ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1583

ตอนที่ 1583 กาลเวลาที่แปรเปลี่ยน

“ผู้ที่มีชีวิตอยู่มาแล้วสามชาติ!” เมื่อข่งเชียะหมิงหวางได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ถึงกับใจหายใจคว่ำ หนาวสะท้านไปทั่วตัว นางสามารถประเมินได้ว่าผู้ที่ดำรงอยู่ในจุดสูงสุดนั้นเป็นเช่นใดได้เสมอ แต่ เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว นางถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหวโดยสิ้นเชิง ระดับสูงสุดเช่นนี้อยู่เหนือการจินตนาการของนางโดยสิ้นเชิง

แม้ว่าในแดนมนุษย์กษัตรา ระดับบรรพบุรุษและจักรพรรดิเทพจำนวนมากจะมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวมาก แต่ว่า การมีชีวิตอยู่ของพวกเขาเป็นการอาศัยการผนึกร่างเอาไว้ แต่ไม่ใช่การมีชีวิตอยู่ไปเรื่อยๆ ลักษณะของการปิดกั้นลมปราณ หยุดอายุขัย และผนึกร่างเอาไว้ไม่ถือว่ามีชีวิตอยู่ แต่มันคือการหลับใหล

ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิเทพก็ดี รัชทายาทก็ช่าง หากจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างมากก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้เพียงชาติเดียวเท่านั้น เมื่อเลยชาติหนึ่งแล้วอายุขัยก็สิ้นสุดลง และจะต้องละสังขารไปในท่านั่งกรรมฐาน

อย่างไรก็ตาม การมีชีวิตอยู่มาแล้วสามชาติมันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน เรื่องราวอันมหัศจรรย์ที่ข่งเชียะหมิงหวางเคยได้ฟังมา หนึ่งเดียวที่สามารถมีชีวิตอยู่เกินสามชาติก็คือปฐมบรรพบุรุษของพวกเขา……ราชามังกรดำ!

ผู้เฒ่าย่อมมองออกถึงท่าทีของข่งเชียะหมิงหวาง เขาไม่ได้หยิ่งยโส เพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ข้าเป็นเพียงวิญญาณเร่ร่อนที่สวรรค์ทอดทิ้งผีรังเกียจเท่านั้นเอง เทียบไม่ได้กับผู้ที่มีความเป็นจ้าวที่ยอดเยี่ยมเช่นราชามังกรดำ ข้าเพียงอยู่ไปวันๆ เท่านั้น เทียบไม่ได้กับราชามังกรดำ”

“เอาล่ะ เจิ้งฟง ไม่จำเป็นต้องถ่อมตนก็ได้ แม้ว่าเจ้าเทียบไม่ได้กับราชามังกรดำ แต่ว่า ในเก้าแดนนับว่านับนิ้วได้ การประลองกับราชันเซียนเชียนหลี่ในครั้งนั้น ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ภายใต้ราชันสังหารแท้จริงของราชันเซียนเชียนหลี่ ด้วยผลงานเช่นนี้นับว่ามีน้อยคนในโลกแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว

เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ข่งเชียะหมิงหวางถึงกับสลดจนหน้าถอดสี เวลานี้ นางถึงกับหวั่นไหวจนร่างสั่นเทิ้ม ในเวลานี้เอง นางจึงได้เข้าใจแล้วว่า ผู้ที่หลี่ชิเย่แนะนำให้เป็นผู้หนุนหลังมีความแข็งแกร่งเช่นใด และน่ากลัวเพียงใด

ราชันสังหารแท้จริง เป็นการบ่งบอกว่ามีเพียงราชันเซียนเท่านั้นที่สามารถสำแดงท่าโจมตีที่ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ได้ ราชันสังหารแท้จริงเป็นการอาศัยพลังจากชะตาฟ้าของราชันเซียน แล้วให้อาวุธราชันเซียนสำแดงสุดยอดกระบวนท่าโจมตีออกมา นี่แหละคือราชันสังหารที่แท้จริง

สมควรทราบว่า พันล้านปีที่ผ่านมานั้น ผู้คนจำนวนมากยกย่องตนว่าเคยท้าดวลกับราชันเซียน แม้ว่าจะพ่ายแพ้ต่อราชขันเซียน แต่ ถึงจะพ่ายแพ้ก็นับเป็นเกียรติ

ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากที่พูดว่าท้าดวลกับราชันเซียนมานั้น ขณะที่พวกเขาต่อสู้กับราชันเซียน ราชันเซียนเพียงอาศัยวิธีการทั่วไปเท่านั้นเอง ไม่ได้สำแดงท่าการโจมตีด้วยพลังของชะตาฟ้า หากมีการสำแดงพลังจากชะตาฟ้าล่ะก็ มันน่ากลัวจนยากจะจินตนาการได้

อย่างไรก็ตาม ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าขณะที่ราชันเซียนสำแดงพลังจากชะตาฟ้าออกมา ภายใต้พลังชะตาฟ้าของราชันเซียน ภายใต้การสำแดงท่าโจมตีราชันสังหารที่แท้จริงของราชันเซียนเชียนหลี่แล้ว ยังคงมีชีวิตอยู่ได้อีก มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน

“แค่ราชันเซียนเชียนหลี่ไม่อยากสังหารข้าเท่านั้นเอง” ผู้เฒ่าทอดถอนใจออกมาเบาๆ

แม้ว่าผู้เฒ่าจะพูดเช่นนี้ก็ตาม แต่ ด้วยผลงานเช่นนี้นับว่าน่ากลัวยิ่งนัก ต่อให้เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะสามารถต่อกรราชันเซียนซึ่งหน้าได้ก็ต้องตายอย่างแน่นอน ภายใต้ราชันสังหารที่แท้จริง!

ไม่ง่ายนักกว่าข่งเชียะหมิงหวาง จะได้สติกลับมาจากการถูกทำให้สะเทือนหวั่นไหว จึงทำความคารวะต่อผู้เฒ่าอย่างจริงจังอีกครั้ง ในเวลานี้คำพูดมากมายเท่าไรก็ดูจะไร้ประโยชน์

หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ ต่อข่งเชียะหมิงหวาง กล่าวว่า “เจ้าออกไปเดินเล่นก็แล้วกัน ข้ากับเจิ้งฟงจะคุยเรื่องสัพเพเหระภายในครอบครัว”

ข่งเชียะหมิงหวางพยักหน้าเงียบๆ และเดินจากไปเงียบๆ ภายในใจของนางรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ผู้เฒ่าผู้นี้นับว่าน่ากลัวมากแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่เขายังคงให้ความเคารพยิ่ง หลี่ชิเย่คนนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรก็แน่ ถึงกับทำให้ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดเช่นนี้ให้ความเคารพถึงเพียงนี้ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน

หลังจากที่ข่งเชียะหมิงหวางเดินจากไปแล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าขนาดนี้ นั่งลงเถอะ ผ่านมาหลายปีแล้ว คนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ก็มีอยู่ไม่มาก มาอยู่ตรงนี้สามารถทำให้ข้านึกถึงเรื่องเก่าๆ ก็มีเพียงพวกเจ้าสองพี่น้องแล้ว”

ผู้เฒ่าโค้งคำนับต่อหลี่ชิเย่ก่อนแล้วจึงนั่งลง แม้ว่าเขาจะมีกำลังความสามารถที่หมางเมินเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินได้ แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ดำรงอยู่ในฐานะอีกาทมิฬแล้ว เขายังคงเป็นได้แค่ผู้เยาว์คนหนึ่งเท่านั้น

หลังจากนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้เฒ่าจึงกล่าวว่า “ใต้เท้ามาคราวนี้เป็นเพราะเรื่องของกู้จุนรึ?”

“ถือว่าอย่างนั้นก็ได้ ข้าตัดสินใจเอาเมืองสมุทรสยบฟ้าคืนมา” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ถ้าหากเห็นแก่ราชามังกรดำ ข้าไม่ฆ่าเขาก็ได้ แต่ การลงทัณฑ์จะต้องมี ถ้าหากเขายอมอ่อนข้อให้ก็ให้เอาตัวเขาไปอุดตาน้ำ แต่หากว่าเขายังคงรั้นไม่สำนึก ข้าก็จะไม่เห็นแก่ราชามังกรดำด้วยการสังหารมันเสีย”

“คนเราต่างมีเส้นทางของตนเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้ากล่าวว่า “พูดถึงเรื่องเปล่งประกายเจิดจ้า ผลงานของเจ้าในวันนี้นับว่าสูงมากแล้ว ระดับเช่นนี้ยากที่จะมีคนสามารถแซงได้ อย่างน้อยที่สุด เฉพาะบนเส้นทางสายนี้เจ้าได้ก้าวเดินบนเส้นทางของคนอื่นไปจนถึงที่สุดแล้ว เพียงแต่ เดิมทีเจ้ามีทางเลือกที่น่าตื่นเต้นกว่านี้ เจ้ามีทางเลือกที่กว้างไกลมากไปกว่านี้ สุดท้าย เจ้ากลับเลือกร้านเหล้าเล็กๆ เช่นนี้”

“ข้าบอกได้เพียงว่า ต่างมีอุดมการณ์เป็นของตนเอง” หลี่ชิเย่หัวเราะ และกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมยว่า “ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าต้องการเลือกอะไร”

“เลือกรอความตายมั้ง” ผู้เฒ่าหัวเราะ โดยไม่ได้มีการการเศร้าเสียใจและสลด กล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย

หลี่ชิเย่ก็ได้แต่หัวเราะ กล่าวว่า “ทุกคนต่างมีทางเลือกเป็นของตน ข้าก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เส้นทางของตนยังคงต้องอาศัยการก้าวเดินด้วยตนเอง”

“ใต้เท้าเป็นเช่นนี้ตลอดมา” ผู้เฒ่ากล่าวทอดถอนใจออกมาด้วยความหดหู่ “เสียดาย ศึกเพียงครั้งที่สะเทือนฟ้าของราชามังกรดำข้าไม่สามารถไปให้กำลังใจได้”

“เจ้าดำเขาไม่ถือสาอยู่แล้ว เส้นทางที่พวกเจ้าทั้งสองเดินมันเป็นเส้นทางที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ถ้าหากจะต้องจับพวกเจ้าทั้งสองมารวมกันให้ได้ล่ะก็ ข้าไม่เห็นด้วย เจ้าดำเป็นประเภทลุยไปทั่วหล้า หากเขาเห็นท่าทางที่ดูซบเซาทั้งวันของเจ้าเช่นนี้ ไม่แน่นักเขาอาจถีบเจ้าจนกระเด็นไปสุดขอบฟ้าก็เป็นได้”

“ที่ใต้เท้าพูดมาก็ถูก ดังนั้น เขาไม่เคยคิดจะมาเยี่ยมข้าเลย ต่อให้เขามาที่บ้านตระกูลยวีและเดินผ่านมาทางนี้ เขาก็ไม่เคยมาให้เห็นหน้าสักแวบบเดียว” ผู้เฒ่าก็หัวเราะและกล่าวว่า “เฮ่อ ข้าเองก็ไม่อยากไปเยี่ยมเขา จะได้ไม่ไปเกะกะเขา”

“ช่างเถอะ พวกเจ้าพบเจอกันเมื่อไรจะต้องตีกันแน่นอน” หลี่ชิเย่หัวเราะพลางส่ายหน้าและกล่าวว่า “นิสัยเจ้าเป็นอย่างไร นิสัยเจ้าดำเป็นอย่างไร แน่นอนพวกเจ้าต่างก็เป็นหนุ่มที่มีจิตใจฮึกเหิม ดูมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันอะไรอย่างนั้น เลือดในกายที่ร้อนระอุเดือดพล่านอย่างนั้น”

“ครั้งนั้นบอกตามตรงเลยนะ สามารถมองเห็นเจ้า เจ้าดำ เชียนหลี่ พวกเจ้าสามคนที่มีสติปัญญาโดดเด่นเป็นที่ชื่นใจยิ่งนัก แม้ว่าเจ้าไม่ได้กำเนิดจากสำนักของข้า แต่ ผู้คนล้วนแล้วแต่ ยกย่องพวกเจ้าว่าเป็น ‘สามอัจฉริยะ’ ข้าก็ดีใจแทนพวกเจ้าด้วย” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ หลี่ชิเย่ถึงกับต้องทอดถอนใจออกมา

“นั่นน่ะสิ เป็นวันเวลาที่ทำใหรำลึกถึงเหลือเกิน” ผู้เฒ่าถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นเปี่ยมด้วยความรำลึกถึง “แม้ว่าครั้งนั้นข้าเข้าสู่ยุทธภพเร็วไปก้าวหนึ่ง ไม่ได้เข้าไปเป็นศิษย์สำนักของใต้เท้า แต่ ชั่วชีวิตข้าไม่เคยลืมคำสั่งสอนของใต้เท้า ในใจของข้า ใต้เท้ามีฐานะเสมือนเป็นอาจารย์เสมอมา และใต้เท้าได้ฝากความหวังกับข้า เสียดาย ข้าทำให้ใต้เท้าต้องผิดหวังแล้ว ไม่สามารถเป็นราชันเซียนได้เหมือนดั่งเชียนหลี่เขา และไม่สามารถเหมือนดั่งราชามังกรดำที่เป็นที่เคารพยกย่องถึงสามชาติ ชั่วชีวิตของข้าก็แค่อยู่เงียบๆ ปราศจากชื่อเสียงเท่านั้น” เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้แล้ว เขาถึงกับเผยรอยยิ้มออกมา โดยไม่ได้รู้สึกอ้างว้างแต่อย่างใด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล