

“ตูม ตูม ตูม…” ในเวลานี้เอง ปรากฎเสียงของพื้นดินที่สั่นไหวโคลงเคลงดังขึ้นเป็นระลอก ฝ่ามือที่กดทับอยู่กับพื้นดินถูกดันขึ้นไป

ในขณะนี้ สิ่งที่ทุกคนมองเห็น หลี่ชิเย่ยังคงอาศัยสิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่ง ยังคงเป็นหนึ่งหมัดที่ทลายฟ้า ในเวลานี้เอง ร่างกายของหลี่ชิเย่แลดูเจิดจ้ายิ่งนัก พลันปะทุสี่กายเซียนขึ้นมา

ภายใต้การสนับสนุนของกายเซียนทั้งสี่ ยังคงสามารถซัดจนมือยักษ์ของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยต้องผงะด้วยสิบสองหมัดรวมเป็นหนึ่ง

เสียง “ตูม” ดังขึ้น เวลานี้อาวุธราชันเซียนทั้งสี่ที่ฝังไว้บนตัวของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นพลันพวยพุ่งอานุภาพราชันเซียนไม่มีสิ้นสุดออกมา ทำให้พลังของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยมีพลังเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และพุ่งสูงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

“ปัง…” หลี่ชิเย่ที่เพิ่งจะซัดจนฝ่ามือขนาดยักษ์ต้องผงะออกไป เวลานี้กลับถูกฝ่ามือยักษ์ข้างนี้ตบจนจมธรณีอีกครั้งหนึ่ง

ภายในใจของทุกคนรู้สึกขนลุกขนพองอยู่บ้าง เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถูกตบจนจมธรณีอีกครั้ง ดีนะที่เป็นหลี่ชิเย่ หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น เกรงว่าคงกลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว ภายใต้ฝ่ามือยักษ์เช่นนี้ แม้แต่ระดับจักรพรรดิเทพก็คงรู้สึกว่าตัวเองไม่เท่ากระทั่งมดปลวกเสียด้วยซ้ำ

“มันออกจะทรงพลังมากเกินไปแล้ว” แม้แต่อ๋องเทพเฒ่ายังคงต้องตัวสั่นเทาตลอดเวลา และขนลุกซู่ในใจ เมื่อเห็นร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยจัดการตบไปหนึ่งฝ่ามือ ส่งหลี่ชิเย่จมลงสู่ใต้ธรณีอีกครั้งหนึ่ง

“เกรงว่าหลี่ชิเย่คงไม่สามารถต้านทานได้กับสุดยอดค่ายกลที่ทรงพลังถึงเพียงนี้” เวลานี้ มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากต่างรู้สึกกังวลต่อหลี่ชิเย่ขึ้นมา

ก่อนหน้านั้น มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากที่มองหลี่ชิเย่อย่างศัตรู เรียกได้ว่าแค้นเคืองอยากให้หลี่ชิเย่ถูกผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งยิ่งกว่าสังหารจนตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่ เวลานี้กลับไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หลี่ชิเย่มีสิบสามลัคนาอยู่ในครอบครอง เฉกเช่นตัวเขาที่สุดมหัศจรรย์เช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จึงคาดหวังให้เขามีชีวิตอยู่ หวังว่าเขาจะสามารถสร้างสิ่งมหัศจรรย์กว่านี้ขึ้นมาได้อีก กระทั่งมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่คาดหวังให้หลี่ชิเย่กลายเป็นราชันเซียนอันดับหนึ่งตั้งแต่ยุคโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน

จะอย่างไรเสีย ในยุคสมัยที่ตนยังคงมีชีวิตอยู่ สามารถมองเห็นการถือกำเนิดขึ้นมาของราชันเซียนอันดับหนึ่งตั้งแต่ยุคโบราณกาลจนถึงปัจจุบันได้นับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว ถือว่าได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับยุคที่เจิดจรัสมาแล้ว

“ตูม…” ในขณะที่ทุกคนเข้าใจว่าหลี่ชิเย่ตายแน่นอนแล้วนั้น ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มือขนาดยักษ์ที่กดทับอยู่กับพื้นได้ถูกซัดจนผงะอีกครั้ง

เวลานี้ ปรากฏภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่งขวางลำอยู่กลางอากาศ มันก้าวข้ามกาลเวลา มีเหล่าเทวดาเทศนาธรรม พุทธองค์ที่บัญชาการ ขณะที่ภูเขาลูกนี้ปรากฏขึ้นมา ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ยามที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงตระหง่านลอยขวางลำเข้ามาสามารถสยบทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนรู้สึกได้ถึงจิตที่พลุ่งพล่านต้องการกราบไหว้เมื่ออยู่ต่อหน้าภูเขาศักดิ์สิทธิ์ลูกนี้ เป็นความศรัทธาสายหนึ่งที่มาจากส่วนลึกภายในจิตใจ ไม่ใช่ความหวาดกลัว

นาทีนี้เอง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้พุ่งชนจนมือขนาดยักษ์ผงะไป และภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้หวังจะอาศัยท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรเข้าสยบร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้เอาไว้!

เขาพระสุเมรุ เป็นท่วงท่าที่การโจมตีขั้นสูงสุดของระฆังเขาถัวซาน กระทั่งมือขนาดยักษ์ของร่างเงานี้ที่สามารถสยบเหล่าชั้นฟ้าได้ยังคงถูกโจมตีจนผงะหงายจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“ปัง” ขณะที่ท่วงท่าการโจมตีขั้นสูงสุดต้องการสยบร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยเอาไว้นั้น มืออีกข้างหนึ่งของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยก็ได้ยื่นออกมา โดยอาศัยมือมือทั้งสองเข้าประคองขวาง “เขาพระสุเมรุ” เอาไว้

“ตูม ตูม ตูม…” ภายใต้การสยบจากท่วงท่าการโจมตีขั้นสูงสุดนี้ กระทั่งพื้นดินยังต้องแตกละเอียด ร่างกายของร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยเริ่มจมลง ขณะนี้ฝ่าเท้าทั้งสองของมันได้จมลงสู่ใต้พื้นดินภายในระยะเวลาอันสั้น

“ช่างรุนแรงเหลือเกิน นี่ต้องการทำให้พื้นปฐพียุบหรืออย่างไร? ” ผู้คนจำนวนมากมองดูจนอ้าปากตาค้าง เมื่อเห็น “เขาพระสุเมรุ” ที่ต้องการสยบร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนั้นเอาไว้

ร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้นับว่าปราศจากผู้ต้อกรแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามหากจะต้องเผชิญกับสิ่งนี้แล้วยังคงสามารถรอดชีวิตมาได้ก็นับว่าโชคดีเป็นที่สุดแล้ว แต่หลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับต้องการสยบร่างเงาที่สูงใหญ่สุดเปรียบเปรยนี้เอาไว้ เป็นการกระทำที่ช่างอันธพาลเพียงใด