ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล นิยาย บท 1593

ตอนที่ 1593 ชื่อเสียงอันโด่งดังของคนโหด

ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์สบตากันและกัน เมื่อเห็นหลี่ชิเย่เดินเข้ามา พวกเขาล้วนแล้วแต่รู้สึกแปลกใจว่า ชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครกันแน่ ถึงกับหาญกล้าพูดคำเช่นนี้ออกมา

ความจริงแล้ว ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างเจ้าจ้องมองข้า ข้าจ้องมองเจ้า ไม่มีใครรู้จักหลี่ชิเย่แม้แต่คนเดียว ยิ่งไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร

ความจริงแล้ว ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่ได้มองคนเช่นนี้อยู่ในสายตา เมื่อมองเห็นท่าทางที่ธรรมดาไม่มีอะไรสะดุดตาแต่อย่างใด

เดิมทียวียวี่เหลียนต้องการอาศัยหลินเฮ่าช่วยนำพาความรักขอตนผ่านไปยังชายในดวงใจ เวลานี้กลับถูกผู้เยาว์ที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าทำลาย พลันมีสีหน้าที่ดูไม่ดี ถึงกับกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “เรื่องของตระกูลยวี ไม่ต้องให้คนนอกมายุ่ง”

หลังจากที่หลี่ชิเย่เดินเข้ามาแล้ว เพียงมองหน้ายวียวี่เหลียนแวบบหนึ่ง ส่ายหัวเบาๆ กล่าวว่า “ชื่อเสียงของบรรพบุรุษล้วนถูกทำลายด้วยน้ำมือสวะอย่างพวกเจ้า!”

สีหน้าของยวียวี่เหลียนเปลี่ยนไปทันที ถึงกับจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ นางกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเป็นใครกันแน่ ถึงกับกล่าววาจาโอ้อวดไร้ยางอาย!”

“องค์หญิง ไม่จำเป็นต้องถามว่าเขาเป็นใคร เมื่อบังอาจกล่าววาจาโอ้อวดไร้ยางอาย ลงมือสั่งสอนมันก็สิ้นเรื่อง ให้ข้าระบายความแค้นในใจให้องค์หญิงเอง สั่งสอนเจ้าผู้เยาว์ที่โง่เขลาคนนี้” หลินเฮ่ารีบกล่าวต่อยวียวี่เหลียน

นี่แหละคือความมั่นใจของผู้เป็นศิษย์พรรคเซียนเหิน ไม่เคยเกรงกลัวที่จะเป็นศัตรูกับผู้ใดใต้หล้าทั้งสิ้น!

“ใยต้องให้องค์หญิงและคุณชายหลินลงมือ ผู้เยาว์ประเภทไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่คู่ควรให้ท่านทั้งสองลงมือ เป็นการทำให้มือของท่านทั้งสองเปื้อนเปล่าๆ” เวลานี้ องค์ชายนกยูงจากเมืองปีศาจมู่จั๋วได้กระโดดออกมา จงใจประจบยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่า ชี้หน้าหลี่ชิเย่ตวาดเสียงดังว่า “ไอ้หนู กล้าลบหลู่ต่อองค์หญิง โทษสมควรตายหมื่นครั้ง ลงมือเถอะ ภายในหนึ่งกระบวนท่าจะต้องจัดการเจ้าจนหมอบ และหักแขนหักขาเจ้าเสีย!”

การกระโดดออกมาชี้หน้าตวาดต่อหลี่ชิเย่ขององค์ชายนกยูง ทำให้ข่งเชียะหมิงหวางที่ปลอมตัวเป็นเด็กรับใช้ถึงกับแอบหัวเราะและส่ายหน้า คนประเภทนี้ไม่ได้รู้เลยว่ากำลังเป็นศัตรูกับใครอยู่ โดยไม่รู้เลยว่าตัวเองจะต้องตายอย่างไร

หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นขณะที่องค์ชายนกยูงกระโดดออกมา เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ยิ้มกล่าวเฉยเมยออกมาว่า “เจ้ามีชื่อว่าอะไร?”

“คุณชายอย่างข้าคือองค์ชายนกยูงแห่งเมืองปีศาจมู่จั๋ว!” องค์ชายนกยูงหัวเราะเยาะทีหนึ่ง แจ้งชื่อของตนออกไป ดูลำพองใจเหลือเกิน จะอย่างไรเสีย เขาก็เป็นผู้ที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างในมหาสมุทรอุดร

“องค์ชายนกยูง?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะออกมา จากนั้นกล่าวกับข่งเชียะหมิงหวางที่อยู่ข้างๆ ว่า “แค่ปีศาจไก่ป่าตัวหนึ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนกยูง เป็นการทำให้คำว่า ‘นกยูง’ ต้องเสื่อมเสียแล้วกระมัง”

เมื่อองค์ชายนกยูงถูกหลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ พลันทำให้สีหน้าแดงก่ำ เขาไม่ต้องการให้ใครพูดถึงชาติกำเนิดของเขามากที่สุดกล่าวสำหรับเขาที่เป็นไก่ป่าตัวหนึ่งสำเร็จมรรคผลแล้ว ภายในใจของเขามีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ เวลานี้ เมื่อหลี่ชิเย่พูดเช่นนี้ออกมาพลันทำให้เขาพาลโกรธขึ้นมา ร้องเสียงดังว่า “เจ้าเดรัจฉานน้อยเข้ามารับความตาย ข้าจะสังหารเจ้าในหนึ่งกระบวนท่า”

บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยืนอยู่ข้างเดียวกัน มองดูด้วยท่าทีอมยิ้ม สำหรับยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่านั้น เห็นว่าผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามนี้ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง

“ตบปาก” หลี่ชิเย่ขึ้คร้านจะไปมองดูองค์ชายนกยูงเสียด้วยซ้ำ สั่งการกับข่งเชียะหมิงหวางที่อยู่ข้างกาย

“เพียะ เพียะ เพียะ…” พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ข่งเชียะหมิงหวางลงมือทันที แม้ว่าทักษะยุทธขององค์ชายนกยูงในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่นับว่าไม่เลวนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข่งเชียะหมิงหวางแล้วนับว่าห่างชั้นกันมาก เพียงชั่วพริบตาเดียวก็ถูกข่งเชียะหมิงหวางสลับหน้ามือหลังมือตบไปสิบกว่าฉาด

เวลานี้ หน้าขององค์ชายนกยูงถูกตบจนแดงไปหมด ปรากฏเลือดซึมออกทางมุมปาก เขาถูกตบจนเห็นดาวเห็นเดือนเต็มไปหมด เมื่อได้สติกลับมาบ้วนเอาเลือดออก แม้แต่ฟันก็หลุดออกมาด้วย

พลันที่ข่งเชียะหมิงหวางลงมือก็ได้เลาะเอาฟันของเขาออกมา นี่นับว่าข่งเชียะหมิงหวางยั้งมือแล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ พลันที่ข่งเชียะหมิงหวางลงมือก็คงสังหารเขาไปแล้ว

“เจ้าเดรัจฉานน้อย ข้าจะฆ่าเจ้า!”เวลานี้ องค์ชายนกยูงโกรธจนแทบคลั่ง คำรามเสียงดังออกมา ประกายพุ่งขึ้นมารุนแรง ด้านหลังของเขาพลันปรากฏมีดที่คมกริบหลายร้อยเล่ม มีดที่คมกริบเหล่านี้เสมือนหนึ่งเป็นลูกธนู มีความรวดเร็วมาก และเปี่ยมด้วยพลังเข้าครอบคลุมข่งเชียะหมิงหวางเอาไว้ทันที

เสียง “ปัง” ดังขึ้น พลันที่ข่งเชียะหมิงหวางลงมือก็จัดการทำลายมีดทุกเล่มจนกระจุย “ปุ” มือที่ชำนาญของข่งเชียะหมิงหวางพลันคว้าตัวองค์ชายนกยูงเอาไว้ได้

“อ๊ากก” ข่งเชียะหมิงหวางออกแรงบีบเข้าไป พลันทำลายร่างแปลงขององค์ชายนกยูงเสีย เผยให้เห็นถึงร่างแท้จริงออกมา ปรากฏเป็นไก่ป่าต่อหน้าคนทุกคน โดยที่ไก่ป่าตัวนี้มีขนที่งดงามมาก เวลานี้ ถูกข่งเชียะหมิงหวางจับตัวเอาไว้ ทำเอามันตกใจจนส่งเสียงร้องกรู กรูออกมา

“คุณชาย จัดการกับมันอย่างไรดี?” ข่งเชียะหมิงหวางมองดูหลี่ชิเย่และเอ่ยขึ้นมา

เวลานี้ ความเป็นความตายขององค์ชายนกยูงขึ้นอยู่กับคำๆ เดียวของหลี่ชิเย่เท่านั้นเอง

ผู้เยาว์เท่านั้นเอง ข้าขึ้คร้านไปฆ่ามัน” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมยออกมาโดยขี้คร้านจะมองดูองค์ชายนกยูงแม้แต่แวบเดียว

“ปัง” ข่งเชียะหมิงหวางจัดการโยนองค์ชายนกยูงลงบนพื้นไปตามอารมณ์ ทำเอาร่างของมันกระแทกจนเลือดกระฉูด ไม่ง่ายนักกว่าที่องค์ชายนกยูงจะกลับคืนร่างแปลงและเผยเป็นร่างมนุษย์ขึ้นมา

เวลานี้ องค์ชายนกยูงตกใจจนหมอบอยู่กับพื้นตรงนั้น ไม่กล้าแม้กระทั่งจะลุกขึ้นยืน

ทันใดนั้น สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแปรเปลี่ยนไป รวมทั้งยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่าด้วย ในบรรดากลุ่มคนรุ่นใหม่แล้ว ถือว่าทักษะขององค์ชายนกยูงไม่เลวนัก แต่ว่า กลับพ่ายแพ้ภายในหนึ่งกระบวนท่า หากคิดจะฆ่าเขามันง่ายเสียยิ่งกว่าบดขยี้มดตัวหนึ่งด้วยซ้ำ

ที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นก็คือ คนที่ลงมือเป็นเพียงเด็กรับใช้เท่านั้นเอง ชายหนุ่มที่แลดูแสนจะธรรมดาตรงหน้าในฐานะนาย มันจะน่ากลัวเพียงใด

เวลานี้ แม้แต่ยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่ายังถึงกับต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว พวกเขาก็เป็นคนที่รู้ดี รู้ว่าได้เจอะเจอเข้ากับยอดฝีมือที่ไม่เปิดเผยตัวเสียแล้ว แค่เด็กรับใช้คนหนึ่งเท่านั้นยังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ผู้เป็นนายย่อมประเมินได้

“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ต่อให้ทั้งยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่าจะถูกทำให้ตกใจยิ่งนัก แต่ว่า จะอย่างไรเสียก็มีชาติกำเนิดเป็นสำนักเจ้าลัทธิที่ปราศจากผู้ต่อกร ยังคงสามารถสงบอารมณ์เอาไว้ได้ โดยยวียวี่เหลียนได้เอ่ยถามจริงจังขึ้นมา

“หลี่ชิเย่ “ หลี่ชิเย่มองดูยวียวี่เหลียนแวบหนึ่ง กล่าวท่าทีเรียบเฉยออกมา

“คนโหดอันดับหนึ่ง…” ไม่รู้ใครคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ร้องเสียงแหลมออกมา ทันใดนั้น บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างมีสีหน้าขาวซีด หลายคนก้าวถอยหลังไปหลายก้าวติดต่อกัน ในเวลานี้ ตำแหน่งที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ได้เว้นเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ขึ้นมา ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างออกห่างจากตัวเขาไปไกลมาก

แม้แต่ยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่าที่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักเจ้าลัทธิที่ปราศจากผู้ต่อกร ยังคงตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว

ชื่อคนโหดอันดับหนึ่งเป็นชื่อที่รับรู้กันทั่วหล้า บางทีชื่อหลี่ชิเย่อาจยังมีคนที่ไม่รู้จัก แต่ทว่า ชื่อคนโหดอันดับหนึ่ง มีใครที่ไม่รู้บ้าง?

ทำลายเขาท่าคง เข่นฆ่าแคว้นโบราณชิงเสียน เนรเทศพรรคเซียนเหิน ผลงานการสู้รบไร้ผู้เทียบเทียม เพลิงแห่งความโหดที่ดั้งคลื่นยักษ์ ชื่อเสียงโด่งดัง กล่าวได้ว่า ผู้คนจำนวนมากเท่าไรในแดนมนุษย์กษัตราที่ได้ยินชื่อคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว ล้วนแล้วแต่ต้องตกใจจนก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว

เวลานี้ ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ จ้องมองดูหลี่ชิเย่ด้วยสีหน้าที่ขาวซีด ขาทั้งสองข้างของพวกเขาต่างไม่เอาการเสียเลยสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่คนโหดอันดับหนึ่งได้ทำเอาไว้ทุกคนต่างก็รู้ดี การเป็นศัตรูกับเขา รังแต่จะมีจุดจบด้วยการถูกสังหาร ไม่เว้นกระทั่งสายสำนักราชันเซียน กระทั่งพรรคเซียนเหินยังถูกเนรเทศ ผู้เยาว์เช่นพวกเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนโหดอันดับหนึ่งแล้วนับเป็นตัวอะไร ต้องการสังหารพวกเขามันก็แค่มดปลวกที่ถูกบี้ให้ตายเท่านั้น

ทุกคนต่างรู้ดีว่า กระทั่งถึงเวลานี้ การปรากฏตัวของพรรคเซียนเหินที่ได้รับการยกย่องว่าปราศจากผู้ต่อกร ต้องเสียเปรียบอยู่เพียงครั้งเดียว และเป็นครั้งเดียวที่ถูกคนโหดอันดับหนึ่งเนรเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้ แต่ คนโหดอันดับหนึ่งกลับทำได้แล้ว

ดังนั้น แม้แต่หลินเฮ่าที่มองว่าตัวเองสูงส่งนัก เมื่อได้ยินชื่อของคนโหดอันดับหนึ่งแล้ว ก็ต้องตกใจจนก้าวถอยหลังไปหลายก้าว คนโหดอันดับหนึ่งย่อมไม่ตกใจในชื่อของพรรคเซียนเหินพวกเขาอยู่แล้ว

“ดูท่ายังมีคนที่เคยได้ยินชื่อของข้ามาก่อน” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย

ในเวลานี้ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกัน แม่แต่ยวียวี่เหลียนและหลินเฮ่าเองก็รู้สึกหวาดผวาอยู่บ้าง แม้ว่าทักษะยุทธของพวกเขานับว่าแข็งแกร่งอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเปรียบกับหลี่ชิเย่ที่สามารถสังหารระดับจักรพรรดิเทพ เนรเทศพรรคเซียนเหินได้ล่ะก็ ห่างชั้นมากเหลือเกิน

“เทียบกับไท่จวินของพวกเจ้าแล้ว ผู้เยาว์ของตระกูลยวีนับว่าน่าผิดหวังโดยแท้” หลี่ชิเย่มองดูยวียวี่เหลียนทีหนึ่ง ส่ายหัวและทอดถอนใจออกมาเบาๆ

สิ่งนี้ใช่ว่าเป็นเพราะหลี่ชิเย่ดูถูกยวียวี่เหลียน แต่แค้นที่เหล็กไม่สามารถกลายเป็นเหล็กกล้าได้ ยวีไท่จวินในครั้งนั้นคือคนสนิทของเขา เป็นขุนนางคนสำคัญ เป็นขุนพลที่ห้าวหาญ แต่แล้ว เมื่อยวียวี่เหลียนเปรียบเทียบกับยวีไท่จวินที่ยังคงมีอายุน้อยแล้วนั้น ไม่ได้หนึ่งในสิบเสียด้วยซ้ำ คนของตระกูลยวีไม่มีผู้ที่จะมาสืบทอดต่อไป ทำให้หลี่ชิเย่ต้องส่ายหัวก็เรื่องนี้

ยวียวี่เหลียนเข้าใจว่าตนเองนั้นคือสตรีผู้สูงศักดิ์ เข้าใจว่าตนเองนั้นสามารถเทียบเคียงกับว่อหลงเสวียน หรือจื่อชุ่ยหนิงได้ มาวันนี้กลับถูกหลี่ชิเย่ว่าเสียไม่มีชิ้นดี ทำให้ยวียวี่เหลียนรู้สึกเสียหน้ามาก

“หลี่ชิเย่ แม้ว่าชื่อเสียงของเจ้าจะสยบไปทั่วดินแดนภาคกลาง แต่ว่า ในมหาสมุทรอุดรยังไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมาออกคำสั่งได้” ยวียวี่เหลียนกล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ในมหาสมุทรอุดร ในเมืองฟงเหวินก็ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะทำอะไรตามอำเภอใจได้”

“ที่ไหนที่ข้าไม่สามารถทำตามอำเภอใจได้?” หลี่ชิเย่มองดูยวียวี่เหลียนแล้วถึงกับหัวเราะออกมาว่า “อาศัยเจ้า หรือว่าอาศัยตระกูลยวี และหรืออาศัยพรรคเซียนเหิน? สามารถทำตามอำเภอใจได้หรือไม่นั้นหาใช่สิ่งที่เจ้าสามารถมองเห็นได้ และไม่ใช่ระดับอย่างเจ้าสามารถเข้าใจได้”

“ที่มหาสมุทรอุดร ยกเว้นพรรคเซียนเหิน ยังมีเมืองสมุทรสยบฟ้า” ยวียวี่เหลียนพูดน่าเกรงขามออกมาว่า “ยังมีกองทัพมังกรดำ!”

คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับกลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา ชื่อของคนโหดอันดับหนึ่งทำให้หลายคนต้องหวาดผวา

“ความกล้าพอมีอยู่บ้าง” หลี่ชิเย่หัวเราะ และส่ายหน้าเบาๆ กล่าวว่า “เสียดาย เน้นพึ่งพาชื่อเสียงของบรรพบุรุษมากเกินไป กลับไปเสีย อย่าได้มาทำขายหน้าผู้คนตรงนี้ กลับไปปิดห้องทบทวนความผิดให้ดีๆ หากสามารถเข้าใจชีวิตและตระหนักในหลักสัจธรรม ยังคงมีอนาคตที่ดีอยู่”

ในสายตาของหลี่ชิเย่มองว่า ไม่ว่าจะเป็นยวียวี่เหลียนหรือหลินเฮ่าก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นประเภทไร้อันดับ การที่เขากล่าวเตือนยวียวี่เหลียนเช่นนี้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เห็นแก่หน้าของยวีไท่จวินทั้งสิ้น หากเป็นคนอื่นเขาขี้คร้านจะมองหน้าพวกเขาสักครั้งด้วยซ้ำ

ใบหน้าของยวียวี่เหลียนแดงก่ำเมื่อถูกหลี่ชิเย่ว่ากล่าวเช่นนี้ เพลิงแห่งความโกรธภายในใจลุกโชน นางเคยถูกใครที่ไหนพูดจาดูถูกเช่นนี้มาก่อน

“หลี่ชิเย่ เจ้าไม่สามารถปราศจากผู้ต่อกรได้ตลอดกาล!” ไม่ง่ายนักกว่าที่หลินเฮ่าจะสะกดอารมณ์เอาไว้ได้ เขากล่าวน่าเกรงขามออกมาว่า “ยุคนี้ ยังคงมีคนที่สามารถเอาชนะเจ้าได้ ยังมีคนที่สามารถเหยียบเจ้าให้จมบาทาได้ เจ้าหาใช่ดาวรุ่งเพียงหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดของยุคนี้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล