ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1591

.ตอนที่ 1591 ยวียวี่เหลียน

ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกเสียดายในตัวของว่อหลงจื่อ ผู้ที่สามารถทิ้งร่างเงาเอาไว้บนขั้นที่สิบมีเพียงสามคนเท่านั้น ได้แต่ติ้งหย่วนโหว เย่จิ่วโจว และว่อหลงจื่อ!

ในจำนวนคนทั้งสามมีว่อหลงจือที่มีอายุน้อยที่สุด ขณะเดียวกัน ทั้งติ้งหย่วนโหวและเย่จิ่วโจวต่างก็เป็นระดับจักรพรรดิเทพที่ปราศจากผู้ต่อกรผู้เปี่ยมด้วยอำนาจมากมาย ขณะที่ว่อหลงจื่อกลับร่วงหล่นจากฟ้าตั้งแต่อายุยังน้อย

เคยมีผู้กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าหากว่อหลงจื่อยังคงมีชีวิตอยู่ เกรงว่าผลงานของเขาคงไม่ด้อยไปกว่าติ้งหย่วนโหวและเย่จิ่วโจวอย่างแน่นอน

เวลานี้ สายตาของผู้คนจำนวนมากตกอยู่ที่ขั้นสิบเอ็ด ซึ่งขั้นที่สิบเอ็ดนี้มีร่างเงาทิ้งเอาไว้เพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น และเป็นการบ่งบอกว่า ผู้ที่เคยมาปีนบันไดเสียงสิบสองขั้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถทิ้งร่างเงาเอาไว้บนขั้นที่สิบเอ็ด

“องค์หญิงยวีมาแล้ว” ในขณะที่สายตาของผู้คนจำนวนมากกำลังจับจ้องอยู่ที่ขั้นสิบเอ็ดนั้น ไม่รู้ว่าใครที่เอ่ยเสียงแผ่วเบาออกมา

ผู้คนต่างทยอยกันละสายตากลับมา และรีบมองออกไป เวลานี้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา นางสวมชุดขาวทั้งชุด เสมือนดั่งดอกบัวที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ หญิงสาวผู้นี้มีรูปโฉมงดงามยิ่งนัก สวยประทับใจผู้คน ดวงตาคู่นั้นที่เหมือนดั่งน้ำที่กระเพื่อมแสดงออกถึงความงามหยาดเยิ้มของนาง

“คุณหนูยวี…”ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยเดินเข้าไปทักทายอย่างอบอุ่น เมื่อเห็นหญิงสาวผู้นี้ หลายคนกล่าวคำเยินยอออกมา แน่นอน มีชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยที่หลงรักในตัวนาง

ยวียวี่เหลียนคือคุณหนูแห่งบ้านตระกูลยวี ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่ของมหาสมุทรอุดรนางนับได้ว่ามีชื่อเสียงที่โด่งดังมาก เป็นที่รักใคร่และได้รับการยกยอปอปั้นจากบุรุษที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อย

“วันนี้น้องเดินทางมาเพื่อทดสอบ ไม่นึกเลยว่าจะได้รับกำลังใจจากผู้ที่อยู่ในรุ่นเดียวกันมากมายถึงเพียงนี้ น้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้” ยวียวี่เหลียนที่มีความสำรวมอยู่เจ็ดส่วน เอ่ยขึ้นมาช้าๆ

“ใครว่าล่ะ การที่พวกเรามีโอกาสเห็นองค์หญิงก้าวเดียวถึงฟ้าด้วยสายตาของตนเอง นับว่าเป็นเกียรติของพวกเรา” ผู้บำเพ็ญตนหนุ่มคนหนึ่งรีบกล่าวว่า “ฝ่าบาทของพวกเราเคยชื่นชมว่า องค์หญิงคือธิดาสวรรค์แห่งยุค เทียบเคียงเทพธิดาสยบฟ้า และจักรพรรดิมังกรผงาดฟ้า ถือเป็นหนึ่งในสามสาวงามมหาสมุทรอุดรของพวกเรา”

ชายหนุ่มผู้นี้มีชาติกำเนิดมาจากเมืองปีศาจมู่จั๋ว เป็นหลานศิษย์ของโอรสสวรรค์มังกรทอง เรียกตัวเองว่าองค์ชายนกยูง การที่เขาประจบยวียวี่เหลียนเช่นนี้ แน่นอน ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง แต่ทำเพื่อโอรสสวรรค์มังกรทอง ซึ่งเป็นฝ่าบาทของพวกเขา

สืบเนื่องจากโอรสสวรรค์มังกรทองแห่งเมืองปีศาจมู่จั๋วเคยมีความคิดที่จะเกี่ยวดองสมรสกับตระกูลยวี ต้องการแต่งงานกับยวียวี่เหลียน เพียงแต่ถูกพักเอาไว้จากการที่ยวีไท่จวินจะออกจากการกักตน

ดังนั้น องค์ชายนกยูงจึงถือโอกาสนี้พูดให้กับอาจารย์อาของตน

“มิได้ โอรสสวรรค์มังกรทองชมเกินไปแล้ว” ยวียวี่เหลียนอมยิ้มและกล่าวตอบ คำพูดลักษณะเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกเป็นสุขยิ่งนัก

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ว่อหลงเสวียนและจื่อชุ่ยหนิง คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนี้ของมหาสมุทรอุดร อีกทั้งรูปโฉมของนางทั้งสองนับว่าสุดยอดในหล้า เมื่อเปรียบเทียบกับว่อหลงเสวียนและจื่อชุ่ยหนิงแล้ว แน่นอน ยวียวี่เหลียนย่อมไม่อาจเทียบเทียมได้ ยังห่างชั้นอยู่ในระดับหนึ่ง

แต่ทว่า หลายคนจงใจประจบยวียวี่เหลียนและบ้านตระกูลยวี ดังนั้น จึงนำยวียวี่เหลียนมาเรียงเอาไว้ด้วยกันกับว่อหลงเสวียนและจื่อชุ่ยหนิง ยวียวี่เหลียนเองก็ดูจะยินดีอย่างยิ่ง และรู้สึกสุขใจยิ่งกับคำเยินยอลักษณะเช่นนี้

ภายใต้ดาวล้อมเดือน ยวียวี่เหลียนได้มาถึงด้านหน้าบันไดเสียงสิบสองขั้น ในเวลานี้ สายตาของยวียวี่เหลียนมองขึ้นไปด้านบน และสายตาสุดท้ายไปตกอยู่ที่ผู้ชายที่อยู่บนบันไดขั้นที่สิบเอ็ดคนนั้น

ผู้ชายคนนี้มีลักณะท่าทางโอหังอวดดี หมางเมินใต้หล้า รูปงามไร้ผู้เทียบเทียม มีบุคลิกลักษณะที่ยอดเยี่ยม คล้ายดั่งเป็นราชาที่มีความสามารถล้ำเลิศ ท่วงท่าดั่งมังกรแลพยัคฆ์ ไม่รู้ว่าได้ทำให้หญิงสาวจำนวนเท่าไรต้องหลงรักเมื่อได้พบเห็น

ลักษณะท่าทางของพี่หลงปราศจากผู้เทียบเทียม ยากที่จะหาใครมาต่อกรได้นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ราชันเซียนในยุคนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่หลง” นัยน์ตาของยวียวี่เหลียนเปล่งประกายประหลาดขึ้นมาขณะมองดูร่างเงาร่างนี้ ไม่ได้ปิดบังความรักใครชื่นชอบของตน ดูมีจิตใจที่โน้มเอียงเขาหายิ่งนัก

สายตาของบรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองไปที่ร่างเงาของชายหนุ่มที่ปรากฎอยู่บนขั้นที่สิบเอ็ด เมื่อได้ยินยวียวี่เหลียนพูดเช่นนี้ และคนทียืนอยู่อย่างทระนงบนขั้นที่สิบเอ็ดก็มีเพียงเขาผู้เดียวเท่านั้น

ทุกคนต่างมีท่าทีที่หนักแน่นจริงจัง เมื่อได้ยินท่วงท่าของชายหนุ่มผู้นั้น แม้แต่ผู้บำเพ็ญตน กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักใครชื่นชอบในตัวของยวียวี่เหลียนถึงกับต้องทอดถอนใจออกมาเบาๆ และรู้สึกสลด แม้ว่าในใจของพวกเขาจะไม่สบายใจนัก แต่ใช่ว่าจะไม่ยอมรับว่าชายหนุ่มผู้นี้สุดยอดปราศจากผู้เทียบเทียมโดยแท้

“โอรสราชันหลงเป็นผู้ที่เป็นหนึ่งไม่มีสองในโลกโดยแท้ ขณะที่เขาสาบานเป็นพี่น้องกับฝ่าบาทของข้านั้น ฝ่าบาทเคยตรัสว่า ยุคนี้ราชันเซียนจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา” องค์ชายนกยูงที่สำเร็จมรรคผลมาจากไก่ป่าตัวหนึ่งก็ต้องชมเปาะด้วยความเลื่อมใส

“ถูกต้อง ยุคนี้จะมีใครเล่าที่สามารถแย่งชิงชะตาฟ้ากับพี่หลงได้! ราชันเซียนในยุคนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพี่หลงเท่านั้น!” นัยน์ตาทั้งสองของยวียวี่เหลียนเปล่งประกายแวววับออกมาอย่างต่อเนื่อง มองดูร่างเงานี้ด้วยประกายตาที่ดั่งน้ำที่กระเพื่อมเป็นวง แทบอยากจะโผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาให้รู้แล้วรู้รอดไป กล่าวว่า “พี่หลงได้สำเร็จกายเซียนขั้นสมบูรณ์ ปราศจากผู้ต่อกรในโลกแล้ว “ ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ นางอดที่จะเผยรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหลออกมาไม่ได้

“นั่นสิ นั่นสิ หากโอรสราชันลงมือ แม้แต่จักรพรรดิเก้าแดนก็สังหารได้ แล้วยังจะมีใครคิดเป็นศัตรูกับเขา” ไม่ว่าผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์จะเป็นดาวรุ่งหรือไม่ เมื่อเอ่ยถึงชายหนุ่มผู้นี้แล้วได้แต่ยอมศิโรราบโดยสิ้นเชิง

“หลงอ้าวเทียน…” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักชอบในตัวของยวียวี่เหลียนรู้สึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก ได้พูดถึงชื่อนี้ออกมาแผ่วเบา ต่อให้ไม่สบอารมณ์เช่นใด แต่ว่า ได้แต่โกรธแต่ไม่กล้าแสดงออกมา ทำได้แค่แสดงออกถึงความไม่พอใจของตนเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล